2 พฤษภาคม 2551 19:12 น.

* ค่าสมมุติ *

บนข.

เพราะกรวดทรายมากมายกว่าเพชรพลอย
ค่าจึงด้อยกว่ากันกระนั้นหรือ
หากเพชรพลอยสวมก้อยงามระบือ	
กรวดทรายคือแหวนทองรองมณี

หากเพชรพลอยดาษดื่นกว่าผืนทราย	
โลกคงหมายหมางเมินเดินหลีกหนี
เพราะกรวดทรายมากมายจึงได้มี		
ค่ามณีสูงเด่นเช่นเพชรพลอย

อันคุณค่าใครหนอก่อสมมุติ		
ให้สูงสุดเลอค่าหรือว่าด้อย
เพชรพลอยงามน้ำหนึ่งจึงเลิศลอย		
กรวดทรายถอยต่ำค่าราคาทราย

ก็มนุษย์ทั้งนั้นหมั่นกำหนด		
วางเกณฑ์กฎติติงสิ่งทั้งหลาย
หรือยกให้เลิศหรูดูมากมาย		
ด้วยมุ่งหมายอ้างเลศกิเลสตน

เพราะเพชรพลอยน้อยหรือจึงลือค่า	
ใครต่างหาครอบครองปองสับสน
ทั้งยาจกเศรษฐีมั่งมีจน	
ทุกชั้นชนยอมรับประดับกาย

ส่วนกรวดทรายมากมายจึงวายค่า		
แค่บาทาเหยียบย่ำตกต่ำหมาย
ของดาษดื่นวางเคียงอยู่เรียงราย		
ไร้ที่หมายรองรับประดับคน

อันกรวดทรายเพชรพลอยน้อยหรือมาก	
ย่อมต่างหากจากสมมุติว่าหลุดพ้น
ไร้ชีวิตจิตใจจะใฝ่ยล			
ทรงค่าตนตามชนิดที่ติดมา

กรวดทรายงามอย่างกรวดทรายหมายกำหนด  
ไร้เกณฑ์กฎของใครมาใส่ค่า
ส่วนเพชรพลอยลอยล้ำนำราคา		
งามเจิดจ้ายอดเยี่ยมเยี่ยงเพชรพลอย

ธรรมชาติจัดสรรสรรพสิ่ง		
ให้งามยิ่งเลิศล้ำไม่ต่ำต้อย
แต่มนุษย์หยิบสมมุติมาสวมรอย		
เสริมค่าด้อยเด่นงาม...ตามใจตน...				
24 เมษายน 2551 16:29 น.

- บังหน้า -

บนข.

หน้าหนึ่งหนอพอพบประสบภักตร์	
เข้าทายทักยิ้มแย้มดูแจ่มใส
ทั้งพูดจาพาทีมีน้ำใจ			
อบอุ่นในไม่ตรีมีเมตตา

มีหัวเสียงหางเสียงนำเนียงครบ		
ความเคารพนบน้อมพร้อมคะขา
คนหน้ายิ้มพริ้มเพราเอาวาจา		
เป็นมาลาคล้องจิตผูกมิตรคน

หน้าหนึ่งหนอพอพบประสบภักตร์	
เข้าทายทักทอดคำพร่ำเหตุผล
ชักแม่น้ำทั้งห้ามาแยบยล			
แต่แฝงกลหลอกหลอนซ่อนมายา

แม้นไม่รู้หนแห่งแหล่งใกล้ชิด		
ทำสนิทออดอ้อนให้ย้อนหา
สัตว์หน้าขนคนมีปากฝากวาจา		
ดุจหอกมาทิ่มตำให้ช้ำตรม

หน้าหนึ่งหนอพอพบประสบภักตร์	
เข้าทายทักสรรเสริญให้เพลินสม
คำต่อหน้าพาทีมีชื่นชม			
ลับหลังข่มเข่นคำพร่ำนินทา

คนสองหน้าลับลมคารมแปลก		
ลิ้นสองแฉกฉกตวัดงัดซ้ายขวา
ไม่ระวังอาจหลงกลมนต์วาจา		
ทุกทุกคราโปรดคิดพินิจไป

หน้าหนึ่งหนอพอพบประสบภักตร์	
เข้าทายทักยิ้มแย้มดูแจ่มใส
แต่ซ่อนลายเสือร้ายไว้ภายใน		
คือจิตใจหมายปองจ้องทำลาย

คนหน้าเนื้อใจเสือเหลือจะคบ		
แต่จะหลบหลีกนั้นอย่ามั่นหมาย
พึงระวังระไวทั้งใจกาย			
อย่ากล้ำกรายใกล้ชิดสนิทเกิน

จะคบคนคบใครให้ดูหน้า			
โบราณว่าไว้ชัดไม่ขัดเขิน
หน้านอกบอกหน้าในใครเจริญ		
หรือบังเอิญแอบแฝงแหล่งมายา

หากหลงติดเพียงหน้าว่าสวยสม		
แล้วชื่นชมชอบใจไม่กังขา
อาจถูกหลอกชอกช้ำระกำนา		
เพราะหลงหน้าหลงคำเงื่อนงำ....ลวง...				
20 เมษายน 2551 18:18 น.

ยาดีสี่ขนานประสานรัก

บนข.

ศีลข้อสามนามหนึ่งพึงกำหนด		
สิกขาบทจดจารผ่านคำสอน
กาเมสุ มิจฉาฯ ว่าสังวร			
อย่าตะลอนหลายรักตระหนักพลัน

โปรดสำรวมระวังยั้งใจคิด		
สุจริตในกามงามเฉิดฉัน
ให้รักเดียวใจเดียวกลมเกลียวกัน	
ไม่ผกผันสมสู่หลายคู่นอน

หญิงมั่นรักในชายมอบกายจิต		
ไม่หลงผิดเหินห่างพรางหลอกหลอน
ชายจริงใจในหญิงไม่ทิ้งจร		
ห่วงอาทรดูแลไม่แพ้กัน

เมื่อยามรักกันใหม่ใจระรื่น		
ต่างหยิบยื่นความหวานสมานฉันท์
ข้าวใหม่รสโอชาชิ้นปลามัน		
ทุกวารวันชื่นสุขไม่ทุกข์ตรม

แต่พอรสรักจางทุกอย่างเปลี่ยน	
รักเป็นเสี้ยนเสียบใจให้ขื่นขม
ชายหญิงปองรักใหม่ใฝ่ชื่นชม		
รสนิยมกาเมก็เห่มา

หญิงคบชู้สู่ชายพลีกายร่าง		
ชายก็บ้างคบหญิงยิ่งอิจฉา
ปล่อยครอบครัวแตกแยกแหลกคาตา	
บุตรธิดารับกรรมช้ำเพราะใคร

พุทธองค์ทรงตรัสดำรัสย้ำ		
ซึ่งหลักธรรมนำแผ่ไว้แก้ไข
ฆราวาสธรรมอันอำไพ		
เป็นหลักใจประกันความมั่นคง

หนึ่ง สัจจะ จริงใจไม่เป็นสอง		
ไม่สำรองรักใหม่ใฝ่ประสงค์
ทั้งต่อหน้าลังหลังยังซื่อตรง		
จิตจำนงรักจริงไม่ทิ้งกัน

สอง ทมะ ปรับตนฝึกฝนจิต		
ให้ใกล้ชิดโอนอ่อนมีผ่อนผัน
ไม่อวดดื้อถือดีตะบี้ตะบัน		
ไม่หุนหันโมโหกริ้วโกรธา

สาม ขันติ อดทนคนใกล้ชิด		
อาจพลั้งผิดยั่วยวนกวนโทสา
ไม่เป็นเชื้อสุมไฟไหม้อุรา		
เป็นธาราระงับดับร้อนรน

สี่ จาคะ สละทิ้งสิ่งชั่วร้าย		
ล้วนมากมายกายวจีมีสับสน
คิดพูดทำอันใดเหมือนไฟลน		
สละพ้นทิ้งไปไม่ระแวง

คือยาดีสี่ประการประสานรัก		
อันจูงชักรักไว้ไม่หน่ายแหนง
ชีวิตคู่ครองตนพ้นเคลือบแคลง	
หยุดใจแบ่งกาเม...ทะเลวน...				
10 เมษายน 2551 15:05 น.

เสน่ห์/เสนียด

บนข.

ปากเสน่ห์เจรจาสัมมาชอบ		
ตามระบอบวิญญูผู้รู้ขาน
ชอบด้วยเหตุและผลบุคคลกาล	
คำประสานสื่อรักสามัคคี

ไม่ส่อเสียดเบียดร้ายทำลายล้าง	
ไม่กระด้างประณามหยามศักดิ์ศรี
ไม่นินทาด่าประจานผ่านวจี		
คือปราชญ์ชี้ว่าเสน่ห์เจรจา

ปากเสนียดเบียดเบียนติเตียนทั่ว		
ด้วยคำชั่วคนพาลประหารค่า
เป็นถ้อยถ่อยพล่อยพร่ำรำพันมา	
คำนินทาสรรเสริญแล้วเยินยอ

อันลมปากผ่านลิ้นแล้วปลิ้นปลอก
มันคอยตอกทิ่มซ้ำคำคนหนอ
ไม่ประสานแล้วยังแหวกให้แตกคอ	
โปรดรู้หนอว่าเสนียดน่าเกลียดจริง

ตาเสน่ห์ไม่มองเพื่อจ้องหยาบ		
สายตาทราบสื่อสารผ่านชายหญิง
มองด้วยรักจากใจไม่ประวิง		
ไม่กลอกกลิ้งเคลือบแคลงแฝงมารยา

ตามองตาผ่านตาประสารัก		
กามเทพผลักแผลงศรให้ย้อนหา
เสน่ห์รักผ่านใจนัยนา		
อย่าหมายมาปกปิดมิดชิดเลย

ตาเสนียดเฉียดมองจ้องหาเรื่อง	
ให้สิ้นเปลืองอารมณ์เกินข่มเฉย
ก่อทะเลาะเบาะแว้งทุกแห่งเอย	
เพราะฝึกเคยสายตาหาเรื่องคน

ตามองตาผ่านตาอิจฉาร้าย		
แล้วทำลายห้ำหั่นกันสับสน
เพราะเสนียดเบียดใจให้มืดมน		
จ่งส่งผลอิจฉาสายตามอง

....อันเสน่ห์แต่งกายวจีถ้วน		
ให้งามล้วนเพริศพริ้งทิ้งจองหอง
ส่วนเสนียดเบียดกายวจีจอง		
ให้หม่นหมองหมักหมม...ระบมใจ...				
3 เมษายน 2551 19:16 น.

- หนอน -

บนข.

เห็นหมู่หนอนชอนไชในอาจม		
มันชื่นชมชอบใจเป็นหนักหนา
ทั้งกลิ่นสีมีไหมให้โสภา		
แต่หนอนมาซุกกายหมายรื่นรมย์
	
มันดำผุดมุดว่ายพรายสลอน		
เป็นเรือนนอนเรือนกินถิ่นเสพสม
เกิดแก่เจ็บตายเพลินเนิ่นนานนม	
จนทับถมภพหนอนเฝ้าชอนไช
	
อันหมู่หนอนจะสำนึกระลึกหรือ
จึงยึดถือชื่นชมอาจมไว้
ประดุจทิพย์สถานวิมานใด		
กำหนดให้หมักหมมจมกายา
	
กลิ่นอาจมอันโชยเป็นอาจิณ		
ประดุจกลิ่นหอมหวนมวลบุบผา
รสอาจมหนอนชิมลิ้มโอชา		
ผ่านกายาเปรอปรนจนอ้วนกลม
	
มองหมู่หนอนย้อนใจไปได้คิด		
หนอนชีวิตมนุษย์สุดหมักหมม
ทุกข์หรือสุขอันใดให้ชื่นชม		
โลกอาจมถมทับกี่กัปกัลป์
	
หลงเวียนว่ายตายเกิดประเสริฐหรือ	
กระเหี้ยนหือฟอนเฟ้นเบญจขันธ์
เพื่อสืบสายดำรงคงเผ่าพันธุ์		
แล้วสุขสันต์สืบสมอาจมกอง
	
กินกามเกียรติกอบโกยกันครึกครื้น	
พลันระรื่นรมย์ใจไปทั้งผอง
กอดอาจมดมอาเจียนเพียรลำพอง	
จนทุกข์ถองโถมทับระยับยำ
	
เห็นหมู่หนอนชอนไชในอาจม		
มันชื่นชมชอบใจไปถลำ
หนอนมนุษย์สับสนว่ายวนคลำ	
ในโลกคล้ำโคลนตม...อาจมตน....				
Lovers  0 คน เลิฟบนข.
Lovings  บนข. เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟบนข.
Lovings  บนข. เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟบนข.
Lovings  บนข. เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงบนข.