มะเม่า ต้นมะเม่า พันธุ์มะเม่า กิ่งพันธุ์มะเม่า ต้นกล้ามะเม่า มะเม่าต้นกล้า มะเม่ากล้า มะเม่ากิ่งพันธุ์ มะเม่าพันธุ์

phuphanphet

"ภูพานเพชร" ผู้นำตลาดหมากเม่าระดับสากล
PhuPhanPhet - Leading MaMao Brand
หมากเม่า (มะเม่า เม่าเสี้ยน มัดเซ) เป็นผลไม้ชั้นนำในเขตภาคอีสาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร ส่วนภาคอื่นๆ เรียกว่า "เม่า"  ชื่อวิทยาศาสตร์  Antidesma velutinosum Blume ในวงศ์ Stilaginaceae. เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบ ความสูงประมาณ 12-15 เมตร ออกดอกช่วงเดือนมีนาคม - พฤษภาคม และผลจะสุกในช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน 
 
คุณค่าทางโภชนาการ ชองผลหมากเม่า (ต่อ 100 กรัม)
      
พลังงาน	75.20	กิโลแคลลอรี่
โปรตีน	0.63	กรัม
เยื่อใย	0.79	กรัม
คาร์โบไฮเดรต	17.96	กรัม
แคลเซียม	13.30	มิลลิกรัม
เหล็ก	1.44	มิลลิกรัม
วิตามิน ซี	8.97	กรัม
วิตามิน บี1	4.50	ไมโครกรัม
วิตามิน บี 2	0.03	ไมโครกรัม
วิตามิน อี	0.38	ไมโครกรัม
 
ประโยชน์ หมากเม่า 
1. ผลดิบสีเขียวอ่อน ประกอบอาหารคล้ายส้มตำเม่า 
2. ผลแก่สีแดงมีรสเปรี้ยว ส่วนผลแก่จัดสีดำม่วง จะมีรสหวานอมเปรี้ยว รับประทานเป็นผลไม้สด 
3. ผลมีสรรพคุณเป็นยาระบายและบำรุงสายตา ใบสดนำมาอังไฟเพื่อใช้ประคบแก้อาการฟกช้ำดำเขียว เปลือกต้นเม่าใช้เป็นส่วนประกอบของลูกประคบ 
4. ผลหมากเม่าสุก มีกรดอะมิโน 18 ชนิด  แคลเซียม เหล็ก สังกะสี  วิตามิน B1 B2 C และ E
5. ผลิตภัณฑ์แปรรูปเช่น น้ำผลไม้  ไวน์เม่า แยม กวน  สีธรรมชาติผสมอาหาร ฯลฯ 
6. น้ำเม่าสกัดเข้มข้น 100%  มีสารอาหาร วิตามินหลายชนิด ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายรวมทั้ง มีสารต้านอนุมูลอิสระ
7.ไวน์หมากเม่า มีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง 
8.กัมมาลและคณะ (2546) ศึกษาฤทธิ์ต้านเชื้อ HIV เชื้อรา เชื้อแบคทีเรียของสมุนไพรไทย 5 ชนิด คือ มะเม่า ฟ้าทลายโจร หญ้าแห้วหมู ผักเป็ดแดง และสายน้ำผึ้ง พบว่า มะเม่า สายน้ำผึ้ง และหญ้าแห้วหมู มีศักยภาพในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันและมีฤทธิ์ต้านเชื้อ HIV ได้ 
หจก.ภูพานเพชร มีทั้งต้นพันธุ์ และผลิตภัณฑ์แปรรูป
หมากเม่า ภูพานเพชร 
1. ลักษณะเด่น หมากเม่า สายพันธุ์ "ภูพานเพชร"  
    *  ต้นสูงประมาณ 12 - 15 เมตร
    *  ลักษณะใบ กว้างมนใหญ่ มีทั้งใบยาว และใบสั้น
    *  ผล เป็นพวงช่อขนาดใหญ่ ประมาณ 15 ซม. ผลดิบมีสีเขียว ผลแก่ 
       สีแดง เมื่อผลแก่จัดจะเปลี่ยนเป็นสีดำ 
 2. ผลิตภัณฑ์ ภูพานเพชร
    2.1 ต้นพันธุ์หมากเม่า ภูพานเพชร  ความสูง 50,   80,  100 ซม.
    2.2 ไวน์หมากเม่า "ภูพานเพชร"  
    2.3  แยมหมากเม่า "ภูพานเพชร"  
    2.4  น้ำผลไม้เข้มข้น หมากเม่า "ภูพานเพชร"
 
หมากเม่า ภูพานทอง
1. ลักษณะเด่น หมากเม่าสายพันธุ์ "ภูพานทอง"  
    *  ต้นสูงประมาณ 10 - 12 เมตร
    *  ลักษณะใบ แคบเล็กยาว ใบห่าง
    *  ผล เป็นพวงช่อขนาดใหญ่ ประมาณ 12 ซม. ผลดิบมีสีเขียว ผลแก่
       สีแดง เมื่อผลแก่จัดจะเปลี่ยนเป็นสีดำ
2. ผลิตภัณฑ์ ภูพานทอง
    2.1 ต้นพันธุ์หมากเม่า ภูพานทอง  ความสูง 50,   80,  100 ซม.
    2.2 ไวน์หมากเม่า "ภูพานทอง" 
    2.3 แยมหมากเม่า "ภูพานทอง"
    2.4 น้ำผลไม้เข้มข้นหมากเม่า "ภูพานทอง"
 
สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติม
www.phuphanphet.com
Tel: 081 839 0015  คุณเอมอร สาระขันธ์				
comments powered by Disqus
  • ลัทธิก้าวร้าว

    21 สิงหาคม 2551 19:01 น. - comment id 21426

    ตื่นเถิดคนไทย....  ครั้งที่อาณาจักรศรีวิชัยเจริญรุ่งเรืองเมื่อ 1200 ปีก่อน  ศูนย์กลางความเจริญอยู่ที่เกาะสุมาตราประเทศอินโดนีเซีย  สังคมในแถบหมู่เกาะอินโดจีนอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขด้วยเหตุและผล  เชื่อถือความเป็นจริง  ยอมรับในความเป็นธรรมชาติ  ถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกัน  จนกระทั่งเมื่อมีลัทธิหมาล่าเนื้อนับถือในพระเจ้าที่พิสูจน์ตัวตนไม่ได้  เผยแพร่เข้ามาในพื้นที่แถบนี้  ผู้คนต่างงมงายศรัทธาในพระเจ้าที่ไม่มีตัวตน  อธิบายเหตุผลไม่ได้  สังคมก็เริ่มเปลี่ยนแปลงแก่งแย่งชิงดี  รบราฆ่าฟันกันเพื่อสังเวยพระเจ้าของตนเอง  โดยอ้างว่าถ้าฆ่าฟันกันเพื่อความเชื่อทางลัทธิจะไม่บาป  เที่ยวเผยแพร่ลัทธิรุกรานเอาเปรียบคนอื่นเขาไปทั่ว  เป็นลัทธิที่โง่และเห็นแก่ตัวจริง ๆ  เจ้าลัทธิจะหลอกอย่างไรก็เชื่อไปหมด  เชื่อแม้กระทั่งให้ทำร้ายตัวเองเพื่อสังเวยพระเจ้าจะได้บุญก็เชื่อ  ปรัชญาหลักของลัทธิคือกดหัวผู้คนไม่ให้ฉลาด  ไม่ให้ใช้ความคิดเป็น  เผยแพร่ความโง่ไปเรื่อย ๆ  ก้าวร้าวฆ่าฟันกันไม่รู้หยุดรู้หย่อน  แม้ไม่มีศัตรูต่างลัทธิจะฆ่าฟัน  ก็ฆ่าฟันกันเองในลัทธิที่ต่างคนสอน  แผ่นดินหาความสงบสุขไม่ได้  สภาพสังคมภายใต้ลัทธิก็เอาเปรียบกดขี่กันเอง  มนุษย์ผู้ชายอ้างว่าเป็นตัวแทนของพระเจ้าไม่ต้องทำมาหากิน  คิดแต่เรื่องรบราฆ่าฟันกันเพื่อสังเวยพระเจ้า  กดขี่สตรีเพศให้ทำงานเลี้ยงสามี  ผู้ชายสามารถหาผู้หญิงมาปรนเปรอทางเพศได้ถึง 4 คน  แต่ผู้หญิงทำไม่ได้  เป็นยุทธศาสตร์ของลัทธิก้าวร้าว  ที่ต้องการรุกรานต่อสังคมชาวโลก  ถ้าเป็นผู้ชายฝ่ายศัตรูฆ่าให้ตาย  แล้วยึดผู้หญิงมาทำเมียเพื่อกลืนลัทธิ   แผ่นดินแถบอินโดจีนที่เคยอยู่กันอย่างสงบสุขด้วยเหตุด้วยผล  ด้วยความจริงของธรรมชาติ  ก็ต้องมาหวาดผวากลัวการก่อการร้ายของลัทธิอุบาทว์ที่กำลังพยายามแบ่งแยกดินแดนทางภาคใต้ของไทย  แล้วทำไมคนไทยไม่ช่วยกันขจัดลัทธิอุบาทว์ชาติชั่วออกไปจากแผ่นดินไทย
  • เจ้าลัทธิ

    21 สิงหาคม 2551 19:03 น. - comment id 21428

    ท่าน นบีมูฮัมมัดที่สานุศิษย์นับถือกันนักหนา  แท้จริงแล้ว  ก็ไม่แตกต่างจาก  ผู้ทรงเจ้าเข้าผีของเมืองไทยเท่าไรนัก  เพราะต่างก็อ้างว่าตนเองเป็นคนสำคัญ  ที่สามารถติดต่อกับผู้วิเศษ(อัลลอฮ์)ที่จะบันดาลอะไรให้ใครก็ได้ตามที่ร้องขอ  คนอื่นไม่เก่ง ไม่ดี ไม่สะอาด  ไม่เลิศพอที่จะติดต่ออัลลอฮ์ได้  แล้วก็บอกว่าลัทธิของตนวิเศษกว่าใครๆ  เที่ยวประณามไล่ฆ่าฟันพวกลัทธิอื่นมั่วไปหมด  แล้วอย่างนี้จะสมานฉันท์ได้อย่างไร  โลกคงมีสันติสุขอย่างที่หวังได้อยู่หรอก.....

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน