ภัยสังคม ถ. สุรวงศ์ มีเรื่องเกี่ยวกับภัยสังคมใกล้ตัวมาแจ้งเพื่อให้ได้ระวังตัวกันมาก ๆ เหตุเกิดเมื่อไม่นานมานี้ เวลาประมาณ19.30 น. ลูกน้องผู้หญิงที่ทำงาน ออกจากที่งาน ถนนสาทรใต้ ไปรอรถประจำทางเพื่อเดินทางกลับบ้านที่ป้ายรถประจำทาง ตรงข้ามโรงแรมตวันนารามาดา ถนนสุรวงศ์เป็นแหล่งที่มีผู้คนเดินไปมาพลุกพล่านมาก โชคไม่ดีคือ มีคนเดินไปมามากก็จริง แต่มีน้องยืนรอรถอยู่คนเดียวเป็นเวลานาน จึงตกเป็นเป้าหมาย มีหญิงอายุประมาณ 50ปี+มาทำทีชวนคุย (มีพิรุธคือมายืนด้านซ้าย ค่อนไปข้างหลังไม่มายืนด้านข้าง) "รถมาช้าจังเลยนะ สงสัยรถติดมาก" น้องไม่ตอบ "รอรถสายอะไรหรือจ๊ะ" น้องตอบว่า "สายไหนมาก็ไปได้" "แล้วไปลงที่ไหนหล่ะ บ้านอยู่ที่ไหนหรือ" น้องไม่ตอบ แต่เค้ายังชวนคุยต่อ "ไปลงที่สี่พระยาหรือ.....ทำงานที่ไหน.....ฯลฯ" หลังจากนั้นไม่นาน (ไม่เกิน 2-3นาที) น้องรู้สึกคล้ายขนลุกแต่ไม่ใช่ขนลุก คล้ายกับมันซ่า ๆ ตั้งแต่ขาขึ้นมาลามไปทั้งตัวและเริ่มอ่อนแรงไปหมด กระเป๋าที่ถืออยู่ในมือก็เกือบหลุดมือเพราะไม่มีแรงจนต้องคล้องเข้าแขนเอาไว้ และเวียนหัวจนแทบยืนไม่ไหว ระหว่างนี้น้อง เริ่มรู้ตัวว่าโดนยาแต้มแล้วเป็นแน่ เพราะนึกทบทวนแล้วว่า ระหว่างเริ่มเข้ามาคุยด้านข้าง รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมาแตะที่ต้นแขนซ้ายด้านหลังแต่ไม่ทันคิดว่าจะโดนแต้มยา ผู้หญิงคนนั้นยังพยายามชวนคุยไม่เรื่อยๆ คาดว่ารอให้เหยื่อทรุดและทำทีเข้าช่วยเหลือ แต่น้องแข็งแรง ไม่ทรุด แต่พยายามทรงตัวและมองไปรอบๆ เห็นว่ามีชายหนุ่ม 2 คนยืนอยู่ด้านหลังมองเหตุการณ์อยู่คาดว่าเป็นแก๊งเดียวกัน น้องยังพยายามครองสติ มองไปเห็นร้านแฟมิลี่มาร์ทอยู่ห่างออกไปประมาณ 5-6 ห้องแถว จึงพยายามเดินประคองตัวไปที่นั่นระหว่างเดินแยกตัวไปน้องหันไปมอง หญิงคนนั้นไม่เดินตาม แต่มองจ้องตามมาตลอดจนน้องไปถึงร้านแฟมิลี่เข้าไปในร้านได้ มองย้อนออกมาก็ไม่เห็นหญิงคนนั้นแล้วน้องเคยอ่านเจอ เหตุการณ์ลักษณะนี้มาและจำได้ว่ามี คำแนะนำให้หาน้ำสะอาดดื่มมาก ๆ จึงไปเอาน้ำดื่มในตู้ของร้านเปิดดื่มทันทีแล้วไปจ่ายเงินที่หลัง และอยู่ในร้านจนรู้สึกดีขึ้น ประมาณ 15-20 นาที จึงออกจากร้านและเดินไปอีกระยะหนึ่งให้ห่างจากจุดเกิดเหตุ แล้วเรียกรถกลับบ้าน น้องไม่เรียกรถบริเวณเกิดเหตุเพราะสังเกตุเห็นว่ามีรถแท็กซี่หนึ่งคันไม่มี ผู้โดยสาร (เปิดไฟว่าง) จอดอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุนานเหมือนกันเกรงจะเป็นพวกในแก๊งในที่สุดน้องก็กลับบ้านได้ โชคดีที่น้องคนนี้มีรูปร่างใหญ่ น้ำหนักมากและเป็นคนแข็งแรงจึงรอดพ้นมาได้ ถ้าเป็นคน อื่น คงไม่พ้นแล้ว ขอให้ทุกคนระวังตัวด้วยแนะนำ > > - อย่าใส่เครื่องประดับที่มีค่า > > - อย่าคุยโทรศัพท์เพลินจนไม่ระวังตัวในขณะอยู่ในที่สาธารณะ > > - ไม่พูดคุยกับคนแปลกหน้า > > - ห้ามเปิดเผยเส้นทางการเดินทาง หรือจุดหมายปลายทาง > > - ถ้ารู้สึกว่ามีวัตถุใด ๆ มาสัมผัสตัวให้คิดว่าเป็นยาพิษแบบนี้ไว้ก่อน > > (แนะนำให้พกผ้าเย็นไว้ และเช็ดออกทันทีเพื่อลดปริมาณยา ช่วยบรรเทาอาการเมื่อยาออกฤทธิ์) > > - ถ้าเริ่มมีอาการ อย่าเกรงใจ รีบมองหาคนที่น่าไว้ใจ > > (ร้านค้าที่ใกล้เคียงจะดีกว่าคนที่ยืนอยู่ใกล้เพราะอาจเป็นแก๊งเดียวกัน)ขอความช่วยเหลือทันที > > เพราะในบางราย เมื่อยาออกฤทธิ์ ถึงขนาดเปิดปากพูด/ร้องขอความช่วยเหลือไม่ได้ > > - โทรหาเพื่อนหรือใครที่อยู่ใกล้เพื่อให้มารับและพาส่งกลับบ้านจะดีกว่า > > อย่าพยายาม เดินทางกลับเองคนเดียว > > > > กรุณาส่งต่อหากคิดว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นอุทาหรณ์และเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ได้รับรู้ > > ขอให้ทุกคนมีความปลอดภัยในการดำรงชีวิต ด้วยความปรารถนาดี
29 มีนาคม 2552 14:09 น. - comment id 22627
ถึงจะยาวไปหน่อย แต่ก็ควรอ่านนะค่ะ เหมาะมากสำหรับผู้หญิงที่ต้องกลับบ้านคน เดียว เดี๋ยวนี้ภัยสังคมมีเยอะมากมาย เศษฐกิจก็ไม่ดี อะไรก็เกิดขึ้นได้ถ้าประมาท
3 เมษายน 2552 01:39 น. - comment id 22663
เคยทำงานเเถวสุรวงค์ เข้ากรุงเทพฯเเล้วรู้สึกไม่ปลอดภัยเลยจริงๆ