ตามจรองก็สมัครเป็นสมาชิกนานแล้วล่ะค่ะ เห็นมีแต่คนแต่งกลอนเก่งๆกันทั้งนั้นเลย แต่ตัวเองกลับแต่งยังไม่ได้สักบท เลยอยากรู้ว่าจะทำยังไงถึงจะแต่งกลอนเก่งค๊ะ ขอบคุณค่ะ
20 มีนาคม 2551 17:58 น. - comment id 16893
แรงบันดาลใจ คับ
20 มีนาคม 2551 21:18 น. - comment id 16894
คนอื่นๆแนะนำเชิงเทคนิคได้ดีอยู่แล้ว เราเองก็ไม่ได้โพสต์กลอนเลย แต่ก็ขีดๆเขียนๆอยู่บ้าง มีคำคมจีนที่น่าประทับใจมากคือ "ภูเขาสุมร้อยหิน จึงสูงตระหง่าน มหรรณพรับร้อยธาร จึงไพศาล อักษรศาสตร์ผ่านการเค้น สมองค่อยปราดเปรื่อง" คือต้องฝึกฝนครับ ด้วยความเอาใจใส่ บางคนเป็นเอามากถึงกับฝันเป็นโคลงกลอนเลยทีเดียว แต่เมื่อไปถึงขั้นหนึ่งก็อย่าลืมว่า "กวีพนธ์ก็เหมือนใบไม้ผลิ มันเป็นไปตามธรรมชาติ จะบีบเค้นบังคับหาได้ไม่" (อันนี้สรุปแบบเอาความจากวาทะของจอห์น คีตส์ กวีเอกชาวอังกฤษ) ก่อนอื่นก็ต้องหาแรงบันดาลใจก่อน คำนี้เชย แต่เป็นจริงอย่างยิ่ง ถ้าเราไม่มีแรงบันดาลใจ เขียนไปก็ไม่ได้ต่างอะไรกับคำคล้องจอง เพราะกลอนหรือกวีนิพนธ์ที่ดี (แล้วแต่จะสะดวกเรียก) ไม่ได้มีแค่คำสวยๆ แต่ต้องมีพลัง มีความหมาย น้องจะเห็นได้ว่า บางที่กลอนที่ไม่ได้เขียนตามฉันลักษณ์มีพลังมาก แต่กลอนที่ไพเราะเพราะพริ้งบางบท ไม่มีความหมายอะไรเลย ถ้าจะเอาแบบปฏิบัติได้ชัวร์คือ อ่านมากๆ จำบทกวีบทกลอนให้ได้มากๆ คำเราก็มากด้วย เราก็ได้เรียนรู้วิธีใช้การเปรียบเทียบไปด้วย
15 มีนาคม 2551 17:50 น. - comment id 20460
เรื่องการแต่งกลอนนะคะ ตรากลมก็ยังไม่เก่งนะคะ แต่ชอบที่จะแต่ง แล้วแต่งด้วยความรัก ไม่ใช่แต่งไปงั้นๆ มันทำให้ไม่พัฒนาคะ ขอเรียงเป็นลำดับนะคะ 1.ฉันทลักษณ์................... เรื่องฉันทลักษณ์สำคัญมากสำหรับคนที่เพิ่ง เริ่มคะ แต่คนที่เชียวชาญแล้ว เขาจะเอา ฉันทลักษณ์ไว้หลัง เอาความลงตัวมาก่อน ตรากลมเองก็ยังไม่เชียวชาญนะคะ แต่งไปแต่งมามันเป็นสำนวนของตัวเอง ลองไปอ่านดูนะคะ ควรไปศึกษาฉันทลักษณ์ ให้รุ้ก่อนคะ มีเว็บให้ศึกษาเกี่ยวกับฉันทลักษณ์ เยอะแยะนะคะ 2. ความหมาย............ เป็นสิ่งสำคัญมากทีเดียวคะ โดยส่วนมาก คนที่เริ่มแต่งร้อยกรองใหม่ ๆ จะบังคับเนื้อหา ไม่ได้ เพราะฉันทลักษณ์บังคับตัวสำผัส มันยากที่จะบีบคำที่จะใช้ให้ตรงกับความหมาย ที่เราอยากให้เป็น ของตรากลมเอง จะวางเนื้อหา ก่อนว่าจะแต่งไปยังไง ไม่ใช่แต่งไปเรื่อยๆ อันนี้จะทำให้ไม่น่าสนใจคะ อย่างเช่นจะแต่งกลอนรัก รักในแนวไหน กลอนล่าสุด เป็นรักแนวใสๆ แต่งประมาณ ห้าบท เราก็กำหนดว่า ช่วงไหนจะเอายังไง กลอน ตามใจอารมณ์ วางเนื้อหายังนี้คะ สองบทแรกกล่าวความเป็นมาว่าทำไมหัวใจ จึงสับสน สับสนเรื่องอะไร แล้วสองบทหลัง จะหาเหตุผลมาแก้ว่าจะทำยังไงเมื่อเป็นยังนั้นแล้ว อันนี้ก็แล้วแต่คนแต่งคะว่าจะหา เหตุผลมาได้น่าเชื่อถือได้แค่ไหน 3. คาวมลงตัว อันนี้ตรากลมก็ยังไม่แน่ไม่นอนคะ ประสบการณ์ยังน้อยบางทีสำนวนมันสับสอยู่ ความลงตัวจะทำให้กลอนเพราะคะ อย่างเช่นเสียงท้ายวรรค มีหลายคนแต่ง สำผัสรับกันเสียงสั้นยาว ทำให้อ่านไม่รื่นคะเช่น 0000000ใช่ 00มาย0000ถาม 0000000ตาม 00งาม00000 วรรคแรกเสียง สั้น สำผัสรับใช้เสียง ยาวรับวรรคสอง มาย ทำให้ไม่อ่านไม่รื่นคะ ท้ายวรรคสองลงเสียงอักษรสูง ท้ายวรรคที่สามใช้เสียงสามัญอักษรกลาง ถูกต้องคะแต่วรรคสี่สำผัสรับเป็นเสียงอักษรกลางเสียงสามัญเหมือนกัน ตาม กับ งาม มันอ่านแล้วไม่รื่นคะ เสียงสำคัญคะ จะทำให้เพราะเวลาอ่านกลอนคะ 4.ใฝ่หาความรู้เสมอ อันนี้สำคัญเหมือนกันคะ การได้อ่านงาน ของคนอื่นจะทำให้กลอนเรามีสำนวน ไพเพราะเพิ่มขี้น ดัดแปลงสำนวนเขา คนที่เก่งๆ นะคะ ให้คลายเขา ยิ่งเว็บนี้ หลายท่านคะที่แต่งเพราะ 5.ปรับปรุงแก้ไข การรู้จุดบกพร่องของตนเองแล้วแก้ไข จะทำให้ดีขึ้นคะ ไม่ควรปล่อยให้ผ่านไป โดยคิดว่า มันยากหรือเอาไว้ก่อน เป็นไงบ้างคะ พอเข้าใจบ้างไหม ไม่ยากเลย ถ้าหัดเริ่มแต่ง ไม่ท้อแท้ ตรากลม ถ้าพูดถึง แต่ก่อน แต่งกลอนไม่เป็นเล้ย เพราะด้วย ใจรัก อ่านกลอนของท่านที่แต่งดีๆ เพราะ ๆ เลยแต่งพออ่านได้บ้าง คิดว่าถ้าหัดแต่งวันนี้ ก็จะดีในวันหน้าคะ สู้ๆ นะคะ ที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นการแต่ง ของตรากลมที่ใช้แต่งกลอนนะคะ ส่วนของ คนอื่นเป็นไง ต้องถามคนอื่นคะ
16 มีนาคม 2551 14:28 น. - comment id 20462
ตรากลมแนะนำน้องได้ดีมากค่ะ ขอเพิ่มเติม จากตากลมนะคะ ก็แต่ละท่านอาจจะยึด แนวทางไม่เหมือนกัน ส่วนของพี่ก็ตามที่ สอนเด็กๆนะคะ สำหรับเสียงวรรณยุกต์ท้ายวรรคในแต่ละวรรค 1. คำสุดท้ายของวรรคที่ 1 ไม่กำหนดเสียง แต่ ไม่นิยมเสียงสามัญ 2. คำสุดท้ายของวรรคที่ 2 กำหนดให้ใช้เสียง จัตวา เอก หรือ โท ห้ามเสียงสามัญ และไม่ นิยมเสียงตรี 3. คำสุดท้ายของวรรคที่ 3 และ 4 กำหนดให้ใช้เสียงสามัญ ห้ามเสียงโท และจัตวา แต่อนุโลมให้ใช้เสียงตรีได้ กลอนสมัยใหม่อาจจะไม่ตรงตามนี้ก็ได้ค่ะ ส่วนสัมผัสใน ไม่บังคับไว้ค่ะ แต่ถ้ามีก็จะทำ ให้กลอนนั้นไพเราะ งดงามมากขึ้น สัมผัสใน จะมีเพียง 1 หรือ 2 แห่งก็ได้ และไม่มีเลย ก็ได้ ไม่บังคับ บังคับแต่สัมผัสนอก แต่มีมาก ก็อาจไม่เพราะ ก็ตามที่เห็นจากท่านที่แต่ง กลอนเก่งๆโดยมากจะมีสัมผัสในเพียง 1 แห่ง ขอให้น้องไปดูเว็บไซต์กลอนของสุนทรภู่เป็น หลักนะคะ และก็อ่านกลอนให้มากๆ แต่งให้ เยอะๆ จะเพิ่มทักษะการเต่งไปเรื่อยๆเองค่ะ จะเอาใจช่วยค่ะ พี่เองก็ยังไม่เก่งค่ะ กำลังศึกษาแนวทางอยู่ เหมือนกัน ต้องมีพจนานุกรมประกอบ เพื่อ หาความหมายของคำ คำพ้องความหมาย ซึ่ง มีในเน็ตนี้แหละค่ะ และตรวจคำไปด้วย เพื่อเขียนคำให้ถูกต้อง แรกๆไม่ต้องเขียน หลายบทเกินไปนะคะ
17 มีนาคม 2551 16:36 น. - comment id 20467
ฝึกฝน บ่อยๆ อย่าท้อ ครับ มอบให้...อีก..หนึ่งกำลังใจ...
19 มีนาคม 2551 09:08 น. - comment id 20480
"ทุกวันนี้เราก็แค่แต่งกลอนได้เท่านั้นเอง" (รำพึงรำพันน่ะ ตามประสาป้า ประจำบอร์ด อิอิ) แต่ก็มีคำแนะนำเบื้องต้นคือค่อยๆ ก้าวจ๊ะ :)
22 มีนาคม 2551 21:30 น. - comment id 20513
ปกติก็ชอบคำคม และกลอนของจีน เพราะ ลึกซึ้ง และความหมายดี ที่จริงนาฬิกาอารมณ์บูดก็แต่งไม่ค่อยเก่งอะน่ะ นาฬิกาตาย พอถูไถไปได้ ได้ความรู้เยอะขึ้นค่ะ ขอบคุณ พวกพี่ ๆมากมากรวมทั้ง นาฬิกาตายด้วยจ้า
23 มีนาคม 2551 11:19 น. - comment id 20515
แรงบันดาลใจ คับ
25 มีนาคม 2551 05:46 น. - comment id 20520
อ่านค่ะ อ่านเยอะๆ ฝึกฝนจินตนาการ คิดกว้างๆ ไกล ๆ พูดคุย แลกเปลี่ยนด้วย เพื่อหาประเด็นนำมาเขียน เอ.........อะไรอีก อ้อหาเรื่อง อกหัก รักคุด จากนิยาย นิทาน เพลง สารพัดนำมาดัดแปลงแต่งเติม ต่อไปก็คล่องเอง เพราะไม่เพราะก็อีกเรื่องหนึ่ง ก็พยายามไป 555
25 มีนาคม 2551 17:36 น. - comment id 20522
ทุกอย่าง...ย่อมมีการเริ่มต้น.. ก้าวแรก...เป็นก้าวที่ยากที่สุด..หากเราผ่านพ้นไปแล้ว...ก้าวต่อไป..ก็คงทำได้ไม่ยากนัก.... งานเขียนที่ดี..." ต้องมาจากใจ..และเขียนด้วยใจ" ถ่ายทอดให้ผู้อ่านได้เข้าใจในสิ่งที่เราต้องการสื่อสาร.... ขอให้...มีจินตนาการ...ความกล้าที่จะเขียน..มืความมุ่งมั่น..หมั่นฝึกฝน...อดทนและเพียรพยายาม....สักวันหนึ่ง...เราจะทำได้ค่ะ... ...ขอเป็นกำลังใจ..ให้น้องนะคะ..
28 เมษายน 2551 10:12 น. - comment id 20692
แต่งไปเถอะค่ะแล้วเราค่อยมาปรับปรุงใหม่ให้ดีขึ้นและที่สำคัญควรมีแรงบันดาลใจมากๆค่ะ