6 มกราคม 2551 17:36 น.
บนข.
ที่ว่ารักแล้วไฉนใยต้องทุกข์
ที่ว่าสุขจริงแท้แน่ใจหรือ
เห็นแต่เศร้าเสียใจร้องให้อือ
ไฟรักพือเผาใจให้ร้อนรน
เพราะริรักมักง่ายจึงพ่ายรัก
เมื่อตระหนักรักทิ้งยิ่งสับสน
รักคือไฟเผาผลาญประหารตน
อย่าซุกซนค้นหามาครอบครอง
หากใครสบพบรักแท้ไม่แปรภักดิ์
สุขยิ่งนักมักมอบตอบสนอง
รักกันมั่นฉันเสนอเธอหมายปอง
ยังอาจต้องหมองหม่นป่นอุรา
เพราะรักมากมุ่งมั่นหมั่นยึดถือ
ว่าเธอคือของฉันทั้งนั้นหนา
หากวันใดรักโหยร่วงโรยรา
คือสายฟ้าฟาดฟันบั่นดวงใจ
หากท่านใดใจริผลิดอกรัก
ขอเตือนทักกันก่อนอย่าอ่อนไหว
ดอกรักบานหวานหอมย้อมหทัย
แต่ผลไซร้ขมขื่นฝืนฤดี
ก่อนจะรักแรกเริ่มประเดิมรัก
ควรฉีดวัค-ซีนกัน กั้นทุกขี
กันรักคุดหยุดรักเศร้าเคล้าโศกี
รักโสภีชื่นชมภิรมย์นาน
แม้นรักพรากจากรักสมัครใคร่
แต่หัวใจเข้มแข็งเร่งขับขาน
รักถูกกฎลดถูกรักปักดวงมาน
ย่อมพ้นผ่านม่านรักเศร้าเผาใจเอย...
1 มกราคม 2551 11:48 น.
บนข.
ชนใดทรัพย์เสื่อมสิ้น อับจน
ความคิดมักวกวน คว่างคว้าง
แม้ริก่อกิจตน มักพลาด ผิดนา
เปรียบเช่นหยดชลค้าง เมื่อเข้าคิมหันต์ฯ
ชนใดมากมั่งล้น เงินทอง
ฝูงเพื่อนมักหมายมอง นบไหว้
เงินมีใฝ่จับจอง อำนาจ นั่นเนอ
ชนนั่นก็อาจคล้าย ละม้าย คนดี ฯ
เรือนใดหากว่างไร้ บุตรหลาน
อีกว่างหมู่บริวาร พี่น้อง
คือสิ่งท่านประจาร ว่าว่าง เปล่านา
คนว่างทรัพย์ขัดข้อง ขัดแท้จริงจริง ฯ
อันความตายอีกทั้ง ความจน
ความตายหมายทุกข์ทน ชีพม้วย
อันอาจก่อทุกข์ล้น เพียงชั่ว จิตนา
แต่ทุกข์จากจนฉ้วย ทุกข์ถ้วม ตลอดกาล ฯ
ใครใครใจโหดเหี้ยม แม้ตาย
ก็มิยอมจางคลาย ชั่วนั้น
อัคคีผิเปลวสลาย ดับมอด
คุกรุ่นระอุครั้น จับแล้ว ยังร้อน ฯ
เสื่อมเดชผันส่งให้ เสื่อมยศ
พลอยเสื่อมผู้คอยจด นบไหว้
เสื่อมเดชเสื่อมยศหมด พาลเสื่อม ปัญญา
คือเหตุพิบัติให้ เสื่อมสิ้นทั้งมวล ฯ
ยอมตายวายชีพเดี้ยง ม้วยมรณ์
ดีกว่าเสพคนฉ่อน ชั่วช้า
แฝงกายหลบเร้นจร ราวป่าพงไพร
ดีกว่าเนาเมืองฟ้า แต่ไร้ยุติธรรม ฯ