ภุชงคประยาต แปลว่า งูเลื้อย หมายความว่า ฉันท์นี้มีความ หมายว่ามีลีลางดงามดุจการเลื้อยของพญานาคใช้บรรยายความ ใน เรื่องที่ต้องให้เห็นความรวดเร็ว กระฉับกระเฉง หรือรำพันภาพที่ สนุกสนานรื่นเริง คณะและพยางค์ ฉันท์บทหนึ่งมี ๒ บาท บาทละ ๒ วรรค วรรคต้นและวรรคท้าย มีวรรคละ ๖ คำเท่ากัน รวม ๒ วรรคเป็น ๑๒ คำ จึงเขียน ๑๒ ไว้ท้าย ชื่อฉันท์ สัมผัส สัมผัสบังคับดูได้จากแผนตามผังสัมผัส และจากตัวอย่าง ดังรายละเอียด ต่อไปนี้ สัมผัสภายในบท คู่ที่ ๑. คำสุดท้าย ของวรรคที่ หนึ่ง สัมผัสกับคำที่ สาม ของ วรรคที่ สอง แทน ด้วย (ค)-(ค) คู่ที่ ๒. คำสุดท้าย ของวรรคที่ สอง สัมผัสกับคำที่ สุดท้าย ของวรรคที่ สาม แทนด้วย ((ค))-((ค)) สัมผัสระหว่างบท มีการบังคับ ระหว่าง คำสุดท้ายของบท (วรรคที่ ๔) จะไปสัมผัส กับ คำสุดท้าย ของวรรคที่ สอง ของฉันท์ ในบทถัดไป แทนด้วย (((ค)))-(((ค))) คำครุ คำลหุ บังคับครุ ลหุ ตามที่เขียนไว้ในแผนผังและตาม ตัวอย่าง ล ค ค ล ค (ค) ล ค(ค)ล ค ((ค)) ล ค ค ล ค ((ค)) ล ค ค ล ค (((ค))) ล ค ค ล ค ค ล ค ค ล ค (((ค))) คำครุ แทนด้วย ค คำลหุ แทนด้วย ล ตัวอย่างฉันทลักษณ์ของภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒ สะอาดเอี่ยมประเปี่ยมน้ำ สลอนส่ำสโรชมี พบูบานผสานสี สล้างกลีบกุสุมสรรพ์ สำแดงดวงดำรูเด่น ประดับเบจพิธพรรณ พิโดรฉมระงมคัน - ธรสรื่นบำเรอฆาน ภมรมั่วประทุมมาศ มิรู้ขาดสถานธาร ชะลอเอาละลองมาล - ยเมื้อมุ่งอำรุ่งรวง สลาบโรยก็หล่นลอย กระแสสร้อยสลายพวง สะพราดพันธุปลาปวง ประเนืองน่านเฉนียนนอง ฉวัดว่ายเฉวียนวน กระโดดพ่นละอองฟอง ระเมียรมัจฉะคลอครอง บ คลาดคู่คระไลลอย ชะโดดุกกระดี่โดด สลาดโลดยะหยอยหยอย กระเพื่อมน้ำพะพร่ำพรอย กระฉอกฉานกระฉ่อนชล กระสร้อยซ่าสวายซิว ระรี่ริ่วละวาดวน ประมวลมัจฉะแปมปน ประหลาดเหลือจะรำพัน (อิลราชคำฉันท์) ทิชงค์ชาติฉลาดยล คะเนกลคะนึงการ กษัตริย์ลิจฉวีวาร ระวังเหือดระแวงหาย เหมาะแก่การจะเสกสรร ปวัตน์วัญจโนบาย มล้างเหตุพิเฉทสาย สมัครสนธิ์สโมสร ณวันหนึ่งลุถึงกา ลศึกษาพิชากร กุมารลิจฉวีวร เสด็จพร้อมประชุมกัน (สามัคคีเภทคำฉันท์ ) การอ่านภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒ การอ่านภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒ ทำนองเสนาะนั้น อ่าน แบ่งออก ตามเสียงครุ ลหุ เป็น จังหวะ ในหนึ่งวรรค แบ่งการอ่านออกเป็น จังหวะ ๓/๓ ดังตัวอย่างด้านบน จะอ่านเป็นจังหวะ ดังนี้ ทิชงค์ชาติ/ฉลาดยล คะเนกล/คะนึงการ กษัตริย์ลิจ/ฉวีวาร ระวังเหือด/ระแวงหาย เหมาะแก่การ/จะเสกสรร ปวัตน์วัญ/จโนบาย มล้างเหตุ/พิเฉทสาย สมัครสนธิ์/สโมสร ณวันหนึ่ง/ลุถึงกา ลศึกษา/พิชากร กุมารลิจ/ฉวีวร เสด็จพร้อม/ประชุมกัน ............ แหล่งอ้างอิง http://guru.sanook.com/enc_photo.php?pic http://www.kruwallapa.com/unit4/unit40104.html www.prakan.ac.th/Link-Data/e-learning-51/orapin-3.ppt http://www.st.ac.th/bhatips/chan_poem.html ........... คนกุลา (เรียบเรียง) ในเหมันต์
3 มกราคม 2553 17:29 น. - comment id 26765
= บทที่๑๕...ชีวิตในวงล้อมของอารมณ์โลก ที่สร้างให้หลงใหล = ๐ นุสินธิ์จากประยูรญาติ........ประสงค์ราชอุรสพึง- ขยายอาชญภาพ-ถึง............จะเป็นหนึ่ง ณ ในวัน ๐ เพราะลาภยศะสรรเสริญ-...ะเพลิดเพลินจะผูกพัน คณาทรัพย์สำหรับบรร-.........ลุสำคัญจะรอคอย ๐ พยายามจะล่ามชาติ..........อุรสราชะด้วยรอย- สะคราญนางและร่างน้อย......ผจงร้อยภิรมย์ล้อม ๐ สระน้ำขุดพิสุทธิ์บัว...........ระริกตัวจะให้ตอม แมลง, สินธุกลิ่นหอม...........ก็พรั่งพร้อมประนอมการณ์ ๐ อุบลเขียวระบัดใบ............พระพายไหวปทุมมาลย์ พิสุทธิ์บุณฑริก-ปาน............จะบรรสาระราศี ๐ พิจิตรภาวะอาภรณ์...........ก็งามตอนเพราะต่างมี- ประณีตพัสตระกาสี..............กระหวัดโพกและห่มครอง ๐ เศวตรฉัตระกั้นแดด-.........บ เผาแผด บ แสบพอง จะร้อนผ่าว ฤ หนาวผอง........บ โลมต้องกะกายตน ๐ เพราะปราสาทะสามหลัง...จะหลอมหลั่งภิรมย์ลน ฤดูหนาวฤดูฝน...................สราญจนฤดูร้อน ๐ ณ ปราสาทะทั้งสาม..........ก็เพียงงามและอาวรณ์ ประเลงคีตประณีตตอน.........ก็แว่ววอนประนังหวัง ๐ ตลอดเดือนฤดูฝน.............ประสารมนตะบดบัง ประณีตพาทยะนาทดัง-........จะเพื่อฟังและลุ่มหลง ๐ ประจาคผู้บุรุษเพศ-...........ะเพื่อเจตะจำนง สมาคมะสมพง-...................ศะด้วยองค์อนงค์นั้น ๐ และแม้นพร้อมภิรมย์อยู่.....ก็ยังรู้และเท่าทัน พินิจนัยพิจัยขัน-.................ธะสัมพันธะผ่านเห็น ๐ ชราภาพะกายชน..............บ อาจพ้นจะต้องเป็น และทั้งสุขะทุกข์เข็ญ............จะบีบเค้นและคอยหวน ๐ จะอิดหนาระอาใจ.............ก็คงไม่เหมาะสมควร ประนังนัยะใคร่ครวญ............ก็แจ้งถ้วน ณ บัดนั้น ๐ ปลาตเมาหะวัยหนุ่ม-........ บ เร้ารุมและโรมรัน เพราะรู้ธรรมชาติสรร-..........คะชีวันถวัลย์ไว้ ๐ ประชวรไข้และเจ็บป่วย......บ อาจฉวยและฉุดไป จะรุมชนม์, กมลให้...............ระโหยช้ำและกำสรวล ๐ จะอิดหนาระอาใจ.............ก็คงไม่เหมาะสมควร ประนังนัยะใคร่ครวญ............ก็แจ้งถ้วน ณ บัดนั้น ๐ ปลาตเมาห์เพราะปราศโรค..ก็บ่มโบกกมลบรร- ลุแจ้งธรรมชาติสรร-.............คะชีวันถวัลย์ไว้ ๐ เพราะดับกายและวายขัน-...ธะย่อมบรรลุเมื่อวัย- ลุสุดภาวะอาศัย-..................ะด้วยขัยะลบลาญ ๐ จะอิดหนาระอาใจ.............ก็คงไม่เหมาะควรการณ์ เพราะทุกผู้จะต้องผลาญ.......ณ ช่วงกาละผ่านผัน ๐ จะลืมตัวจะลืมตน..............ฤ สับสนเพราะใจบรร- ลุรวนเรเพราะเล่ห์พัน-...........ธะโลกนันทิฤๅควร ๐ กระนั้นเมาหะในชน-..........มะบัดดละเปรียบตรวน- ก็หลุดล่าม ณ ยามครวญ.......มุหันธ์ล้วนสลายสูญ
4 มกราคม 2553 11:41 น. - comment id 26788
คุณ สดายุ ครับ ต้องขอบคุณ บทประพันธ์ ภุชงคประยาต ฉันท์ แสนงามที่นำมาแจม ผมและท่านผู้อ่านจะได้ศึกษาเป็นตัวอย่างใน การเขียน ต่อๆไป นะครับ
7 มกราคม 2553 20:03 น. - comment id 26857
อย่าอ่านนะขอร้อง ความลับมาบอก เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น เคยมีเด็กถูกฆ่าตายที่ห้องนำของภารโรง แต่ไม่สามารถหาต้นเหตุของคดีได้ จึงได้ปล่อยร่างไร้วิญญานของเด็กน้อยทิ้งไว้ ณ ที่เดิม ไม่มีการทำพิธีอะไรทั้งสิ้น วิญยาณของเด็กจึงล่องลอยวนเวียนอยู่ในรร. เป็นเวลาหลาย10ปี จนวันหนึ่งได้มีกลุ่มน.ร. หญิงเข้าไปในห้องนำนั้นเพื่อหวังจะแกล้งภารโรง จึงได้พบวิญยาณของเด็กน้อยกำลังไต่ไปตามเพดาน พร้อมแสยะยิ้มให้ พวกเทอกลัวมากรีบวิ่งออกจากห้องน้ำ แต่เพื่อนคนหนึ่งพลันไปเหยียบแอ่งน้ำที่พื้นเข้า จึงได้ล้มและไปสะดุดขาของเพื่อนอีกคนหนึ่งเข้า เพื่อนคนนั้นได้จับแขนของอีกคนไว้จึงล้มกันมาเป็นทอดๆและหัวฟาดพื้นตายหมด วิญยาณของพวกเขาจึงวนเวียน ณ ที่แห่งนั้นตลอดไป จงส่งต่อไปอีก20 กระทู้ ภายใน 7ชม. ต่อแรกเราก็ไม่เชื่อหรอกแต่เพื่อนเราประสบอุบัติเหตุไปแล้ว 5ค
17 มกราคม 2555 18:54 น. - comment id 36844
จะห้ามจิตก็คิดห่วง สะท้อนทรวง ณ บ่วงขม ถวิลหาระชิดชม สดับเสียงก็เพียงเดียว ......... จะหนีห่างจริตร้อน ริอาวรณ์ผลึกเสี้ยว เผดิมขื่นลุคืนเดียว ก็ร่ำหาเพราะอาลัย