4 ธันวาคม 2552 09:13 น.
บพิตร
เสียงตามสายกระจายก้องท้องทุ่งนา
ท่านผู้ว่าฯ หัวหน้าส่วนล้วนผู้ใหญ่
นายอำเภอ กำนัน ท่านพร้อมใจ
มาบ้านไร่ลงแขกเคียวเกี่ยวรวงข้าว!
วันพรุ่งนี้ตอนสายให้พร้อมหน้า
ทั้งลุงป้าน้าอาอย่าตกข่าว
เตรียมให้พร้อมอาหารทั้งหวานคาว
แม้ลมหนาวพัดมาอย่ากริ่งเกรง
ถึงเวลาผู้ว่าฯ มาถึงทุ่ง
เสียงคุยฟุ้งผู้ว่าฯ ทำนาเก่ง
เสียงดนตรีต้อนรับขับบรรเลง
เสียงใครเร่งน้ำท่ามาต้อนรับ
นายอำเภอกล่าวพร่ำคำรายงาน
เชิญประธานลงเคียวเกี่ยวขยับ
เหล่าช่างภาพส่งสัญญาณขานเสียงนับ
หนึ่ง สอง สาม แสงวาบวับจับภาพงาม
บางผู้ใหญ่เก้อกังกำด้ามเคียว
ไม่เคยเกี่ยวรวงข้าวเข้าไถ่ถาม
ทำก้มเงยใกล้ชิดเฝ้าติดตาม
บ้างดื่มน้ำแก้เขินเดินไปมา
เสียงกำนันสอดแทรกลงแขกนี้
ประเพณีสืบสานเนิ่นนานช้า
ร่วมแรงกายแรงใจแรงศรัทธา
จงรักษาสืบไว้ให้ยั่งยืน
ท่านผู้ว่าฯ เกี่ยวกำตามบทบาท
เสียงประกาศราชการมีงานอื่น
กระทรวงสั่งเรื่องด่วนต้องหวนคืน
หากฝ่าฝืนอาจถูกย้ายให้เร่งรัด
ผู้ว่าฯ กลับพวกผู้ใหญ่ไม่มีอยู่
ดั่งนกรู้กลับบ้างช่างถนัด
เสียงกำนันประกาศดังฟังแจ่มชัด
งานที่จัดสำเร็จเสร็จแล้วเรา
พอบ่ายคล้อยเครื่องยนต์พ่นควันขาว
รถเกี่ยวข้าวคนขับมารับเหมา
กี่ร้อยไร่ไม่หวั่นเป็นงานเบา
ไม่ต้องเฝ้าเก็บเกี่ยวด้วยเคียวคน
การลงแขกเป็นเพียงเรื่องเอาหน้า
หมดคุณค่าความงามตามเหตุผล
เชิญผู้ใหญ่สร้างภาพกับมวลชน
อย่าสับสนการลงแขกคือแหกตา!!!
๔/๑๒/๕๒
3 ธันวาคม 2552 12:06 น.
บพิตร
ปฏิรูประบบการศึกษา
พัฒนาเยาวชนบนกระแส
โลกาภิวัตน์ก้าวรุกทุกดวงแด
คือบาดแผลยุคใหม่ให้พินิจ
ท่อง ก.กา ก.ไก่ ไม่ไหวแล้ว
ไม่เปลี่ยนแนวจะก้าวสู่ลู่วิกฤติ
สร้างโลกใหม่การศึกษาพาชีวิต
ลองถูกผิดมาสิบปีมิเห็นทาง
มุ่งคิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหา
ต้องเริงร่ามีสุขทุกสิ่งอย่าง
เอาผู้เรียนจุดเน้นเป็นศูนย์กลาง
กลับเหินห่างความจริงสิ่งที่เป็น
เด็กอ่อนด้อยความคิดจิตปั่นป่วน
ถูกชักชวนหลงทางอย่างที่เห็น
ขาดสำนึกชั่วดีชี้ประเด็น
กลับซ่อนเร้นความก้าวร้าวข่าวสังคม
ครูเบียดบังเวลามาทำงาน
เพื่อให้ผ่านเกณฑ์ประเมินเอาเงินถม
จ้างคนอื่นเขียนให้ได้ชื่นชม
ยังคุยข่มเชี่ยวชาญผ่านหลักเกณฑ์
ปฏิรูปต้องดีมีมาตรฐาน
เด็กซมซานกวดวิชาพาทุกข์เข็ญ
มุ่งแข่งขันแย่งชิงยิ่งชัดเจน
ชี้ให้เห็นการศึกษาพาหลงทาง.
2 ธันวาคม 2552 13:57 น.
บพิตร
เก่งกล้าท้าทายอวดสายตา
ทั้งโลกหล้าลือลั่นสนั่นไหว
เนรมิตฟู้งเฟื่องเมืองดูไบ
ความยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างคน
เปลี่ยนผืนทรายเป็นตึกสูงพุ่งเสียดฟ้า
สร้างพารากลางสมุทรสุดงามล้น
ทุนทรัพย์มหาศาลบันดาลดล
เพื่อเปรอปรนเศรษฐีคนมีตังค์
เงินลงทุนหมุนเวียนมาเปลี่ยนผ่าน
กี่ล้านล้านลงไปไม่หยุดยั้ง
เมื่อถึงคราวเศรษฐกิจพ่นพิษพัง
แทบบ้าคลั่งพวกหลงเพลินกับเงินตรา
ฟองสบู่ฟูฟ่องต้องแตกยับ
จะล้มพับกี่คนทนก้มหน้า
ทั้งลูกหนี้เจ้าหนี้ตีราคา
เมื่อคุณค่าสินทรัพย์จะอับปาง
ศิวิไลซ์แข่งสังคมข่มมนุษย์
สิ่งสูงสุดก้องชื่อคืองานสร้าง
เสียงร่ำลือคือจุดหมายคือปลายทาง
ทุกสิ่งอย่างคาดหวังตั้งต้นทุน
จากสูงสุดดิ่งลงส่งสัญญาณ
สู่รากฐานความจริงจึงวิ่งวุ่น
ภาพลวงตาเลือนหายกลายเป็นจุณ
เหมือนผงฝุ่นเลือนลบพบความจริง???
๒/๑๒/๕๒
1 ธันวาคม 2552 12:33 น.
บพิตร
จากไปนานหนักหนาที่ลาถิ่น
จากผืนดินเกิดก่อจากพ่อแม่
ญาติพี่น้องเคยอยู่เคยดูแล
ทั้งคนแก่คนเฒ่าทั้งเหย้าเรือน
ไปต่อสู้ดิ้นรนบนโลกกว้าง
บนเส้นทางชีวิตไม่คิดเถื่อน
คำพ่อสั่งแม่สอนย้อนย้ำเตือน
ไม่ลืมเลือนยึดมั่นทุกวันคืน
เริ่มก่อร่างสร้างตนทนฟันฝ่า
แม้บางคราอัตคัดทนขัดขืน
ถึงวันนี้พบทางสร้างจุดยืน
ความขมขื่นผ่อนคลายหายกังวล
กลับมาเยี่ยมถิ่นเก่าเคยเนาว์นาน
เวลาผ่านหมุนเวียนเปลี่ยนร้อนฝน
ยังเหมือนเดิมน่าอยู่ทั้งผู้คน
ไม่สับสนเปลี่ยนแปลงแข่งสังคม
ท้องทุ่งนาหน้าหนาวยังพราวพรั่ง
เหลืองสุกปลั่งเวิ้งกว้างช่างงามสม
แสงสูรย์ส่องน้ำค้างยังพร่างพรม
เย็นสายลมพลิ้วแผ่วแว่วเพลงรัก
ทุกเรื่องราวดั่งนิทานบ้านหลังเก่า
ยังยวนเย้าห้วงคำนึงถึงหน่วงหนัก
กลับมาบ้านแสนอบอุ่นกรุ่นกลิ่นรัก
ได้ซบตักแผ่นดินถิ่นฝังรก!!!
๑/๑๒/๕๒