24 สิงหาคม 2552 14:48 น.
บพิตร
ความจริงคือความจริงจงนิ่งไว้
อย่าหวั่นไหวสิ่งยวนเย้าพาเข้าลึก
อาจหลงทางวกวนผจญศึก
ดั่งม้าคึกมากพยศอาจหมดแรง
แม้ขุนเขายังผุกร่อนชะง่อนทรุด
สายน้ำผุดชะไปไม่กล้าแกร่ง
ลมฝนพัดซัดกระหน่ำทำเปลี่ยนแปลง
สายลมแล้งที่โบยโบกอาจโยกยับ
ต้นอ้อยหวานอ่อนโอนจึงพ้นหัก
ไม่ยึดหลักแข็งขืนยืนท่ารับ
ลู่ลมร้ายไหวปลิวพริ้วสลับ
โค้งคำนับมรสุมที่รุมเร้า
วัฏฏะสังขาราอัตตามนุษย์
ช่างเกินสุดหยั่งรู้สู่ใจเขา
อุเบกขา สมาธิ ที่แบ่งเบา
ความขลาดเขลาจะห่างไกลไร้กังวล.
บพิตร
๒๔/๙/๕๒
21 สิงหาคม 2552 09:20 น.
บพิตร
เสียงคำขอของแม่ยังแผ่ซ่าน
นานแสนนานเพียงใดไม่เลือนหาย
วันจากบ้านแม่ขอพ่อลูกชาย
มิดูดายท่องบ่นจนขึ้นใจ
เป็นคนดี คำนี้ที่แม่ขอ
ถึงย่อท้อเจ็บช้ำจงจำไว้
แม้เหนื่อยหนักอดทนดิ้นรนไป
อีกยาวไกลเส้นทางต้องย่างเดิน
งานทุกสิ่งมุ่งมั่นเข้าฟันฝ่า
ด้วยศรัทธาด้วยใจใช่ผิวเผิน
สุขแท้จริงคือใจใช่คือเงิน
อย่าหลงเพลินห้วงอบายในรายทาง
งานสิ่งใดอยากทำตามใจเถิด
หากก่อเกิดผลดีที่สรรค์สร้าง
เป็นลูกน้องหรือนายอย่าหน่ายวาง
คนรอบข้างผูกมิตรใกล้ชิดกัน
จงวางใจให้รักอย่าหักหาญ
ดูให้นานคิดให้มากหากไหวหวั่น
ในสังคมมีปัญหาสารพัน
อย่าปิดกั้นความคิดเห็นเน้นไตร่ตรอง
เป็นคนดี คำนี้ที่แม่ขอ
ยามฉันท้อถูกย่ำช้ำใจหมอง
เหมือนมีแม่คอยเฝ้าเข้าประคอง
เป็นแสงทองส่องสว่างกระจ่างใจ.
๒๐/๘/๕๒
19 สิงหาคม 2552 09:08 น.
บพิตร
ถูกใส่ร้ายป้ายสีมีมลทิน
เพิ่งยลยินสิ่งเลวร้ายในวันนี้
เฝ้าสร้างสรรค์ศรัทธามาหลายปี
ด้วยชีวีรักงานวรรณกรรม
ตามอารมณ์เรียงร้อยถ้อยอักษร
เป็นบทกลอนจากใจให้ชื่นฉ่ำ
ทุกขับขานกลั่นกรองท่องลำนำ
อาจล่วงล้ำรุนแรงแห่งอารมณ์
คนเห็นต่างช่างยุมุแตกแยก
มาสอดแทรกสวมรอยพลอยขื่นขม
เสียศักดิ์ศรีบ้านงามทำให้ตรม
เหยียบให้จมธรณีที่ต้องการ
มีอีแอบอาศัยในบ้านนี้
ทำบัดสีสมอ้างสร้างหลักฐาน
ใช้ถ้อยคำหยาบช้าช่างสามานย์
หวังประจานเข้าใจผิดมาบิดเบือน
ขอพี่น้องบ้านกลอนวิงวอนไหว้
ลูกผู้ชายชื่อ บพิตร ไม่คิดเถื่อน
มุ่งสร้างสรรค์วรรณกรรมเพื่อย้ำเตือน
เพียงขับเคลื่อนแนวคิดแห่งจิตตน
ขอสาบานหากมีอัปรีย์จิต
ชั่วชีวิตอยู่ไปอย่าได้พ้น
จงย่อยยับฉิบหายถึงวายชนม์
ให้ผจญทุกข์ภัยในโลกันต์
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดใดในโลกหล้า
แรงฤทธาทั่วพื้นดินถิ่นสวรรค์
ใครคิดชั่วมุ่งร้ายทำลายกัน
โปรดลงทัณฑ์อย่าละเว้นให้เป็นไป
หากดวงจิตบริสุทธิ์ผุดผ่องแผ้ว
ดั่งดวงแก้วแพรวพราวับวาวใส
ขออำนาจเจิดจรัสรัตนตรัย
จงอวยชัยให้สุขีทุกวี่วัน.
14 สิงหาคม 2552 09:44 น.
บพิตร
ประชาคมป่าวร้องสดุดี
ถูกกดขี่ข่มเหงไม่เกรงกริ่ง
ยังยืนหยัดต่อสู้สู่ความจริง
ไม่แอบอิงกล้าแกร่งแรงศรัทธา
เสรีภาพสูงสุดมนุษยชาติ
เอกราชแผ่นดินถวิลหา
เผด็จการครอบคลุมกุมชะตา
พิพากษาสิ้นสุดอยุติธรรม
เสียงอำนาจแผดก้องทำนองโศก
โลกทั้งโลกหวั่นไหวให้บอบช้ำ
บ้างกังขาว่าเป็นชะตากรรม
หรือระยำหมู่ชนคนปกครอง
มีอำนาจหลงอำนาจขาดสำนึก
ประกาศศึกผู้เห็นต่างช่างผยอง
เป็นผู้นำคือสูงสุดหยุดต่อรอง
เสียงเรียกร้องคือนกกาอย่าใส่ใจ
มนุษยธรรมคืออำพรางแค่สร้างฉาก
หยั่งลึกรากคือหลงตนคนเป็นใหญ่
เธอเฝ้ามองพบเห็นความเป็นไป
จึงเคลื่อนไหวต่อสู้สู่ปวงชน
อหิงสายืนหยัดอย่างอาจหาญ
นามองซาน ซูจี มิสับสน
คือความหวังความถูกต้องของผู้คน
แต่ไม่พ้นต้องเป็นเหยื่ออยุติธรรม.
13 สิงหาคม 2552 09:07 น.
บพิตร
ไร้อารมณ์ขมขื่นไม่ชื่นจิต
จะนึกคิดสิ่งใดให้ขัดเขิน
แม้เรียงร้อยบทกวีมิเพลิดเพลิน
เหมือนขาดเกินบางสิ่งให้กริ่งเกรง
มโนนึกขาดห้วงดังหน่วงหนัก
ลวดลายลักษณ์มิอ่อนไหวให้คร่ำเคร่ง
อรรถรสไร้ท้วงท่ามาบรรเลง
ดั่งบทเพลงไร้สัมผัสชวนขัดเคือง
จะขึ้นกาพย์เขียนโคลงลงบทกลอน
ไม่สะท้อนตามอารมณ์สมเนื้อเรื่อง
ไร้สาระพล่ามไปใช้คำเปลือง
มิต่อเนื่องเนื้อหาพาวกวน
ไร้อารมณ์ขุ่นข้องหมองดวงจิต
ภาพนิมิตวุ่นวายใจสับสน
ดังเมฆหมอกคลุมตาพามืดมน
จะคิดค้นสิ่งใดไม่สมจินต์.