.....เศรษฐศาสตร์แห่งความรัก ว่าด้วยของแถม ในโลกใบนี้มีศาสตร์แขนงต่างๆมากมายให้เราศึกษาค้นคว้า อันเป็นแหล่งที่มาของความรู้ที่จะนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิต ความรักเป็นสิ่งที่สำคัญกับคนเรา น่าแปลก ที่ไม่มีใครคนไหน ได้บัญญัติความรัก ไว้เป็นศาสตร์ให้มนุษย์ทำความเข้าใจกับมันอย่างแท้จริงเลยสักคน . . .......ผมคงจะไม่อธิบายความหมายอะไรยืดยาวเกี่ยวกับคำว่า ของแถม หรือ คำว่า ความรัก เพราะไม่ว่าจะแปลเป็นถาษาใด ความหมายมันก็เหมือนกันทั่วโลก . . .......ทีนี้ผมจะพูดถึงเรื่อง เศรษฐศาสตร์แห่งความรัก ว่าด้วยของแถม เนื่องด้วย ผมมีแนวคิดที่ว่า มุมมองของความรักในโลกทุนนิยน มันต้องเปลี่ยนไปตามยุคสมัย นั่นเป็นที่มาของแนวคิดที่ว่า ความรักอธิบายด้วยหลักเศรษฐศาสตร์ได้ . . .......ของแถม สัมพันกับการขาย อยู่คู่กับการขายมาช้านาน ของแถม กับ ของฟรีก็ต่างกัน ของแถมนั้นจะเกิดขึ้นต่อเมื่อ เราซื้อสินค้าอะไรก็แล้วแต่จากผู้ขาย ผู้ขายจะให้สินค้าอื่นเพิ่มกับเราโดยไม่คิดเงินแต่อย่างใด ส่วนของฟรี คือสิ่งที่เราได้มาเปล่าๆไม่มีเงื่อนไขในการที่จะได้มา . . ........ของฟรีไม่มีในโลก ผมเชื่อกับคำๆนี้นะ อย่างน้อยๆในโลกของทุนนิยมก็ไม่มีอะไรที่เราจะได้มาฟรีๆ สิ่งที่เราได้มาล้วนแล้วแต่ต้องผ่านเงื่อนไขอย่างใดอย่างนึงเสมอ มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนอะไรบางอย่าง . . ......แต่ผมก็ปฏิเสธไม่ได้นะว่าสมัยเมื่อครั้งผมยังเป็นเด็ก ของฟรี ยังมีอยู่ แต่มันนานมาแล้ว ในแถบชนบทที่ผู้คนมีน้ำใจที่ใสสะอาด . . ........ทีนี้มาว่ากันด้วยเรื่องของความรัก กับเศรษฐศาตร์ ของแถม ว่ามันเกี่ยวเนื่องกันอย่างไร มันเกี่ยวก็ตรงที่ ในทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อย่างง่ายๆมีใจความว่า คือการจัดสรรสิ่งที่มีอยู่อย่างจำกัด ให้พอเพียงกับความต้องการที่ไม่มีขีดจำกัดของมนุษย์ . . ....ความรักเรามีอยู่ไม่จำกัดก็จริง แต่สำหรับคนที่เราจะมอบความรักให้ มีอยู่จำกัดที่คนไม่กี่คน โดยเฉพาะความรักแบบหนุ่มสาว .. . . .....เมื่อรักแล้วก็ต้องมีการทุ่มเท และทุ่มทุน คำว่ารักเพียงอย่างเดียวกับคำหวานต่างๆที่พร่ำพรรณนา ต่อให้หวานหยดย้อยสักแค่ไหน ในสมัยนี้ คุณไม่มีทางที่จะได้ใจของใครมาโดยง่ายแน่ๆ . . .......ความรักในโลกของทุนนิยมต้องผ่านเงื่อนไขในทางเศรษฐศาสตร์ คือคนที่จ่ายมากกว่า จะเป็นคนที่ได้รับสิทธิประโยชน์ในการที่จะได้รับความรักมากกว่าคนอื่นๆ . . ......ขอให้แยกออกจากันระหว่างเรื่องของจิตใจนะ จิตใจ คือใจที่จะรัก แต่การกระทำ เราพูดแค่คำว่ารักไม่ได้ เราต้องจ่ายเพื่อที่จะได้รักนั้นมา รักน่ะรักได้ แต่ถ้าอยากจะให้ใครสักคนมารักตอบ เราต้องจ่าย . . .....จ่ายค่าโทรศัพท์ ดอกไม้ ของขวัญ ค่าอาหาร ค่าน้ำมัน เสื้อผ้า และอีกจิปาถะ . . .....ในทางความรัก เราไม่เคยได้สิ่งใดมาฟรีๆ . . .......ของแถมคือผลพลอยได้ที่เราจะได้รับเนื่องมาจากการรัก เช่น ความรู้สึกบ้าๆเวลาไปยืนแอบมองคนที่รักอยู่ห่างๆ การเอาอกเอาใจที่เราไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน และสิ่งที่คนที่ให้ จ่ายออกมาเป็นสิ่งของ นั่นคือของแถม เมื่อเราได้ให้ความรักไปแล้ว เงื่อนไขจะนำสิ่งต่างๆมาเอง . . .......ดูไปมันก็คงจะเหมือนกับไม่จริงใจ แต่เราต้องยอมรับว่าในโลกของทุนนิยม มันเป็นแบบนี้ทั้งนั้น ความรักเป็นเรื่องของจิตใจก็จริง แต่เราต้องอธิบายให้ใครสักคนมารักเราด้วยสิ่งที่เป็นรูปธรรม ต้องอธิบายได้ว่าเราเองเป็นคนที่ดี มีหลักประกัน มีการงาน มีชาติตระกูล มีการศึกษา สิ่งเหล่านี้ แหละคือเงื่อนไขอันที่จะนำพาความรักมาให้เรา . . .......ความรักที่แท้จริงซื้อขายกันไม่ได้ แต่โดยทางปฏิบัติ มันก็ไม่แน่เสมอไป . . ......ทุกอย่างล้วนแล้วแต่มีเงื่อนไข ถ้าเราเข้าใจในเงื่อนไข เราก็จะเข้าใจถึงผลที่จะได้รับกลับมา ไม่ว่ามันจะเป็นความรักหรือความรู้สึกอื่นใด . . .......แต่อย่าเอาคำพูดเหล่านี้ไปบอกคนที่กำลังมีความรักอยู่เลย ตาของเขากำลังพร่ามัวอยู่ตอนนี้ ชัดเจนแค่เขากับคนที่เขารักอยู่สองคน หูของเขารับรู้ได้ดีแค่คำว่ารักและคิดถึง ปากของเขาจะเอ่ยแค่คำพูดดีๆที่เกี่ยวกับความรัก จิตใจของเขาจะล่องลอยไปไกลแสนไกล . . . .. นี่แหละความรัก
4 กันยายน 2548 19:00 น. - comment id 11826
อกหักดีกว่ารักไม่เป็น...ลองหน่อยจะเป็นไร ๚ะ๛ size>
5 กันยายน 2548 09:53 น. - comment id 11827
ความรักเป็นสิ่งที่สวยงามถ้าเคยรักแล้วจะรู้จะงามขนาดไหน
5 กันยายน 2548 21:40 น. - comment id 11833
แวะมาแจกเครื่องคิดเลขค่ะ
5 กันยายน 2548 21:41 น. - comment id 11834
อ้าว ชื่อหายค่ะ ชื่อนี้นะคะ ทิกิ
8 กันยายน 2548 09:49 น. - comment id 11878
ตามความเห็นของเรา.. เราว่าความรักไม่ใช่การลงทุนหรอก ค่าน้ำมันรถ, ดอกไม้, ของขวัญ ฯลฯ เป็นค่าใช้จ่ายที่เรายินดีจะจ่ายมันเพื่อแลกกับความสุขที่เราได้รับต่างหาก.. คำว่าลงทุนทางเศรษฐศาสตร์คือการได้รับผลตอบแทนกลับมา.. ถ้าใครคิดว่าความรักคือการลงทุนล่ะก็.. เราคิดว่านั่นไม่ได้เรียกว่า \"ความรัก\" หรอกมั๊ง.. เห็นด้วยบ้างมั๊ยคะ..