19 ธันวาคม 2550 18:35 น.
บนข.
*โคลงกระทู้*
เกิด ก่อสรรพสิ่งล้วน กรรมสั่ง
แก่ ย่อมหลักอนิจจัง แต่งให้
เจ็บ กายฝ่ายทุกขัง เธอสั่ง นาพ่อ
ตาย ลับดับชีพไซร้ แน่แท้อนัตตา ฯ
ตี วัวกระแทกทั้น คราดไถ
ปลา ย่างอย่าวางใจ แมวนั้น
หน้า น้ำรีบตักไว้ ก่อนพร่อง น้ำเนอ
ไซ สุ่มซุ่มซ่อนครั้น ดักต้องมัจฉา ฯ
ตัด ต่อเติมแต่งให้ งดงาม
ไฟ ราคไหม้ลุกลาม ยากยั้ง
ต้น ไม้ล่มล้มคราม อย่าเพ่อ ข้ามนา
ลม ปากพัดเป่าครั้ง ป่นให้ฉิบหาย ฯ
ทำ บุญทานก่อไว้ ภพหน้า
ดี ต่อดีชักพา เด่นแท้
ได้ สุขทุกทิวา ตราบด่าว ชีพแฮ
ดี ก่อเพิ่มพูนแล้ ส่งให้สุขเกษม ฯ
ทำ ตัวตกต่ำต้อย ติดตาม
ชั่ว ต่อชั่วลือนาม ชั่วช้า
ได้ ทุกข์ขุกเข็ญยาม กรรมยื่น ผลนา
ชั่ว ส่งผลชั่วคว้า ไป่พ้นอบาย ฯ
เส้น ทางพิสูจน์ม้า พาชี
ผม หงอกใช่บ่งชี้ แก่ง้ำ
บัง เนตรก่อธุลี ดีชั่ว ฤาเห็น
เขา ใหญ่สูงเยี่ยมล้ำ ไป่คร้ามแรงลม ฯ
15 ธันวาคม 2550 17:04 น.
บนข.
โคลงกระทู้
ฝนตก มิทั่วฟ้า ปรอยปรอย
ก็แช่ง ชักตะบอย บ่นให้
ฝนแล้ง ขาดเม็ดคอย ฝนมิ ตกนา
ก็ด่า ว่าอินทร์ไร้ สูญสิ้นเมตตา ฯ
ชี้นก บนยอดไม้ เรียมดู
เป็นปลา ดั่งโฉมตรู หล่อนชี้
ชี้ปลา ว่ายดำพรู เคียงคู่ กันนา
เป็นนก เห็นชัดนี้ ตามเจ้าชี้แจงฯ
น้ำ ใจแอบซ่อนเร้น เล่ห์กล
นิ่ง เงียบอำพรางตน ซ่อนไว้
ไหล ลื่นไล่มิจน กะล่อน
ลึก เกินสุดหยั่งไซร้ ลึกน้ำใจคน ฯ
ต่อหน้า ยืนยันแจ้ง ชัดคำ
มะพลับ แน่นอนจำ ผลได้
ลับหลัง บ่ายเบี่ยงงำ บ่แม่น อีกนา
ตะโก แน่นอนไซร้ เปลี่ยนได้ฉับพลันฯ
รำ เกะกะอยู่เพี้ยง ผู้เดียว
ไม่ดี กลับฉุนเฉียว ว่าฆ้อง
โทษปี่ ว่าเป่าเสียว แสลงแก่ โสตนา
โทษกลอง ว่ากลบก้อง เสียงร้อง เพลงครวญ ฯ
น้ำมา ไหลหลากถ้วม นองชล
ปลา ย่อมหลงเริงตน เล่นน้ำ
กิน ฮุบล่าเหยือจน หนีซ่าน ซัดนา
มด หนีปลาไล่ซ้ำ ฮุบเข้าท้องปลา ฯ
ล้ำลด หดเหือดแห้ง ขอดคลอง
มด ร่าเริงลำพอง แน่แท้
กิน ปูปลาอิ่มท้อง หามสู่ รังเอย
ปลา ตายนอนหงายแหล้ มดเฝ้ายินดี ฯ
********
ผัวแก่ผมหงอกเฝ้า เกศา
เมียสาวรักก็พา ลดน้อย
ยาขมขื่นชิวหา ใครเล่า จักกลืน
เมียสาวเจ้าจึ่งคล้อย สู่ชู้ชายชม ฯ
ชายแก่แม้อ่อนล้า เรี่ยวแรง
ยังส่อจริตสำแดง เช่าชู้
เปรียบโสณชาติแถลง ฟันบิ่น หักนา
เจอะท่อนกระดูกรู้ แทะทึ้งเล็มเลียฯ
ได้ลาภลาภเสื่อมแล้ว ธรรมดา
ได้ยศยศก็พา เสื่อมได้
เช้าสุขบ่ายทุกข์ถา- โถมถั่ง เอานา
ยกย่องแล้วถ่มไซร้ เหล่านี้โลกธรรม ฯ
14 ธันวาคม 2550 12:16 น.
บนข.
อายุเท่าไร่แล้วละปีนี้
วันคืนเดือนปีเคลื่อนลับดับหาย
วัยเด็ก วัยรุ่น วัยวุ่นใจกาย
วัยแก่ย่างกรายก็หมายมาเยือน
ผมเคยดกดำเต็มล้ำศรีษะ
พอแก่ก็ละผมขาวเป็นเพื่อน
ผิวเคยเต่งตึงตะลึงตะเลือน
พอแก่คล้อยเคลื่อนหย่อนยานตามวัย
ตาเคยคมวาวเหมือนดาวเดือนเด่น
พอแก่ก็เช่นไม่เห็นสดใส
ฟันเคยเต็มกรามงดงามปะไร
พอแก่หักไปเหลือเหงือกแดงแดง
หูเคยสดับรับทุกเส้นเสียง
ทุกศัพท์สำเนียงอยู่ใกล้หรือไกล
พอแก่หูตึงถึงมาจังไร
ไม่ว่าเสียงใดกลับไม่ได้ยิน
จะยืนจะเดินจะเหินจะนั่ง
ต้องคอยระวังอยู่จบครบสิ้น
เผลอหกตกล้มแข้งขาพังภินท์
บางครั้งชีวินถึงกับวางวาย...
อายุยังไม่เท่าไรใช่ไหมปีนี้
เวลาพอมีไม่ถึงกับสาย
เตรียมตัวเตรียมใจไว้ก่อนนะนาย
ก่อนที่จะสายไม่ทันเวลา
รีบทำความดีตอนนี้ประเสริฐ
ก่อนที่จะเกิดอ่อนเพลียเมื่อยล้า
หากปล่อยนานไปอีกไม่กี่ครา
แล้วจะร้องว่า อนิจจา เราช้าเกินไป...
11 ธันวาคม 2550 18:07 น.
บนข.
โคลงสี่กระทู้
-คน-
หน้า ฉาบอาบรอยยิ้ม อำพราง
เนื้อ เน่าพอกสำอาง ข่มไว้
ใจ คดลดเลี้ยววาง ร้อยเล่ห์ มายา
เสือ ซ่อนลายเสือไซร้ บอกร้ายดุจกัน
หน้า ยิ้มโอฏฐ์เอ่ยเอื้อน ทักทาย
ไหว้ ท่านพินอบกาย อ่อนน้อม
หลัง ลับเล่นอุบาย กัดท่าน
หลอก หลอนซุกซ่อนพร้อม เล่ห์ร้ายในใจ
ต่างคน ต่างชนชั้น กูมึง
ต่างจิต ต่างใจจึง วุ่นแท้
ต่างคิด ต่างจริตตรึง ตราแน่น อัตตา
ต่างทำ ต่างเกลสแม้ บวชแล้วยังมี
มะเดื่อ ผลิดอกแล้ว ติดผล
สีสุก ดุจชาดฝน แต่งแต้ม
หนอนซุก ซ่อนกายตน ขยายแพร่ พันธุ์นา
กินใน เน่านอกแฉล้ม หลอกให้ ชื่นชม
10 ธันวาคม 2550 16:57 น.
บนข.
สุจิปุลิ วินิมุตฺโต กถํ โส ปณฺฑิโต ภเว
สุจิปุลิ สุสมฺปนฺโน ปณฺฑิโตติ ปวุจฺจเต ฯ
สุ- โสตสดับรับถ้อย ฟังความ
จิ- จิตตริตรึกตาม หมั่นไว้
ปุ- ปุจฉาสอบถาม ยามวุ่น กังขา
ลิ- ขิตขีดเขียนไซร้ อ่านได้ภายหลัง ฯ
สุ- โสตสดับเสียง ศัพท์สำเนียงอันใกล้ไกล
รับฟังทุกอย่างไป อย่าเชื่อใจทุกสิ่งนั้น
โบราณท่านกล่าวทัก ให้หูหนักตระหนักพลัน
พกหินเอาไว้กัน พกนุ่นนั้นอาจหมองมัว
จิ- จิตความคิดไซร้ ปัญญาใช้อยู่กับตัว
สิ่งใดเข้าพันพัว จงใช้หัวแห่งปัญญา
คิดมันให้รอบคอบ ตามระบอบแห่งสิกขา
ฟังคิดติดตามมา ก่อปัญญาสว่างใจ
ปุ- ปุจฉามาเถิด เมื่อยามเกิดความสงสัย
สอบถามทุกอย่างไป เพื่อให้ได้ดวงปัญญา
ฟังคิดแล้วสอบถาม อย่ามองข้ามความกังขา
ผู้รู้หรือครูบา โปรดเมตตาช่วยชี้แจง
ลิ- ขิตขีดเขียนไซร้ บันทึกไว้ไม่หน่ายแหนง
ฟังคิดถามตามแสดง ประจักษ์แจ้งบันทึกพลัน
วันคืนแม้นผ่านไป อักษรไซร้ไม่แปรผัน
เปิดอ่านทุกวารวัน ทั้งเธอฉันฉลาดเอย..