20 กุมภาพันธ์ 2551 11:39 น.

บูชามาฆฤกษ์

บพิตร

เพ็ญเดือนสามแจ่มฟ้ามาฆฤกษ์
ประกาศเกริกเกียรติพิสุทธิ์พุทธศาสน์
อัศจรรย์ปรากฏกำปะนาท
จาตุรงคสันนิบาตสาดแสงธรรม

พันสองร้อยห้าสิบเอหิภิกขุ
ล้วนบรรลุอรหันต์อันสูงล้ำ
หานัดหมายหากพร้อมจิตคิดน้อมนำ
มาฟังธรรมกราบองค์พระสัมมา

โอวาทปาติโมกข์โลกประจักษ์
ด้วยเป็นหลักหัวใจพุทธศาสนา
ทำความดี ละเว้นความชั่วช้า
ต้องนำพาบริสุทธิ์ผุดในใจ

เพ็ญเต็มดวงสวยเด่นกลางเดือนสาม
ความงดงามวิถีพุทธสุดยิ่งใหญ่
ฟังเทศน์ธรรมนำทางสว่างหทัย
พร้อมดอกไม้ธูปเทียนเวียนบูชา

เป็นชาวพุทธสุดประเสริฐเลิศยิ่งแล้ว
สามดวงแก้วงามกว่าใดในโลกหล้า
องค์พระพุทธ พระธรรม พระสังฆา
นำวิญญาณ์ให้ผ่องใสไปนิรันดร์.				
15 กุมภาพันธ์ 2551 10:14 น.

บทเพลงแห่งแม่ปิง

บพิตร

จากดอยหลวง   ดอยถ้วย   รวยรินไหล
ผ่านพฤกษ์ไพร   คดเคี้ยว   เลี้ยวเลาะหลั่ง
จากธารน้อย   เป็นน้ำใหญ่   ไหลประดัง
สองฟากฝั่ง   ร่มรื่น   ชื่นฤดี

สายแม่ปิง   หล่อเลี้ยง   เวียงเชียงใหม่
สานสายใย   ถักทอ   ก่อวิถี
ความผูกพัน   แห่งสายน้ำ   นำชีวี
ดั่งน้องพี่   ร่วมมารดา   พาชื่นทรวง

เย็นสวยใส   ไหลหลาก   จากดอยสูง
เหมือนชักจูง   อุ่นไอรัก   จากแดนสรวง
มาเผื่อแผ่   โลมไล้   ใจทุกดวง
ดุจความห่วง   แห่งพ่อแม่   แผ่ร่มเงา

คือแม่ปิง   ยิ่งใหญ่   หาใดเหมือน
จะกี่ปี   กี่เดือน   กี่เรือนเหย้า
กี่ผู้คน   เบิกบาน   เนิ่นนานเนาว์
ทุกค่ำเช้า   ไหลเย็น   เป็นนิรันดร์


ที่ถาโถม   คือบทเรียน   เตือนลูกรัก
ที่หาญหัก   น้ำใจ   ให้โศกศัลย์
ตัดต้นไม้   ทำลายป่า   เข้าฝ่าฟัน
เหมือนลูกบั่น   ชีวิตแม่   ต้องแปรปรวน

จงห่วงใย   ดูแล   แม่ด้วยหนา
หยุดนำพา   ความร้อนใจ   ให้กำสรวล
จะรุกล้ำ   ปิดบังไว้   จงใคร่ครวญ
ทุกสิ่งล้วน   เกิดจากใคร   ไตร่ตรองดู

ขอสืบสาน   ผ่านศิลป์   ให้ยินยล
บันดาลดล   ด้วยเถิด   เปิดตาหู
โสตสัมผัส   ความหวัง   จงพรั่งพรู
สำนึกรู้   ทุกความหมาย   ไร้อาดูร

ฝากสีสัน   บทเพลง   บรรเลงขับ
จงวาววับ   ดั่งท้องน้ำ   ฉ่ำแสงสูรย์
ศิลป์ส่องทาง   สว่างใส   ความไพบูลย์
พราวจำรูญ   แสนงดงาม   สายน้ำปิง.				
13 กุมภาพันธ์ 2551 13:47 น.

ความฝัน...วันแห่งความรัก

บพิตร

เมื่อวันวานโลกนี้สีชมพู
ทั้งสองเราเคียงคู่อยู่ร่วมฝัน
มรสุมที่พัดผ่านทุกวารวัน
มิย่อท้อไหวหวั่นฉันและเธอ

เมื่อยามรักหนักเบาเราฟันฝ่า
ถึงอ่อนแรงเหนื่อยล้าไม่พลั้งเผลอ
แม้หลับใหลในหลับนั้นฝันละเมอ
ล้วนภาพฉันและเธอคู่เคียงกาย

ยามหนาวหน่วงเกาะกุมสุมไออุ่น
หอมละมุนติดตรึงใจไม่เหือดหาย
ยามร้อนรุ่มปลุกปลอบใจให้ผ่อนคลาย
คือความหวังคือความหมายสายสัมพันธ์

ความเปลี่ยนแปลงแห่งใครให้เหินห่าง
ความเห็นต่างแยกทางรักหักความฝัน
สีชมพูพลันหม่นไหม้คล้ายฝุ่นควัน
เธอกับฉันเหมือนแสนห่างกลางสาคร

ขอฝากฝันในวันแห่งความรัก
ฉันประจักษ์ความห่างไกลใจเหนื่อยอ่อน
อยู่ลำพังแสนหงอยเหงาเฝ้าอาวรณ์
อยากคืนย้อนสู่วันเก่าเราคู่กัน.				
22 มกราคม 2551 15:17 น.

ความหวังที่ลางเลือน

บพิตร

ฝากฝันวันเหน็บหนาว
ลืมเรื่องราวเคยขมขื่น
หวังให้ไทยหยัดยืน
สู้ลมแรงแห่งโลกา

ถอยหลังคราวครั้งก่อน
แสนเดือดร้อนทั้งดินฟ้า
ความหวังครั้งใหม่มา
ทิ้งฝันร้ายให้คลายคืน

หวังเห็นคนรุ่นใหม่
ทุ่มเทใจที่แข็งขืน
ฟาดฟัดขึ้นหยัดยืน
เป็นผู้กล้าพาชื่นใจ

ถึงวันแห่งความหวัง
ปลุกพลังอันยิ่งใหญ่
หนุ่มสาวที่ก้าวไป
ต้องล้มพับกับน้ำครำ

เหม็นหึ่งถึงทั่วร่าง
ไม่จืดจางแต่มืดดำ
เงินฟาดหัวคะมำ
ตามืดบอดมอดหมดไฟ

ความหวังที่วังเวง
เหมือนคว้างเคว้งกลางโลกใหญ่
จะร่ำร้องจากผู้ใด
กับความหวังที่ลางเลือน.				
21 มกราคม 2551 13:28 น.

นอมินี...ศักดิ์ศรี...ความเป็นคน

บพิตร

ยอมขายตัวขายใจขายศักดิ์ศรี
ประกาศเป็นนอมินีที่ซื่อสัตย์
เป็นร่างทรงให้สิงสู่รู้แจ้งชัด
ไม่ฝืนขัดผู้เป็นนายยอมตายแทน

ลมหายใจเข้าออกจะบอกให้
ขอเพียงได้ยืนอยู่คู่แว่นแคว้น
จะทำตามที่สั่งไว้ไม่คลอนแคลน
ที่โลดแล่นคือร่างกายไร้ตัวตน

มีสัตว์ใดในโลกเป็นเช่นนี้บ้าง
ฝูงลิงค่างหมูหมาพาสับสน
เดรัจฉานหันมามองหน้าคน
ไหนพร่ำบ่นว่าประเสริฐเลิศกว่าใคร

ยามโกรธเคืองด่าทอเป็นควายป่า
เป็นหมาบ้ากบเลือกนายน่าอายไหม?
ฝูงสัตว์ป่าบอกเพื่อนว่าอย่าน้อยใจ
ถึงอย่างไรรักศักดิ์ศรีดีกว่าคน

ขอพวกพ้องอย่าทำตัวเยี่ยงมนุษย์
มันแสนสุดน่าอับอายให้ฉงน
ยอมทอดร่างขายศักดิ์ศรีนี่ชอบกล
ยอมขายตนเป็นนอมินีราศีมัว

ถึงยากจนข้นแค้นแสนสาหัส
อัตคัดเพียงใดไม่เกลือกกลั้ว
ความเลวร้ายแห่งอำนาจน่าหวาดกลัว
ใครคิดชั่วคงวอดวายไม่ยั่งยืน.				
Lovers  0 คน เลิฟบพิตร
Lovings  บพิตร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟบพิตร
Lovings  บพิตร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟบพิตร
Lovings  บพิตร เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงบพิตร