5 มีนาคม 2552 11:33 น.
บพิตร
....นิราศปารีส-โรม....
(๑)
ขอบันทึกเล่าความตามที่เห็น
เก็บไว้เป็นความทรงจำอันล้ำค่า
เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตติดตรึงตรา
ราวกับว่าภาพเคยฝันพลันเป็นจริง
เมืองยุโรปเคยเห็นได้ในแผนที่
เรื่องราวมีได้ศึกษามาบางสิ่ง
จากหนังสือตำรามาอ้างอิง
ดูภาพนิ่งบนกระดาษวาดฝันไป
ดูทีวีเห็นบ้านเมืองเขาเรืองรุ่ง
กว่าเมืองกรุงเรานักหนาพาสงสัย
เป็นภาพจริงหรือภาพหลอกยอกย้อนใจ
ความยิ่งใหญ่จริงหรือเล่นเป็นสงกา
คนเคยไปบอกกล่าวเล่าให้คิด
ในชีวิตสักครั้งหนึ่งพึงเสาะหา
มีโอกาสไปดูเองเพ่งด้วยตา
ให้รู้ว่าเป็นจริงแค่ไหนในน้ำคำ
(นิราศปารีส-โรม ฉบับเต็มอยู่ในเรื่องสั้นครับ
จะทะยอยลงให้จบครับ)
3 มีนาคม 2552 14:44 น.
บพิตร
เดินทางไปใกล้ไกลในโลกกว้าง
บนเส้นทางชีวิตลิขิตไว้
ผ่านท้องทุ่งขุนเขาลำเนาไพร
ท้องทะเลกว้างใหญ่สุดสายตา
ทุกแห่งหนบนทางที่ย่างก้าว
อาทิตย์เช้าจวบพลบหลบเหลี่ยมผา
แม้เมฆหมอกพรายพราวหนาวกายา
หรือคราวฟ้าครืนครางกลางฝนพรำ
ทะเลคลั่งถาโถมประโคมหาด
สายฟ้าฟาดเปรี้ยงปร้างกลางคืนค่ำ
คลื่นลมแรงกรรโชกมาฟ้ามืดดำ
พัดกระหน่ำมิขาดสายคล้ายโกรธา
การเดินทางเช่นไรไม่เคยหวั่น
เรามีกันก้าวเดินเพลินหนักหนา
แม้สายฝนลมหนาวพร่างพราวมา
เพียงสบตาก็อบอุ่นกรุ่นในทรวง
ฟ้าครวญครางกลางคลื่นลมไม่ตรมจิต
เพียงแนบชิดสองเราเฝ้าห่วงหวง
ฟ้ามืดมิดใจสว่างกระจ่างดวง
เวลาล่วงผ่านไปไร้กังวล
ทุกเส้นทางใกล้ไกลไร้ขอบเขต
แสนพิเศษเปี่ยมสุขทุกแห่งหน
ทุกสิ่งอย่างสดใสในกมล
เพียงมีคนรู้ใจในเส้นทาง.
2 มีนาคม 2552 16:14 น.
บพิตร
ตามอารมณ์ "ตมณ์อาราม" ตามความคิด
ใช่เบือนบิด อยากเล่นคำ "ยำเล่นขาก"
"ไภยษาทา" ภาษาไทย ภูมิใจมาก
มีหลายหลาก "หมากหลายลี" ที่เล่นคำ
ภาษาไทย "ผายด้วน" คือ ผวนได้
น่าสนใจ "ใน่สนจา" "นายมาช้ำ"
ฝึกปัญญา "ฝาปัญญึก" ฝึกความจำ
เล่นผวนคำ "ลำผวนเค่น" เน้นฝึกปรือ
ความงดงาม "หาภาแษ่ง" แห่งภาษา
เล่ากันมา "ล่ากันเมา" เรายึดถือ
"ไภยษาทา" "แมนแบบผี"" คีของดือ"
"ไล่เลืองปือ" ลือเลื่องไป "ใน่ภูมิจา"
"ตมณ์อาราม" "ไขเปียน" เวียนหัวนัก
"พอนไว้กัก" พักไว้ก่อน เริ่มอ่อนล้า
"หาดผิดพลาก" หากผิดพลาด ขาดปัญญา
อย่าถือสา จงยกโทษ "โจษยกทง".