ก่อนอื่นต้องกล่าวสวัสดีปีใหม่กับชาวบ้านกลอนไทยทุกท่าน ขอให้มีความสุขสันต์กันถ้วนหน้า บ้านกลอนไทยของเรา น่าจะเปิดมาได้สักสิบปีแล้ว มีสมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บ้างก็อยู่มาตั้งแต่เปิดบ้านใหม่ จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ก็มี บ้างก็ล้มหายตายจาก? อิอิ บ้างก็พึ่งมาร่วมเรือนหลังงาม ณ ที่แห่งนี้ แต่เนื่องด้วยอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ บางคนเดินผ่านกันไปมา อาจจะยังไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของกันและกัน ว่าเป็นมาอย่างไร จึงเปิดเวที ถามไถ่ นามปากกาอันงดงามนี้ไซร้ ท่านได้แต่ใดมา?
3 มกราคม 2553 19:53 น. - comment id 26768
เรา "ชาวบ้านกลอนไทย" ก็เพราะใช้ชื่อบ้านนี้เป็นที่พัก ร่วมจับมือเกี่ยวก้อยร่วมร้อยรัก ร่วมสลักมธุรสเป็นบทกลอน
3 มกราคม 2553 21:03 น. - comment id 26770
มาจากคำว่า "butterfly effect" ผีเสื้อขยับปีกเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้
3 มกราคม 2553 21:59 น. - comment id 26771
ยาแก้ปวดชื่อนั้นฉันได้มา เพื่อรักษาเพื่อนกลอนตอนหวลไห้ ไร้สาระบันเทิงระเริงใจ เมาที่ไหนที่นั่นคือฉันเอง....
3 มกราคม 2553 22:03 น. - comment id 26772
จากแรกเริ่มเดิมทีไม่มีชื่อ อาศัยสื่อนามแฝงแต่งภาษา จวบเมื่ออ่านหนังสือที่ซื้อมา จึงบังเกิด"อัลมิตรา"ในครานั้น ชื่ออัลมิตรา มาจากหนังสือปรัชญาชีวิต ของคาลิล ยิบรานห์ ชาวเลบานอน ค่ะ
3 มกราคม 2553 22:04 น. - comment id 26773
นามเฌอมาลย์ไร้ที่มาและที่ไป ตั้งตามใจบ้าดารามานานเนิ่น ชอบชื่อพลอยเฌอมาลย์นานเหลือเกิน ไม่เคอะเขินล็อคอินเดี๋ยวชินเอง...
3 มกราคม 2553 22:09 น. - comment id 26774
เฌอแก้ปวดนามนี้มีเฉพาะกิจ เกิดเพราะฤทธิ์แอลกอฮอร์หนอชื่อฉัน ยามเราสองปรองดองฉลองกัน แสนเมามันส์อักษราภาษาเมา.....
3 มกราคม 2553 23:15 น. - comment id 26775
นามเทียนหยดที่ใช้เพราะใจชอบ จึงขอตอบทันใดมิใช่ฝัน เป็นไม้ดอกที่ปลูกจึงผูกพัน ในทุกวันนั่งชมภิรมย์เพลิน เป็นคนชอบสีม่วงค่ะ..และดอกเทียนหยด ที่ปลูกไว้ก็เป็นสีม่วง.. เลยนำมาตั้งเป็น นามปากกาซะเลย..ถูกใจสุดๆชื่อนี้
4 มกราคม 2553 07:16 น. - comment id 26784
= สิ้ น ฝั น = ใช่ฉันจะสิ้นชื่อ ใช้ยึดถือเอาไว้สอนใจฉัน ให้อยู่แต่แค่ในปัจจุบัน ไม่เพ้อฝันหรืออาลัยในวันวาน ............. สวัสดีปีใหม่ครับคุณพี่ท่านชาวบ้านกลอนไทย
4 มกราคม 2553 07:41 น. - comment id 26785
สุรศรีมีที่มา คือผู้กล้าทำความดี หลายคนนั้นอาจมี แต่ไม่กล้าที่จะทำ
4 มกราคม 2553 13:09 น. - comment id 26789
ลูกหว้านามนี่มีที่มา เดิมนาสมัยเป็นstudent ยืนเคารพธงชาติหน้าทะเล้น เจ้าลูกหว้าหล่นเต้นกระทบเสื้อ เสื้อขาวเปื้อนสี.. สีหน้าเริ่มเจื่อนหมอง ใจข้าเริ่มติตรอง ลูกหว้าตีตราจองบนเสื้อขาว.. ...ซักไม่ออกเศร้าใจเอย ********************** เหอๆก้อตอนแรกนึกว่าใครบังอาจมาปาหลัง ทำเอาจุกเลย...เสื้อขาวก้อเปื้อน จำติดใจเลยลูกสีม่วง.. เด้งกระทบหลัง..หน้าเสาธงรร.เก่า(สทช.) ต้นหว้าบานจะไท ...ก้อเลยหยิบมาใช้ แฮะๆส่วนกลอนนะเจ้าคะพี่ๆมั่วเอา สงสัยผิดแน่เลย ดำน้ำๆๆ สวัสดีปีใหม่คะ พี่ๆๆครอบครัวบ้านกลอน
4 มกราคม 2553 17:59 น. - comment id 26790
นามปากกานี้ได้มาโดยบังเอิญ ณ ห้องสมุดอันกว้างใหญ่ไพศาล ล้านหนังสือก่ายกองดุจขุนเขา ฉันเดินเข้าไปในมุมสงบเงียบ ไร้ผู้คน หนังสือเล่มหนึ่งปรากฏแก่สายตา ฉันหยิบขึ้นมา และเปิดไปหน้าหนึ่ง นำมาซึ่งนามนั้น .....ธันวันตรี
4 มกราคม 2553 20:56 น. - comment id 26794
นามเรริน ชื่อนี้มีที่มา คือฉายาคนรักสลักหมาย อยากให้ฉันพากเพียรเขียนนิยาย วาดฝันปลายเฟื่องฟุ้งดุจรุ้งงาม สรุปว่า....คุณแฟนตั้งให้...
4 มกราคม 2553 22:34 น. - comment id 26802
เอื้องอังกูร..ก่อเกิดกำเนิดสร้าง มิใช่นางแต่เป็นายมิหน่ายหนี ชื่อว่าเอื้องประหนึ่งว่าสตรี อังกูรมี หน่อเนื้อ หญิงเหนือเอย เอื้อง...เป็นสัญลักษณ์ของหญิงเหนือ อังกูร..คือเลือดเนื้อเชื้อไข เอื้องอังกูรคือ..ลูกของแม่ญิงคนเมือง สรุปก้อคือลูกคนเหนือคับ.. ลูกป้อจายข้าวนึ่งคับ
5 มกราคม 2553 12:45 น. - comment id 26803
ยิปซี...เพราะเป็นเหมือนคนเร่ร่อน ไร้เสื่อหมอนนอนไหนใจแสวง เดินทางทั่วไทยเท่าใจมีแรง ใจแสวงไขว่คว้าหาเพื่อทำกิน (มาจากชนเผ่าเผ่าหนึ่งในการ์ตูน..ฟอสทีน..) โฟว์..คือเลข 4 ที่ชอบมาก และนายมาร์คลอว์เรนสันเขาใส่อยู่ วันนั้นดูฟุตบอลในจอตู้ มาร์คทำประตูชัยให้ลิเวอร์พูลชนะเอย ยิปซี โฟว์..ใช้ชื่อนี้ตั้งแต่สมัยเรียนครับ 30 กว่าปีแล้ว..เพื่อนรุ่นน้องเขาบอกว่าเหมาะดีเพราะเป็นคนที่เดินทางไม่สิ้นสุดและชอบเลข 4กับสีม่วงเป็นชีวิตจิตใจครับ ...ยินดีที่ได้รู้จักครับ...
5 มกราคม 2553 13:34 น. - comment id 26804
ขอบคุณ ทุกไมตรีจากสมาชิกบ้านกลอน ที่แวะมาทักทายให้ได้รู้จักกันมากขึ้น
5 มกราคม 2553 17:14 น. - comment id 26806
**.. อักษรย่อ ก.ไก่ ในนามนี้ ชื่อจริง-เล่น ล้วนมี ที่ขึ้นต้น อาจเรียก ก้อง หรือ เกรียงไกร ตามใจดล ใช้ปะปน ไม่เน้น ไม่เป็นไร.. **.. ชื่อ ประแสร์ แลคือ ชื่อบ้านเกิด ถือกำเนิด ชายคา พักอาศัย คนเมืองแกลง เชื้อกวี ล้วนมีไฟ สุนทรภู่ ครูใหญ่ ในเชิงกลอน.. **.. ศิษยาพร นามฤๅ คือลูกศิษย์ ผู้มีจิต เข้มขลัง ดังเก่าก่อน น้อมรำลึก พระองค์เจ้าอาภากรฯ กรมหลวงชุมพร ชนโจษจัน.. **.. แลต่อมา จิตตระหนัก เป็นนักกฎหมาย ศรัทธาหนึ่ง พร่างพราย ใจยึดมั่น อุทิศใน องค์รพี ฝากชีวัน ยุติธรรม์ จึงฝากฝัง ยังโลกา.. **.. นาม รพี แลนาม อาภากร คือ อาทิตย์ รังสิธร ตอนเจิดจ้า นิยามสอง เป็นหนึ่งเดียว เกี่ยวข้องมา ศิษยาพร คือศิษยา สองพระองค์ **.. คือนามหลัก จารลง ผจงเขียน หวังแนบเนียน ถ้อยความ ตามประสงค์ หวังร้อยกรอง ของไทย ให้ดำรง จิตยังคง ชื่นรส บทกวี... ด้วยความหวังดี ก.นพดล รักษ์กระแส ก.ประแสร์ ศิษยาพร
5 มกราคม 2553 20:23 น. - comment id 26807
** ประทับตรา ตรึงไว้ ในดวงจิต เทพนิมิต สรวงสวรรค์ สุดหรรษา งามจาตุ มหา ราชิกา คือที่มา...แห่งนาม เมื่อยามยล.....ฯ ในช่วงหนึ่งของชีวิต...ได้ไปปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน...ในนิมิตที่เห็น...พบตนเอง..อยู่บนสถานทิพย์วิมานแห่งหนึ่ง...ซึ่งมีชื่อว่า...จาตุมหาราชิกา... จึงกลายเป็นที่มา..ของนามปากกา..ราชิกา..ค่ะ
5 มกราคม 2553 20:55 น. - comment id 26808
นามดอกบัวมิมัวแถมชัวร์ชื่อ นามนี้หรือพ่อแม่แปลมาใช้ ดอกบัวอยู่หนองบึงพึ่งแนวไพร อยู่ตามไร่คูคลองหนองกลางนา จากบ้านป่าชนชานบ้านท้องทุ่ง มีผักบุ้งเคียงคล้องตามหนองป่า นามง่ายง่ายแม่หมายให้ยายตา เรียกหลานย่าป่าพงดงดอกบัว
5 มกราคม 2553 21:19 น. - comment id 26809
o กิ่ง เพียงเสี้ยวหนึ่งก้าน......กุมใบ โศก แค่เศษพงไพร......พุ่มต้น ทุกข์เทวษเกินใด..........ดูเทียบ รวมรากดอกเต็มล้น.....ร่างสิ้นกลบฝัง ฯ ..เสี้ยวหนึ่งของชีวิตที่เผชิญ ชะตาในเมืองหลวง ความทรหดอย่างเดียวที่พยุงร่างแลหัวใจให้คงมั่น อย่างลำบากลำบน...นับเป็นความทุกข์ทรมานยิ่ง แต่ก็ปลุกปลอบตัวเองเสมอมาว่า นี่เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น..หากเปรียบความทุกข์ คือต้นไม้ใหญ่ สิ่งที่เราได้รับ มันเป็นเพียง ส่วนหนึ่ง หรือกิ่งเล็กๆของทั้งต้น เท่านั้นเอง ..กิ่งโศก..ที่รอโศกเต็มต้น หรือ จะรอ..อโศก..นามนี้จึงอุบัติขึ้น..
5 มกราคม 2553 23:12 น. - comment id 26810
ข้าพเจ้า นามว่า..เสียงหัวเราะ...ชีวิตมิค่อยมีเสียงหัวเราะเท่าใดนัก แต่จักแลมีเสียงหัวเราะในความเงียบบ้าง....นานทีปีหนจึงมีร้อยเรียงกลอนมาให้อ่าน เพราะมีภาระกิจมากมายหลายสถาน....กว่ายี่สิบปีที่เกิดมา...ยังมองหาความสุขที่แท้จริงมิได้เลย...ยังหาผู้ใดสักคน..มาคอยเติมเต็มชีวิตที่ขาดหายไป....
5 มกราคม 2553 23:55 น. - comment id 26811
๐ "คนกุลา"คราก่อนรอนแรมฝัน ในทุ่งอันใหญ่กว้างและร้างแล้ง แดดระยิบพริบพรายสายลมแรง ท่ามชนแกร่งแล้งฝน"คนกุลา" มาจากตำนานของชาวกุลา และทุ่งกว้าง แห่งอดีตอันแล้งร้าย นามทุ่งกุลาร้องไห้ นะครับ
6 มกราคม 2553 08:25 น. - comment id 26813
อนงค์นาง... นามนี้ชอบนักหนา มีทีมาที่ไปในความหลัง ชอบนิยายอ่านได้ทุกวันจัง เรื่องหนึ่งยังจำได้..ใช่เลยคุณ ตอนวัยรุ่นชอบอ่านนวนิยายค่ะ เป็นชื่อนางเอกนิยายเรื่องหนึ่ง ชอบมากเพราะฟังดูหวานเป็นผู้หญิงจัง
6 มกราคม 2553 16:47 น. - comment id 26815
นามปากกาของทุกท่าน มีที่มางดงามนัก ขอบคุณที่ร่วมแบ่งปัน
6 มกราคม 2553 17:26 น. - comment id 26819
กุ้ง=ชื่อเล่น หนามแดง=ที่พำนัก :) แค่นี้แหละไม่ซับซ้อน..อิอิ
6 มกราคม 2553 20:54 น. - comment id 26825
เคยใช่นามบากกาว่า....... แต่มิอาจหวานได้ดังใช้ชื่อ เมื่อเริ่มเขียนเรื่องสั้นหมั่นฝึกปรือ จึงใช้ชื่อ "วงศ์ตะวัน" แต่นั้นมา
7 มกราคม 2553 09:06 น. - comment id 26828
น้ำตาลหวาน ห่างไกลจากตัวฉัน เหตุชอบนั้นอยากหวานนานหนักหนา เป็นสาวห้าว เรียบร้อย ด้อยหวานมา นามปากกา มาจากใจ ก็ใจอยากเป็น เป็นคนบุคคลิกเรียบร้อยแต่ไม่อ่อนหวาน ก็อยากจะหวานๆมั่งค่ะ
7 มกราคม 2553 11:18 น. - comment id 26833
ขอบคุณทุกมิตรภาพที่ร่วมแบ่งปัน น้ำใจของท่านงดงามนัก
7 มกราคม 2553 12:18 น. - comment id 26836
Hey, "Golden Snitch" is the name of a small bird from "Harry Potter" also part of the popular game "Quidditch" but, personaly I like silver much more than gold then, I changed from "Golden Snitch" to ""Silver Snitch" catch me if you can !! bye