ลิ่วลิ่วปลิวตามลม...ใจเอ๋ย เปลี่ยวเปล่าเศร้าตามเคย...ค่ำนี้ จับจ้องมองฟ้าไกล...ไร้เดือน เหมือนรักผลักไสพ้น...เกินค้น...ใจเธอ .............................................. เปาะแปะแฉะชื่นชื้น...ฝนพรำ หยดย้ำซ้ำรอยคำ...พร่ำเพ้อ แววตาเคยอาทร...ก่อนนี้ ไม่มีแล้วความอุ่น...กรุ่นเกื้อ...เหลือไว้ .............................................. หากย้อนเวลากลับไป...วัยวัน อยากให้เราเดินสวนกัน...อย่าใกล้ เพียงคนพบเจอนั้น...ผันผ่าน จากกันคงไม่ทรมาน...เนินนาน...ป่านนี้ ............................................. ไม่สนิทชิดใกล้...ไหวหวั่น ไร้ฝันร่วมใฝ่...ใจเหม่อ ไม่นึกรู้สึกห่วง...ยามห่าง ไร้รอยทางน้ำตา...ว้าเหว่...เดียวดาย .............................................. คำตอบของหัวใจ...ใช่คนที่รอรึเปล่า? เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่รอคนที่คุณต้องการ (ดีกว่าตัดสินใจไปกับใครสักคนที่ว่างอยู่) เป็นเรื่องดีที่สุดที่จะรอคนที่คุณรัก (ดีกว่าตัดสินใจไปกับใครสักคนที่อยู่แถวนั้น) เป็นเรื่องดีที่สุดที่จะรอคนที่คุณคิดว่าใช่เลย (เพราะชีวิตช่างแสนสั้น สำหรับเวลาที่สิ้นเปลืองไป...กับคนที่ไม่ใช่เลย) คงจะดีถ้าได้เจอคนที่เขารักคุณจริงในภายหลัง เพราะมันย่อมดีกว่า การได้เจอคนที่สัญญาว่าจะ"รัก"คุณ แต่ในไม่ช้าเขาก็ "จากไป" อย่าพยายามแสร้งทำให้คนอื่นประทับใจ เพื่อที่เขาหรือเธอจะได้มาหลงรักคุณ เพราะถ้าทำแบบนั้น คุณจะถูกตั้งความหวังไว้ว่า...มันจะต้องเป็นแบบนั้นตลอดไป โชคชะตา...บอกถึงคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา แต่หัวใจ...บอกถึงคนที่จะอยู่กับเราตลอดไป บางทีกว่าที่ใครบางคนจะรู้ใจตัวเอง...มันก้อทำให้ใครอีกหลายคนต้องเจ็บปวด... เราไม่ได้เกิดมาเพื่อทำร้ายกัน...หากไม่ใช่ก้ออย่าฝืนใจรัก...ก้อแค่นั้น... ปล.กราบขออภัยคุณครูภาษาไทยทุกท่านด้วยจ้า...กลอนอาจไม่อยู่กับร่องกับรอยเหมือนกับชื่อกลอน ไม่ถูกต้องตามฉันทลักษณ์ หากไม่ถูกใจประการใดก้อโปรดเลยผ่านไป ไม่ต้องเม้นท์ หรือคิดถึงมันอีก เพียงแค่ปิดหน้านี้ก้อเท่านั้น...ขอบคุณค่ะ
15 สิงหาคม 2551 15:33 น. - comment id 21355
น้องเจน... ปลิวละลิ้วไปตามลม ทนเก็บข่มอารมณ์หมอง
21 สิงหาคม 2551 18:58 น. - comment id 21417
ตื่นเถิดคนไทย.... ครั้งที่อาณาจักรศรีวิชัยเจริญรุ่งเรืองเมื่อ 1200 ปีก่อน ศูนย์กลางความเจริญอยู่ที่เกาะสุมาตราประเทศอินโดนีเซีย สังคมในแถบหมู่เกาะอินโดจีนอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขด้วยเหตุและผล เชื่อถือความเป็นจริง ยอมรับในความเป็นธรรมชาติ ถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกัน จนกระทั่งเมื่อมีลัทธิหมาล่าเนื้อนับถือในพระเจ้าที่พิสูจน์ตัวตนไม่ได้ เผยแพร่เข้ามาในพื้นที่แถบนี้ ผู้คนต่างงมงายศรัทธาในพระเจ้าที่ไม่มีตัวตน อธิบายเหตุผลไม่ได้ สังคมก็เริ่มเปลี่ยนแปลงแก่งแย่งชิงดี รบราฆ่าฟันกันเพื่อสังเวยพระเจ้าของตนเอง โดยอ้างว่าถ้าฆ่าฟันกันเพื่อความเชื่อทางลัทธิจะไม่บาป เที่ยวเผยแพร่ลัทธิรุกรานเอาเปรียบคนอื่นเขาไปทั่ว เป็นลัทธิที่โง่และเห็นแก่ตัวจริง ๆ เจ้าลัทธิจะหลอกอย่างไรก็เชื่อไปหมด เชื่อแม้กระทั่งให้ทำร้ายตัวเองเพื่อสังเวยพระเจ้าจะได้บุญก็เชื่อ ปรัชญาหลักของลัทธิคือกดหัวผู้คนไม่ให้ฉลาด ไม่ให้ใช้ความคิดเป็น เผยแพร่ความโง่ไปเรื่อย ๆ ก้าวร้าวฆ่าฟันกันไม่รู้หยุดรู้หย่อน แม้ไม่มีศัตรูต่างลัทธิจะฆ่าฟัน ก็ฆ่าฟันกันเองในลัทธิที่ต่างคนสอน แผ่นดินหาความสงบสุขไม่ได้ สภาพสังคมภายใต้ลัทธิก็เอาเปรียบกดขี่กันเอง มนุษย์ผู้ชายอ้างว่าเป็นตัวแทนของพระเจ้าไม่ต้องทำมาหากิน คิดแต่เรื่องรบราฆ่าฟันกันเพื่อสังเวยพระเจ้า กดขี่สตรีเพศให้ทำงานเลี้ยงสามี ผู้ชายสามารถหาผู้หญิงมาปรนเปรอทางเพศได้ถึง 4 คน แต่ผู้หญิงทำไม่ได้ เป็นยุทธศาสตร์ของลัทธิก้าวร้าว ที่ต้องการรุกรานต่อสังคมชาวโลก ถ้าเป็นผู้ชายฝ่ายศัตรูฆ่าให้ตาย แล้วยึดผู้หญิงมาทำเมียเพื่อกลืนลัทธิ แผ่นดินแถบอินโดจีนที่เคยอยู่กันอย่างสงบสุขด้วยเหตุด้วยผล ด้วยความจริงของธรรมชาติ ก็ต้องมาหวาดผวากลัวการก่อการร้ายของลัทธิอุบาทว์ที่กำลังพยายามแบ่งแยกดินแดนทางภาคใต้ของไทย แล้วทำไมคนไทยไม่ช่วยกันขจัดลัทธิอุบาทว์ชาติชั่วออกไปจากแผ่นดินไทย