ในหลวง คุณยายไข่ และไม้กวาดทางมะพร้าว ณ โรงพยาบาลศิริราช ราว ๆ ใกล้เที่ยงของวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ.2550 ... ภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์สีชมพูกำลังเสด็จพระราชดำเนินกลับพระราชวังหลังจากที่ทรงฟื้นพระวรกายจากอาการประชวร คงจะเป็นภาพแห่งความทรงจำของชาวไทยทุกคน ประชาชนจำนวนมากที่มาชมพระบารมีของพระองค์ท่านที่โรงพยาบาลศิริราชต่างน้ำตานองหน้าด้วยความดีใจ เสียงตะโกนว่า "ทรงพระเจริญ" ดังกึกก้องโรงพยาบาล ใครจะรู้บ้างว่า ขณะที่ทุกคนกำลังปลาบปลื้มใจอยู่นั้น ณ มุมเล็ก ๆ ตรงนั้น ยังมี คุณยายไข่ หม่อมสระ...หญิงแก่อายุ 77 ปี จากดินแดนที่ราบสูงกำลังซับน้ำตาแห่งความยินดีหลังจากที่คุณยายปักหลักเอาใจช่วยพระองค์ท่านอยู่ที่โรงพยาบาลถึง 9 วัน เรื่องราวเริ่มต้นจาก ณ บ้านโคกหมากเหลี่ยม ต.หนองคูขาด อ.บรบือ จ.มหาสารคาม คุณยายไข่นั่งอยู่หน้าจอโทรทัศน์แล้วได้ยินข่าวว่า ในหลวงทรงพระประชวร ด้วยความเป็นรักและเป็นห่วงในหลวง น้ำตาของคุณยายเริ่มกลั่นออกมาทันที ที่หลังบ้านของคุณยายมีต้นมะพร้าวอยู่ 6 ต้น คุณยายได้ใช้ให้ลูกชายไปตัดทางมะพร้าวเพื่อนำมาเหลาเป็นไม้กวาด คุณยายได้เหลาทางมะพร้าวทีละก้าน ๆ เหลาไปน้ำตาไหลไป เพราะใจนึกถึงแต่ในหลวงตลอดเวลา จนในที่สุด คุณยายได้ไม้กวาดทางมะพร้าวเล็ก ๆ 4 ด้าม คุณยายไข่เชื่อว่า เวลามีใครป่วย ถ้ามีญาติพี่น้องไปเยี่ยมเยียน ผู้ป่วยจะมีกำลังใจต่อสู้กับอาการป่วยไข้นั้นได้ คิดได้ดังนั้น คุณยายจึงเก็บเสื้อผ้าใส่ลังแล้วตัดสินใจเข้าไปกรุงเทพ เพื่อไปร่วมให้กำลังใจในหลวงพร้อมกับไม้กวาดทั้ง 4 ด้ามนั้นทันที แม้ว่าลูกหลานจะทัดทานไม่ให้ออกเดินทางไปเมืองกรุง ด้วยเหตุผลทางสุขภาพ เพราะคุณยายไข่ยังเจ็บหลังอยู่จนต้องใช้ผ้ารัดไว้ตลอดเวลา รวมไปถึงเวลาเดินไปที่ไหนคุณยายก็เดินลำบากต้องใช้ไม้เท้าเสมอ แต่ถึงอย่างไร คุณยายไข่ก็เดินทางโดยรถไฟจากมหาสารคามไปยังกรุงเทพแล้ว หลังจากที่ไม่เคยมาเมืองฟ้าอมรแห่งนี้กว่า 30 ปีแล้ว ตีห้าของวันที่ 30 ตุลาคม รถไฟสายอีสานขบวนหนึ่งจอดที่ปลายทาง นั่นคือ สถานีรถไฟหัวลำโพง หญิงชราค่อย ๆ ลงมาจากรถ แล้วมองหาพาหนะที่จะพาตนเองไปยังโรงพยาบาลศิริราช คุณยายไข่ตัดสินขึ้นรถตุ๊กตุ๊กด้วยราคารับจ้างที่ตกลงกันไว้ว่า 50 บาท สารถีของรถตุ๊กตุ๊กคันนี้ได้พูดคุยกับยายไข่ในระหว่างทางโดยสาร จนได้ทราบถึงความมุ่งหมายอันแรงกล้าของหญิงชราหัวใจแกร่งผู้นี้ เมื่อถึงโรงพยาบาลศิริราช คนขับรถตุ๊กตุ๊กกลับไม่คิดเงินกับคุณยายไข่สักบาท แถมยังช่วยยกสัมภาระส่วนตัวของคุณยายไปยังเต็นท์สำหรับคนมาเฝ้าในหลวง ด้วยเหตุผลที่ว่า เป็นคนอีสานเหมือนกัน และเหตุผลที่ยิ่งใหญ่ไปกว่านั้นก็คือ เขาทั้งสองมีความรักในคนคนเดียวกัน นั่น คือ "ในหลวง" นั่นเอง คุณยายไข่จึงขอยึดพื้นที่เล็ก ๆ ภายในเต๊นท์ เพื่อเป็นรังนอนชั่วคราวเพื่อเอาใจช่วยจนกว่าในหลวงจะหายจากอาการประชวร ไม่ใช่ว่าคุณยายมาอยู่ที่โรงพยาบาลโดยไม่ทำอะไรเลย เพราะในทุกเช้า คุณยายจะช่วยกวาดเศษใบไม้ใบหญ้าในบริเวณนั้น ตามแต่กำลังจะอำนวย ด้วยไม้กวาดทางมะพร้าวของยาย แล้วทั้งวัน กิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลงถวายพระพรหรือสวดมนต์ ยายไข่จะเข้าร่วมด้วยเสมอ หลายวันเข้า คนที่มาร่วมเอาใจช่วยในหลวงเริ่มคุ้นเคยกับคุณยายผู้นี้ แล้วมิตรภาพดี ๆ ก็เกิดขึ้น อย่างเช่น เวลามีแจกอาหาร ตำรวจจะหยิบอาหารมาให้คุณยายไข่เสมอ เพราะคุณยายเดินลำบาก บางคนรู้ว่าคุณยายโปรดปรานอาหารอีสาน ถึงกับกลับบ้านเพื่อไปทำอาหารอีสานมาให้ นอกจากนี้ หลายคนก่อนกลับบ้าน มักจะมาไหว้คุณยายก่อนเสมอ และแล้ววันที่ 9 ของการอยู่ที่โรงพยาบาลของคุณยายไข่ คำอธิษฐานของคุณยายก็เป็นจริง ในหลวงมีพระวรกายที่แข็งแรงขึ้น จนสามารถกลับพระราชวังได้แล้ว คุณยายไข่อธิษฐานว่า ถ้าในหลวงแข็งแรงดีแล้ว คุณยายจะนำไม้กวาดทั้ง 4 ด้ามไปทำบุญให้กับโรงพยาบาลศิริราช วัดมหาธาตุ (ท่าพระจันทร์) วัดพระแก้ว และวัดระฆัง โดยที่คุณยายจะช่วยกวาดเศษใบไม้ใบหญ้าในสถานที่แห่งนั้นด้วย ในวันที่ในหลวงออกจากโรงพยาบาล ผู้เขียนได้พาคุณยายไข่ไปส่งที่วัดมหาธาตุ คุณยายตั้งใจจะอยู่ที่นี่สักพักหนึ่งเพราะมีคนที่คุณยายรู้จักอยู่ที่วัดนี้ แล้วคุณยายจะค่อย ๆ เดินทางออกไปทำบุญทีละวัด ๆ เพื่อทำความดีถวายในหลวง หวังว่าภาพของหญิงชราที่ค่อย ๆ กวาดเศษใบไม้ใบหญ้าคงจะกระตุ้นให้หลายคนอยากจะทำความดีในวันนี้ขึ้นมาบ้าง ที่มา : http://hilight.kapook.com/view/42097 "เรา ก็รู้ พ่อต้องเหนื่อยสักเพียงไหน ต้องลำบากใจกาย ไม่เคยสิ้น. เพราะพ่อรู้ พ่อคือ พลัง แห่งแผ่นดิน ให้เรา พออยู่พอกิน กันต่อไป .หากจะหา ของ ขวัญ ให้พ่อ สักกล่อง เราทั้งผอง จะพร้อม กันได้ไหม. บวกกันเป็น ดินเดียว ให้พ่อ ได้สุขใจ ไม่ต้องเหนื่อยเกินไป อย่างที่เป็นมา "
2 ตุลาคม 2552 23:31 น. - comment id 24322
mv เพลงของขวัญจากก้อนดิน http://www.youtube.com/watch?v=eikhyw8TmSs mv เพลงต้นไม้ของพ่อ http://www.youtube.com/watch?v=XfgNh9gXeFA ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ปล.วันนี้เป็นอีกวันที่พระองค์ท่านทรง เป็นเสมือนพลังใจทำให้งานที่ทำผ่านพ้น ไปด้วยดี...
3 ตุลาคม 2552 01:42 น. - comment id 24323
อ่านแล้ว รู้สึกดีมากๆเลย ขอบใจนะ ที่คอยหาเรื่องดีๆมานำเสนอเสมอๆน้องเจน
3 ตุลาคม 2552 09:17 น. - comment id 24324
บทความประทับใจนี้ฝนอ่านครั้งแรกในพันทิพอ่ะ บ่อน้ำตาแตกเลย อ่านอีกทีก็ปริ่มๆตรงขอบตาอยู่เลย แปลกนะเจนฯ เวลาได้อ่านบทความเกี่ยวกับพระองค์ท่าน ฟังเพลงที่เขียนเพื่อพระองค์ท่าน เห็นพระบรมฉายาลักษณ์ที่พระองค์ทำทุกอย่างเพื่อพสกนิกรของพระองค์ รู้สึกจุกแล้วน้ำตาก็จะไหลมาแบบไม่รู้ตัวเลยอ่ะ นี่กระมังความรู้สึกที่เรียกกันว่า "ซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณ" ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
3 ตุลาคม 2552 10:29 น. - comment id 24330
จะบอกว่า น้ำตาไหลเลยจ้ะเจน ...หากจะหา ของ ขวัญ ให้พ่อ สักกล่อง เราทั้งผอง จะพร้อม กันได้ไหม. บวกกันเป็น ดินเดียว ให้พ่อ ได้สุขใจ ไม่ต้องเหนื่อยเกินไป อย่างที่เป็นมา... อยากบอกตามประสาชาวบ้าน แต่มีความจริงใจว่า เรารักในหลวง ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ปล.เมื่อวานมีโอกาสไป กทม. ได้ไปร่วมลงนามถวายพระพรให้พระองค์หายประชวรโดยเร็ววันด้วยแหละ
4 ตุลาคม 2552 19:06 น. - comment id 24331
เป็นห่วงพ่อหลวงมากค่ะ อยากให้พ่อหลวงหายประชวร เป็นห่วงมาก
4 ตุลาคม 2552 19:21 น. - comment id 24332
น้ำตาไหล... เจน....จ๋า ขอบคุณที่นำมาเล่า.. ดูข่าว ติดตามข่าวตลอด.. ขอพระองค์มีพระวรกายแข็งแรง... ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน