กลั่นตนในความว่าง
อันเวิ้งว้างในเวหา หยาดหยดแห่งธารา
ก็หยาดฟ้ามาพราวดิน
ปลอบดินอันแล้งร้อน
ทุกกรวดก้อนและโขดหิน
ชุมชื่นคืนชีวิน
สายวารินฤดูกาล
หญ้าแห้งเพราะแล้งน้ำ
อุทกพรำก็ฉ่ำธาร
พลิกฟื้นคืนตำนาน
ผลิดอกบานระบัดใบ
จากหน่อเป็นกอหญ้า
เขียวระย้างามไสว
แต้มดินถวิลใจ
งามพงไพรสายธารพรำ
ดินฉ่ำเพราะน้ำชุ่ม
ที่ร้อนรุ่มก็ชุ่มฉ่ำ
ฝนโปรยก็โชยนำ
ทุกสัตว์ส่ำสำราญใจ
ชีวิตได้สืบต่อ
หยาดฝนก่อเป็นธารไหล
กลับกลายสลายไป
เป็นหมอกไอพราวนภา
กลั่นฟ้ามาเป็นฝน
ไร้ตัวตนในเวหา
หยาดหยดแห่งเมฆา
ก็หยาดฟ้ามาพราวดิน
หมุนเวียนและเปลี่ยนผัน
อยู่เช่นนั้นมิจบสิ้น
ชุ่มฉ่ำสายธารริน
แล้วกลับถิ่นคืนเมฆา....
ไม้งามกระรอกเจาะ
ไม้จึงเหมาะกระรอกงาม
กระรอกก็ไหวหวาม
มิครั่นคร้ามไม้งามใจ
ไม้แก่นไม้เนื้ออ่อน
จะซุกซ่อนแห่งหนใด
หากงามก็ทรามวัย
กระรอกไซร้ก็ซุกซน
เสาะหาทุกป่าเขา
ทุกค่ำเช้าเฝ้าสืบค้น
กำหนดด้วยอดทน
เฝ้าเวียนวนหาไม้งาม
ไม้อื่นดาษดื่นไพร
ดกดอกใบก็มองข้าม
ด้วยคิดแต่ติดตาม
เสาะไม้งามท่ามพงไพร
เจอะแล้วไม้ในฝัน
อยู่ตรงนั้นงามไสว
กิ่งก้านประสานใบ
ผลดกใหญ่งามตระการ
ผลสุกก็สุกล้น
และร่วงหล่นจากกิ่งก้าน
สัตว์ส่ำก็สำราญ
ภัตตาคารแห่งพงไพร
ลับเขี้ยวให้คมเหมาะ
หวังจะเจาะแม่ไม้ใหญ่
แต่แล้วก็แปลกใจ
กระรอกไต่อยู่มากมาย
ไม้งามแม่งามนัก
เรียกความรักอยู่หลากหลาย
เขี้ยวคมระดมกาย
เจาะนางกลาย เป็นพรุนโพรง....
คืนวันอันมืดมน
ให้ผ่านพ้นเมฆหมอกร้าย
คืนเกลียดโกรธทำลาย
ก่อเกิดสายสามัคคี
คืนไฟอันร้อนรุม
เป็นฝนชุ่มปฐพี คืนไทยคือไพรี
ปลุกไมตรีในหัวใจ
สันติจงผลิบาน
ทุกหย่อมย่านบานไสว
สงครามอันลามไทย
เป็นดอกไม้ในปวงชน
สาธุทั่วทุกภาค
ที่ทุกข์ยากจงผ่านพ้น
สู่สุขเกษมดล
ไทยทุกคนสวัสดี
ชาติไทยเอกราช
จงองอาจในศักดิ์ศรี
ไชโยชำนะมี
เหนืออรีริปูใด
ชาตินี้หรือชาติหน้า
แผ่นดินฟ้าจงสดใส
ชูธรรมอันอำไพ
ชำระใจให้ผองชน
อโหสยามรัฐ
พ้นวิบัติทุกแห่งหน
ดับไฟในใจคน
ให้หมดจนหมดเชื้อไฟ
คืนวันสันติสุข
ผ่านเข็ญยุคกลีไหม้
ดอกรักจักบานใจ
ประดับไว้ทั้งแผ่นดิน.!!