คนกล้าของไทย...เสียชีพ พึงรักษาสัตย์ยิ่งชีพ..นี่คือที่มาบทโศกเพลงนี้

กิ่งโศก

nn73.gif
.... น้ำตา...ฮึม.. ฮือๆ...อาบแก้ม...เสียงขับขาน เคล้าทำนองชวนโศกแผ่วนี้ กิ่งโศกเปิดเพลง  น้ำตาแสงใต้  ขับร้องโดย คุณชรินทร์ นันทนาคร...ฟังแล้วเยือกเย็น แกมเศร้า แลไพเราะ...ทำให้กิ่งโศกต้องย้อนภาพ เช่นละครที่เคยแสดงในทีวี
....ภาพ..ที่บังเกิดขึ้นในจินตนาการ ตามบทเพลง ..... สิน  หรือ นายท้ายเรือของสมเด็จพระเจ้าเสือ..นามพันท้ายนรสิงห์ ..ที่ทำให้การเสด็จทางชลมารค ต้องหยุดชงัก ..ณ. คลองโคกขาม..
..ภาพต่อมา..คือ สำแดงความเสียชีพอย่าเสียสัตย์ ตราไว้ให้บรรดา ลูกหลานไทยควรจดจำยิ่ง..ด้วยการยอมให้ถูกประหาร โดยการตัดคอ ..ตามกฏ..ในสมัยนั้น แม้นว่า เจ้าอยู่หัวของเจ้าสิงห์ จะ ให้ตัดหัวแบบจำลอง..แต่นายพันท้ายคนนี้กลับ.มิยินยอม...นี่คือ..ความเป็นคนไทยแท้ยิ่ง..
..ภาพที่ แม่ศรีนอน..ที่เข้ามาดู ณ..ลานประหาร ริมคลองโคกขามนั้น...น้ำตาแม่หลั่งไหลเป็นสาย..
แก้มแม่..ชุ่มไปด้วยหยาด ชลนัยน์...ยามต้องแสงสว่าง จากไฟ ที่จุดปัก ด้วยไต้ ...สะท้อน ใจ เจ้าสิน..ยิ่ง..
ลาก่อน ...ศรีนวล...ยอดดวงใจ..
nn23.gif
..วันนี้ขอมาในแนวเศร้า..มาดูเนื้อหา ของบทเพลง..ก่อนนะครับ
v-norasing.JPG
   
น้ำตาแสงไต้
นวลเจ้าพี่เอย
 คำน้องเอ่ยล้ำคร่ำครวญ
ถ้อยคำเหมือนจะชวน
 ใจพี่หวนครวญคร่ำอาลัย
น้ำตาอาบแก้ม
เพียงแซมเพชรไสว
แวววับจับหัวใจ
เคล้าแสงไต้งามจับตา
นวลแสงเพชร
เกล็ดแก้วอันล้ำต่า
คราเมื่อแสงไฟส่องมา
วับวาวชวนชื่นชม
น้ำตาแสงไต้
ดื่มใจพี่ร้าวระบม
ไม่อยากพรากขวัญภิรมย์
จำใจข่มใจไปจากนวล
li40.gif
...........................................................
..........กิ่งโศก หาที่มาของเพลง ที่แต่งมาจาก พงศวดารไทย..หรือเรื่องราวในประวัติศาสตร์ไทย..ว่ากว่าจะได้เป็นเพลงนี้ ขึ้นมา....มาจาก..วงเหล้า ครับ  หุหุ...ตามมาครับทุกท่าน
 คุณบูรพา  อารัมภีร์ ...บุตรของครู สง่า อารัมภีร์..ได้ เล่าบันทึกเกี่ยวกับเพลงนี้
พ่อเล่าว่า ก่อนจะแต่งเพลง น้ำตาแสงไต้ ได้เมื่อปลายปีพ.ศ.๒๔๘๗นั้นได้เขียนเนื้อเพลงมาก่อนแล้ว ซึ่งเพลงแรกที่แต่งขึ้นในชีวิตก็คือ บัวงาม หรือ บุปผาไทย แต่งตอนที่น้ำท่วมใหญ่กรุงเทพฯปีพ.ศ.๒๔๘๕ เวลาผ่านมานานตอนนี้จำเนื้อทำนองไม่ได้แล้ว เป็นการเขียนให้กับกองดุริยางค์ทหารอากาศ
ครั้งนั้นกองดุริยางค์ทหารอากาศมีนักประพันธ์ที่พ่อถือเป็นครู เป็นแบบอย่างในการแต่งเพลงคือ ครูโพธิ์ ศานติกุล(โพธิ์ดำ) และ ครูโพธิ์ ชูประดิษฐ์(โพธิ์ขาว) สำหรับคำร้องนั้นคือ เรืออากาศโททองอิน บุญยเสนา มีนามปากกาว่า เวทางค์ พ่อชอบให้พวกลูกๆเรียกว่า ลุงผี (แต่ตัวพ่อเองเรียกว่า พี่อิน ไม่ยักเรียกว่า พี่ผี) พ่อพูดเสมอว่า ลุงผีนี่เป็นเสมือนครูแห่งชีวิต คบหากันมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ จนสงครามเลิกเรื่อยมาจนพ่อมาอยู่กับคณะละครเวที ศิวารมณ์ ส่วนลุงผีรับราชการทหาร แล้วต่อมาขอลาออกจากราชการมามีอาชีพเขียนหนังสือขายอย่างเดียว เคยแต่งละครให้คณะศิวารมณ์แสดงด้วยเรื่อง มณฑาทิพย์ ดำรงประเทศ และฟ้าประกาศิต ผมรู้ว่าพ่อกับลุงผีสนิทกันมากเพราะชอบบางอย่างเหมือนกัน นั่นคือตั้งวงเสวนาแกล้มสุราด้วยกันเป็นประจำ และลุงผีนี่เองที่เป็นพ่อสี่อให้พ่อ ชักนำทุกอย่างให้พ่อกับแม่ของผมได้มาอยู่กินด้วยกันตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๔๙o โน่น ผมจำได้ว่าตัวท่านนั้นมีรูปร่างผอม ๆ ดำ ๆ ตัวเล็กๆหน้าเหลี่ยม คิ้วดกดำ เวลาพูดมีเสียงดัง ชอบออกท่าทางไปด้วย และที่ผมจำได้มาตลอดคือ ท่านชอบทำหน้าทำตาหลอกล้อเด็กที่อยู่ใกล้ ๆ ให้กลัวสมกับชื่อของตัวเองที่ว่า ผี นั่นแหละ
li40.gif
พ่อบอกว่าปีนั้นละครศิวารมณ์กำลังซ้อมละครเรื่อง พันท้ายนรสิงห์ อยู่ที่ศาลาเฉลิมกรุง มี สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ แสดงเป็นพระเอก สุพรรณ บูรณะพิมพ์ แสดงเป็นนางเอก มี ครูเนรมิต และ ครูมารุต เป็นผู้กำกับละคร ตอนนั้นพ่อเป็นนักเปียโนประจำคณะละครนี้ ต้องเล่นดนตรีให้นาฏศิลป์ซ้อมและต่อเพลงให้นักร้อง พ่อบอกว่าช่วงนั้นเล่นเปียโนจนเมื่อยนิ้วไปหมด จนเหลือเวลาอีก ๔-๕ วันก่อนละคร พันท้ายนรสิงห์ จะแสดงจริง และทุกๆอย่างไม่ว่าจะเป็นการแสดง ตัวละคร ฉาก นาฏศิลป์ พร้อมที่จะแสดงได้แล้ว ขาดแต่เพลงเองของเรื่องคือ น้ำตาแสงไต้ ทำนองยังไม่เสร็จ เพราะคณะศิวารมณ์สมัยนั้นมีผู้แต่งเพลงให้คือ คุณประกิจ วาทยากร และ ครูโพธิ์ ชูประดิษฐ์ แต่ทำนองเพลงที่ทั้งสองท่านส่งมายังไม่เป็นที่ถูกใจ เจ้าของเรื่องและผู้กำกับที่ต้องการให้เป็นเพลงที่มีสำเนียงไทยแท้ มีวิญญาณไปในทาง หวานเย็นและเศร้า ยิ่งใกล้วันแสดงเข้ามา ทำนอง น้ำตาแสงไต้ ก็ยังไม่เสร็จ ทำให้เจ้าของเรื่อง ผู้กำกับและผู้ร่วมงานต่าง ๆ อึดอัดใจไปตาม ๆ กัน
li40.gif
พ่อเล่าว่า เย็นวันหนึ่งหลังจากเลิกซ้อมดนตรีแล้ว ลงมาด้านหน้าของศาลาเฉลิมกรุงก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเอง คนที่เรียกก็ไม่ใช่ใคร ลุงผี นั่นเองยืนยิ้มอยู่ หลังจากทักทายปราศรัยกันแล้วก็ชวนกันไปที่ร้านโว่กี่ (เดี๋ยวนี้หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้) เพื่อตั้งวงเสวนาแกล้มสุรากันให้ครึกครื้นอย่างที่เคยปฏิบัติมา สุรายี่ห้อ แมวคู่ ที่สั่งมาครั้งแรกหมดไปแล้วหนึ่งขวดพร้อมกันแกล้มและโซดา แมวคู่ ขวดที่สองก็ตามมาอยู่บนโต๊ะ การเสวนาเริ่มออกรสชาติ ลุงผีถามพ่อถึงกิจการของคณะศิวารมณ์ พ่อตอบว่า ตอนนี้ทุกๆคนเป็นห่วงทำนองน้ำตาแสงไต้ เพราะผู้แต่งส่งมาให้ยังไม่เป็นที่พอใจของผู้กำกับและเจ้าของเรื่อง เพราะต้องการสำเนียงไทยแท้และมีวิญญาณเพลงทางหวานเย็นและเศร้า ลุงผีบอกว่า เพลงไทยนั้นมีเยอะแต่ที่หวานเย็นและเศร้านั้นมีน้อย แต่ที่อั้วชอบมีสองเพลงคือ เขมรไทรโยค และ ลาวครวญ เท่านั้น ไม่ทันขาดคำก็ร้องเพลง เขมรไทรโยค ให้ฟัง ร้องยังไม่ทันจบเพลงก็ขึ้นเพลง ลาวครวญ สลับกันไปอย่างนี้เรื่อยๆ ลุงผีร้องเสียงดังและทำท่าทางประกอบด้วย เป็นที่ฮือฮาของคนในร้านหลายๆโต๊ะ พอเห็นคนหัวเราะแกก็หยุดร้อง เมื่อแมวคู่ขวดที่สองหมดลงต่างคนต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ลุงผีนั่งสามล้อไปทุ่งมหาเมฆ ส่วนพ่อกลับมาศาลาเฉลิมกรุง แล้วคืนนั้นก็นอนหลับอยู่ที่นั่น พ่อเล่าว่า ฝันเห็นคนสี่คน เป็นผู้หญิงหนึ่ง ผู้ชายสาม ผู้ชายคนแรกได้เล่นเปียโนเพลง เขมรไทรโยค ให้อีกสามคนฟัง เมื่อเพลงจบผู้หญิงก็เล่นเปียโนเพลง ลาวครวญ ให้ฟัง ต่อจากนั้นผู้ชายคนที่สองได้เล่นเปียโนโดยรวมเอาวิญญาณของ เขมรไทรโยค และ ลาวครวญ มาคลุกเคล้ากันจนเกิดเป็นเพลงใหม่ขึ้นมา มีความไพเราะมากอีกเพลงหนึ่ง สำหรับชายคนที่สามยืนฟังเพลงด้วยความพอใจ
li40.gif
พ่อถูกคนทำความสะอาดปลุกขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น รีบกลับบ้านไปเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและจะกลับมาซ้อมดนตรีใหม่ แต่พอถึงบ้านก็เกิดอาการแฮงค์โอเวอร์ ต้องนอนต่ออีกจนเกือบเที่ยง ตื่นมาอีกทีพอหายสร่างจากฤทธิ์ แมวคู่ ก็ตรงไปศาลาเฉลิมกรุง เมื่อไปถึงก็ถูกต่อว่าเป็นการใหญ่ เพราะไปทำงานสายและใครๆเขาก็รออยู่ เมื่อซ้อมดนตรีให้นาฏศิลป์และละครจนเลิกแล้ว ตอนนั้นเป็นเวลาบ่ายสามโมง มีคนเหลืออยู่สี่คนคือ ครูเนรมิต ครูมารุต สุรสิทธิ์ และพ่อ ครูเนรมิตบ่นเรื่องทำนองเพลง น้ำตาแสงไต้ จะไม่ทันวันแสดงละครเพราะเหลือเวลาน้อยเต็มที แล้วตอนนั้นเองพ่อหันไปดีดเปียโนทำนองเพลงขึ้นเพลงหนึ่ง ก็คือเพลงที่ได้ยินมาจากเมื่อคืนที่นอนหลับนั่นเอง ครูเนรมิตถามว่า สง่า นั่นเล่นเพลงอะไร พ่อถามว่า เพราะหรือครับ ครูเนรมิตพยักหน้า และเมื่อพ่อดีดเปียโนจนจบเพลงทั้งครูเนรมิตและครูมารุตก็พูดว่า นี่แหละ น้ำตาแสงไต้ พ่อรีบจดโน้ตเป็นการใหญ่และประพันธ์คำร้องกันเดี๋ยวนั้น ครูมารุตขึ้น นวลเจ้าพี่เอย ครูเนรมิตต่อว่า คำน้องเอ่ยล้ำคร่ำครวญ พอจบประโยคแรก สุรสิทธิ์ก็ร้องเกลาทันที ร่วมกันสร้างเพลงไม่ถึง ๒o นาทีก็สำเร็จ พ่อบอกว่าเมื่อละคร พันท้ายนรสิงห์ แสดงมาถึงฉากสุดท้ายและทำนองเพลง น้ำตาแสงไต้ ดังขึ้น คนที่เข้ามาดูละครร้องไห้กันทั้งโรงเลย สำหรับ ลุงผี เมื่อพ่อแต่งเพลงสำเร็จสามารถเกิดในวงการเพลงได้แล้ว มักจะพาพ่อไปเจอใครต่อใครทั้งละครต่างคณะหรือพวกนักเขียนสมัยนั้น แล้วจะแนะนำว่า นี่แหละสง่าคนแต่งเพลงน้ำตาแสงไต้น้องชายอั้ว อยู่เสมอ
ผู้ขับร้องเพลง น้ำตาแสงไต้ คนแรกคือ สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ แต่ไม่มีการบันทึกเสียง ต่อมามี ฉลอง สิมะเสถียร, กำธร สุวรรณปิยะศิริ, ชรินทร์ นันทนาคร, ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา นำไปขับร้อง พร้อมกับได้บันทึกเสียงไว้ด้วย ครั้งที่ศาลาเฉลิมไทยได้นำละคร พันท้ายนรสิงห์ แสดงเป็นเรื่องสุดท้ายก่อนที่โรงจะถูกทุบทิ้งเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๓๒ ศรันยู วงศ์กระจ่าง ก็ได้ร้องเพลงนี้ด้วยเช่นกัน
ที่มา...ของเนื้อหา...คุณไพวรินทร์ขาวงาม เขียนถึงเพลงนี้เพื่อไว้อาลัยครูสง่า อารัมภีร์ ในคอลัมน์ จากคอนโดมีเนียมชานกรุง วันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๔๒
li40.gif
...........................................................................................................................................................
  วัดพันท้ายนรสิงห์ อยู่ไม่ไกล จากกรุงเทพ หากใครจะไป แปบเดียวครับ เพียงแต่ อาจต้องบุกทุ่งนาไปหน่อย..มีป้ายบอกเป็นระยะ..ที่นั่น  ศาลพันท้าย นรสิงห์ และ ศาลแม่ศรีนวล รอท่าน มาเยี่ยมอยู่..
 และเชิญชวนทุกท่าน...มาดื่มด่ำ รสบทเพลงแห่งกาลเวลา..กันเถิด
li32.gif				
comments powered by Disqus
  • กิ่งโศก

    2 กุมภาพันธ์ 2553 20:54 น. - comment id 27226

    36.gif อ้าว น้องม่านแก้ว แอบมามะไหร่ นี่  อิอิ  ขอบคุณมากจ้า
  • ม่านแก้ว

    2 กุมภาพันธ์ 2553 19:01 น. - comment id 27262

    36.gif36.gif
    ต๊ะ...เอ๋
    
    36.gif46.gif
  • โคลอน

    2 กุมภาพันธ์ 2553 19:32 น. - comment id 27272

    10
    
    เข้ามาเก็บข้อมูล
    
    แอนด์
    
    แฮ๊บไข่ติดไม้ติดมือไปล่วย 20.gif
  • กิ่งโศก

    2 กุมภาพันธ์ 2553 20:53 น. - comment id 27273

    36.gif คุณเฌอฯ
      วันนี้ มาตั้ง 3 รอบเลย  ขอบคุณมาก อิอิ...
    ช่วงนี้ พักกลอนก่อน  เอาเรื่องเบาๆ มาเล่าเล่น..
    ......................................................
    36.gif คุณแบม
    ช่วงนี้ หาเรื่อง เบาๆ ทำก่อนครับ  หลังลุยงานหนัก  เด๋วค่อย เขียนกลอน ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะครับ..เราอ่านหรือฟังเพลงเก่า ทำให้เราจินตนาการย้อนกลับไปในสมัยนั้น..
    หลายๆ อย่าง น่าทึ่ง ในความคิด..ของท่านๆเหล่านั้น
    .....................................................
    
    .....................................................36.gif คุณยาแก้ปวด
       อิอิ  ต้องเคยแน่นอน ละ  วัยขนาดนี้อะ..19.gif19.gif
    .....................................................
    36.gif คุณโคลอน
    
    อันที่จริงก้อเกิดจาก คุณฝนนี่แหละจุดประกายเพลงเก่าอะ..จะหานำมา ให้ได้อ่านกันเรื่อยๆ ครับ
  • br

    4 กุมภาพันธ์ 2553 19:10 น. - comment id 27285

    อย่าอ่านนะขอร้อง
    ความลับมาบอก เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น
    เคยมีเด็กถูกฆ่าตายที่ห้องนำของภารโรง
    แต่ไม่สามารถหาต้นเหตุของคดีได้
    จึงได้ปล่อยร่างไร้วิญญานของเด็กน้อยทิ้งไว้ ณ ที่เดิม
    ไม่มีการทำพิธีอะไรทั้งสิ้น วิญยาณของเด็กจึงล่องลอยวนเวียนอยู่ในรร.
    เป็นเวลาหลาย10ปี
    จนวันหนึ่งได้มีกลุ่มน.ร. หญิงเข้าไปในห้องนำนั้นเพื่อหวังจะแกล้งภารโรง
    จึงได้พบวิญยาณของเด็กน้อยกำลังไต่ไปตามเพดาน พร้อมแสยะยิ้มให้
    พวกเทอกลัวมากรีบวิ่งออกจากห้องน้ำ
    แต่เพื่อนคนหนึ่งพลันไปเหยียบแอ่งน้ำที่พื้นเข้า
    จึงได้ล้มและไปสะดุดขาของเพื่อนอีกคนหนึ่งเข้า
    เพื่อนคนนั้นได้จับแขนของอีกคนไว้จึงล้มกันมาเป็นทอดๆและหัวฟาดพื้นตายหมด
    วิญยาณของพวกเขาจึงวนเวียน ณ ที่แห่งนั้นตลอดไป
    จงส่งต่อไปอีก20 กระทู้ ภายใน 7ชม.
    ต่อแรกเราก็ไม่เชื่อหรอกแต่เพื่อนเราประสบอุบัติเหตุไปแล้ว 5ค
  • กิ่งโศก

    2 กุมภาพันธ์ 2553 13:25 น. - comment id 27293

    ลืมอธิบายต่อ ศาลท่านพันท้ายนรสิงห์ และแม่ศีนวล..อยู่จังหวัดสมุทรสาคร...จากกรุงเทพ ลงพระรามสองแปบเดียว...
  • เฌอมาลย์

    2 กุมภาพันธ์ 2553 13:54 น. - comment id 27294

    41.gif41.gif41.gif
  • แก้วประภัสสร

    2 กุมภาพันธ์ 2553 13:55 น. - comment id 27295

    อ่านเนื้อหาของบทเพลงนี้ แล้วเศร้าจังเลยค่ะ
    ว่าแต่ไม่มีเสียงเพลงจ้า
    
    36.gif36.gif16.gif
  • เฌอมาลย์

    2 กุมภาพันธ์ 2553 14:10 น. - comment id 27296

    หวาย หวาย วันนี้เจ๊แบมช้ากว่าเฌอ 20.gif
  • แก้วประภัสสร

    2 กุมภาพันธ์ 2553 14:31 น. - comment id 27298

    hellokittyfr20.gif68.gif68.gif46.gif
  • แก้วประภัสสร

    2 กุมภาพันธ์ 2553 14:33 น. - comment id 27299

    คห 4 
    หวายๆๆ  ก็เจ้ทำงานอยู่นี่คับผมคนสวยเฌอ
    ดูภาพด้านบนจิ น่ารักเนาะ สายเดี่ยวด้วย
     
    46.gif36.gif36.gif
  • เฌอมาลย์

    2 กุมภาพันธ์ 2553 14:51 น. - comment id 27300

    น่ารักค่ะ
    
    แต่น่ารักน้อยกว่าคนโพสท์แน่นอน58.gif57.gif
  • ยาแก้ปวด

    2 กุมภาพันธ์ 2553 16:55 น. - comment id 27304

    เรื่องนี้คุ้นๆ
    เหมือนมีใครเคยเล่าให้ฟังหว่า
    
    46.gif59.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน