เวียงคอกช้างดิน ๒๕๕๑ หรือกรุงเทพมหานคร (ร้าง) ในอนาคต!
ธมกร
เวียงคอกช้างดิน ๒๕๕๑
หรือกรุงเทพมหานคร (ร้าง) ในอนาคต!
ศิวกานท์ ปทุมสูติ
.
เมื่อเมษายนที่ผ่านมา ผมและเยาวชนหนุ่มสาวโรงเรียนกวีรุ่น ๓ ได้ห่อข้าวใบตองไปกินกลางป่าเชิงภูเขาถ้ำเสือ อู่ทอง สุพรรณบุรี ไปสัมผัสอารมณ์กับร่องรอยอาณาจักรรกร้างครั้งเมืองอู่ทองรุ่งเรือง ตามนัยที่นักประวัติศาสตร์รุ่นใหม่เชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับแผ่นดินสุวรรณภูมิครั้งกระโน้น ผมเองไม่ลึกซึ้งกับเรื่องประวัติศาสตร์จึงขอที่จะไม่ขยายรายละเอียด เรา คือผมและศิษย์โรงเรียนกวีทุ่งสักอาศรม จึงมุ่งไปเยี่ยมไปเยือนเมืองร้างด้วยอารมณ์รู้สึกของคนเขียนบทกวีเป็นสำคัญ
รูปรอยโบราณสถานอันเกี่ยวข้องกับศาสนาและลัทธิความเชื่อ จะเรียกว่าปราสาทหรือวิหารหรืออะไรบ้างผมไม่ได้จำ รู้แต่ว่าด้วยสายตาและอารมณ์รู้สึก ผมคิดอะไร และหนุ่มๆ สาวๆ เยาวชนเขาคิดอะไร เราต่างหามุมซุ่มเขียนความรู้สึกนึกคิดกัน บนก้อนหินบ้าง ใต้ร่มไม้บ้าง บนเนินดินบริเวณคอกช้างดินโบราณบ้างตามอิสระ
.
สิ่งที่ผมเขียนในวันนั้น วันนี้ (๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๑) ผมกลับมาย้อนอ่าน มันทำให้ผมประหวัดรู้สึกเอ๊ะๆ กับ อะไร บางสิ่งบางอย่าง ที่กำลังก่อตัวขึ้นในบ้านเมืองของเราขณะนี้ ลองอ่านบทกวีก่อนนะครับ เดี๋ยวค่อยพูดถึงบางสิ่งบางอย่างที่ว่านั้น...
.
"เวียงคอกช้างดิน ๒๕๕๑"
******************************
.
โอ้...โบราณสถานพูนทอง
พูนกองอิฐก่อยังพอเห็น
รอยอารยนครซ่อนเร้น
ในเส้นทางโคและรอยคน
.
ธารเมืองพุม่วงไร้น้ำ
ลาดต่ำลำรางร้างฝน
หุบช้างคอกดินดำรงตน
หมู่ต้นไม้เติบชีวิตา
.
ซากศาสนสถานสึกกร่อน
สิขรซ่อนนิมิตปริศนา
ไร้เงาท้าวเทพเทวา
ไม้หญ้าเซิงเหย้าลำเนาพฤกษ์
.
จั๊กจั่นเรไรจำเรียง
สรรพเสียงรู้สู่รู้สึก
เวียงวังว่างเปล่าเหงาลึก
บันทึกเส้นทางรางเลือน
.
บางเราเคยอยู่ที่นี่
กี่ภพกี่ชาติมาแล้วเพื่อน
ยังเวียนมาเยี่ยมมาเยือน
รูปเรือนวิญญาณอันเปลี่ยวไร้
.
"ธมกร"
ณ สถานที่เขียน
๒๓เมย.๕๑
(คำ เวียงคอกช้างดิน เป็นคำที่ผู้แต่งสร้างขึ้นสำหรับบทกวีนี้เท่านั้น มิใช่คำเรียกขานในประวัติศาสตร์ เป็นการประสมคำขึ้นใหม่โดยเติมคำว่า "เวียง" เข้าข้างหน้าคำเรียกสถานที่ "คอกช้างดิน" ที่เป็นร่องรอยโบราณสถานแห่งหนึ่งในบริเวณเมืองเก่าอู่ทองนั้น)
.
อะไรที่ผมประหวัดรู้สึกหรือครับ ขณะผมกลับมาย้อนอ่านบทกวีและดูภาพเวียงวังร้างรก ปรักหักโทรม เหลือเพียงรอยซากสึกกร่อนผมก็พลันวาบรู้สึกถึงการก่อตัวของความเลวร้ายของสายใยอำนาจฉ้อฉล อยุติธรรมต่างๆ จนเป็นแรงกดกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้านและขับต้อนอย่างต่อเนื่องในกรุงเทพมหานครวันนี้ มันเหมือนเห็นภาพรางๆ ของ กรุงเทพมหานครร้าง! ในอนาคต ซ้อนทับกับภาพ เวียงคอกช้างดิน-อู่ทองเมืองร้าง!
.
โอ้...มันเป็นคนละเรื่องเดียวกันของความเสื่อม ที่ก่อตัวจากความเสื่อมในจิตใจคน โดยเฉพาะคนที่มีอำนาจปกครอง!
เราจะทำอย่างไร หรือทำอะไรได้บ้าง?
คนไทยทุกคนคงต้องถามเองแล้วตอบเอง...ด้วยการกระทำของแต่ละคนที่ สร้างสันติธรรม นำสันติสุข อย่างแท้จริง และอย่างยั่งยืนสืบไป
อย่าให้ภาพประหวัดวาบรู้สึกของผมเป็นจริงเลยครับ