2 ตุลาคม 2550 11:39 น.
บพิตร
@ เสียงธรรมะร่ำร้อง..............หาธรรม
ปลดปล่อยความระกำ................เพื่อนพ้อง
สองมือเปล่าชูนำ.......................แข็งแกร่ง
ปากเปล่งคำขอร้อง....................เพื่อผู้ทุกข์ทน
@ เสียงอธรรมขู่ย้อน...............สวนทาง
จงอย่าพร่ำครวญคราง...............เหล่าเจ้า
ทุกทิศทั่วนภางค์.......................กูใหญ่
ขอสั่งค่ำถึงเช้า.........................อยู่เหย้าเรือนตน
@ เสียงปืนดังกึกก้อง................คำราม
เลือดหลั่งทาเขตคาม..................รุ่มร้อน
โลกาก่นประณาม.......................หยามหมิ่น
ดังเช่นเข็นโลกย้อน..................อ่อนด้อยพัฒนา
@ เสียงธรรมเอยอ่อนล้า..........หมดแรง
ธรรมห่มเลือดสีแดง...................ชุ่มชื้น
ชีพดับสิ่งใดแฝง.........................คงอยู่
สูญร่างวิญญาณฟื้น.....................ต่อสู้ต่อไป.
14 กันยายน 2550 16:49 น.
บพิตร
@ เสียงปี่กลองเลือกตั้งดังกระหึ่ม
เหมือนฟ้าครึ้มเปิดทางสว่างใส
สรรพสัตว์ร่าร้องก้องพฤกษ์ไพร
ทั้งน้อยใหญ่เริงรื่นชื่นฉ่ำทรวง
@ หมู่เสือสิงห์โผล่หน้ามาส่งเสียง
ฟังสำเนียงลูกน้องเก่าเฝ้าเป็นห่วง
ฝูงลิงค่างกระโดดเต้นเป็นแถวพวง
คิดหนักหน่วงจะหาทางเข้าข้างใด
@ เต่าโผล่หัวจากกระดองมองซ้ายขวา
เคยหลบหน้ากลับย่างเท้าก้าวมาใหม่
ฝูงปลาเล็กปลาน้อยลอยล่องไป
หาวังใหม่เพื่ออยู่กินถิ่นสมบูรณ์
@ เจ้ากิ้งก่าจิ้งจกผงกหัว
เปลี่ยนสีตัวตามไม้ใหญ่ให้ไออุ่น
หมาจิ้งจอกหอนเห่าเฝ้าทวงคุณ
เคยเกื้อหนุนถึงเวลามาตอบแทน
@ บ้างรวมหัวเกาะกลุ่มซุ่มไว้ก่อน
เล่นละครแหกตาว่าเหนียวแน่น
รวมเป็นหนึ่งมั่นใจไม่คลอนแคลน
คิดวางแผนเพื่อต่อรองช่องทางตน
@ หลายก๊กกลุ่มผสมพันธุ์กันวายวุ่น
ล้วนหมกมุ่นเพื่ออำนาจขาดเหตุผล
ปากพร่ำเพ้อทำเพื่อชาติประชาชน
มีกี่คนที่จริงใจให้แผ่นดิน.
25 มิถุนายน 2550 13:35 น.
บพิตร
@ เป็นเพียงเรือใบไม้
ล่องลอยไกลกลางนที
ฝั่งไหนมิใยดี
ตามลมคลื่นที่ครืนเครง
@ เป็นเพียงเรือกระดาษ
ที่ซัดสาดอยู่คว้างเคว้ง
คลื่นลมที่บรรเลง
จะจมลงคงสักวัน
@ เป็นเพียงตัวหิ่งห้อย
แสงนิดน้อยคอยส่องฝัน
ติดก้นพอพ้นวัน
มิอาจกล้านำพาใคร
@ ดั่งรุ้งงามหลากสี
ชั่วนาทีมิยาวไกล
ละอองน้ำละลายไป
ก็ดับสิ้นไม่ยินยล.
22 มิถุนายน 2550 15:57 น.
บพิตร
@ แสนสงสาร คนไทย ให้สับสน
ทุกผองชน ครุ่นคิด จิตหวั่นไหว
เขาบอกว่า ประชา ธิปไตย
ของคนไทย เพื่อไทย ไม่เปลี่ยนแปลง
@ พรรคการเมือง อวดอ้าง จะสร้างชาติ
ประชาราษฎร์ เป็นสุข ทุกหนแห่ง
นักการเมือง เสนอหน้า มาแสดง
ถ้อยแถลง คุยโอ่ นโยบาย
@ ยินน้ำเสียง โจมตี เสียดสีด่า
คำกล่าวหา เล่นลิ้น สิ้นความหมาย
สัพยอก ตอกย้ำ ช้ำใจกาย
ทั้งหญิงชาย ประชัน ลั่นเวที
@ เลิกเสียเถิด ซื้อเสียง เลิกขายสิทธิ
เงินน้อยนิด ไร้ค่า กว่าศักดิ์ศรี
ทั้งคนซื้อ คนขาย อายสิ้นดี
เลิกเสียที อย่าให้ ใครดูแคลน
@ อยากจะเห็น การเมือง เรื่องสร้างสรรค์
ต่อสู้กัน แนวทาง สร้างแบบแผน
ให้ร่ำลือ แซ่ซ้อง ก้องดินแดน
เป็นผู้แทน แสนสง่า สภาไทย
@ งานบ้านเมือง ใช่เรื่อง มาล้อเล่น
ความยากเข็ญ คอยท่า มาแก้ไข
มัวแก่งแย่ง แข่งขัน คงบรรลัย
ถึงเป็นใหญ่ ก็สิ้นค่า ถ้าสิ้นไทย.
8 มิถุนายน 2550 14:20 น.
บพิตร
@ ขอน้อมกราบครูกลอน"สุนทรภู่"
ขอเชิดชูเอกกวีศรีสยาม
ทั่วโลกาแซ่ซ้องเกริกก้องนาม
ความงดงามแห่งภาษาน่าภูมิใจ
@ ท่านเรียงร้อยถ้อยคำลำนำหวาน
เป็นตำนานบรมครูผู้ยิ่งใหญ่
รื่นรมย์รสวรรณศิลป์อาบกลิ่นไอ
ความเป็นไทยเอกลักษณ์อักขรา
@ แฝงคำคมแง่คิดสะกิดเตือน
อย่าลืมเลือนหลงเล่ห์เสน่หา
การครองรักครองเรือนเหมือนนาวา
ที่ฟันฝ่ากระแสชลอย่าลนลาน
@ บทนิราศบอกเรื่องราวเล่าวิถี
แห่งชีวีการอยู่กินตั้งถิ่นฐาน
อีกจารีตประเพณีมีช้านาน
ท่านเล่าขานตามเส้นทางก้าวย่างไป
@ บทนิทานร้อยกรองส่องความคิด
งามวิจิตรถ้อยภาษาน่าหลงใหล
แทรกปรัชญาสอนสั่งฝังความนัย
หากนำไปคิดทบทวนล้วนมีคุณ
@ ยี่สิบหกมิถุนามาบรรจบ
ขอนอบนบครูกวีที่เกื้อหนุน
สุนทรภู่ ปราชญ์ภาษาผู้การุณย์
ความไพบูลย์แห่งกวีศักดิ์ศรีไทย.