18 กรกฎาคม 2551 16:40 น.
บนข.
ทุกชีวิตที่เห็นก็เป็นทุกข์
มันเร้ารุกโถมถาเป็นห่าฝน
เป็นของแถมชีวิตผูกติดตน
แด่ฝูงชนผู้เกิดกำเนิดมา
อยู่กลางฝนหล่นพรำย่อมฉ่ำฝน
จะหลบพ้นไฉนหรือไรหนา
เกิดเป็นคนทุกข์หมายตะกายมา
ประทับตราหมายปองเข้าจองจำ
อันการเกิดที่แท้นั่นแลทุกข์
มันแฝงซุกชราเข้ามาซ้ำ
เจ็บก็พลอยกำกับระยับยำ
ให้ชอกช้ำใจกายแล้วตายไป
ทุกชีวิตที่เห็นก็เป็นทุกข์
มันเร้ารุกโถมถั่งเห็นบ้างไหม
นอกจากทุกข์ก็ไม่เห็นเช่นสิ่งใด
จะดับไปหรือเกิดกำเนิดมา
เมื่อประสงค์สิ่งใดทั้งไกลใกล้
แล้วมิได้สมมาตรปรารถนา
หรือได้แล้วพลัดพรากจำจากลา
เศร้าโศกาอาวรณ์สะท้อนทรวง
ทุกข์เพราะจนทุกข์ยากลำบากหมอง
อยากครอบครองสินทรัพย์นับใหญ่หลวง
อันความจนของจริงใช่สิ่งลวง
มันคอยควงกำกับประทับตรา
ทุกข์คนรวยอำพรางอย่างเศรษฐี
ไม่พอดีเท่าไหร่ยิ่งไขว่คว้า
กลายเป็นเปรตหิวโหยโกยโภคา
ทุกข์ยิ่งกว่าคนจนคนติดดิน
ทุกข์ของคนหนุ่มสาวเมื่อคราวรัก
เจออกหักรักร้าวแทบด่าวดิ้น
ทุกข์เพราะรักไม่สมอารมณ์จินต์
รักโบยบินทิ้งทุกข์ไว้คลุกทรวง
ทุกข์สมภารเจ้าวัดอึดอัดแท้
ทุกข์พ่อแม่เลี้ยงลูกปลูกรักหวง
ทุกข์สังคมทุกข์ประเทศใช่เหตุลวง
ทุกข์ทั้งปวงครอบงำกระทำไป
....ทุกชีวิตที่เห็นย่อมเป็นทุกข์
มันเร้ารุกชวนรบมิจบได้
มากบ้างน้อยบ้างไม่ร้างไกล
ตราบสิ้นใจวอดวายมลายลง.....
27 มิถุนายน 2551 18:54 น.
บนข.
แหงนมองฟ้าหมาเศร้านั่งเกาขน
หนังยับย่นแยกเขี้ยวคอยเหลียวหลัง
ตาจดจ้องผองภัยไวระวัง
หูหางตั้งชูชันประหวั่นตน
ไร้ที่อยู่พำนักเป็นหลักแหล่ง
ทุกหนแห่งจรจัดวัด...ถนน
เป็นแค่หมาเท่านั้นในชั้นชน
ไร้สิทธิ์ตนเทียบศักดิ์สุนัขดี
ย่อมไร้สิทธิ์ติดปลอกบอกชั้นยศ
เครื่องปรากฏแห่งนายหมายศักดิ์ศรี
หมาต่ำต้อยด้อยค่าใครปราณี
เห็บหมัดมีเพื่อนกายสหายตัว
ถูกประณามตรีตราหมาจรจัด
นิยามสัตว์ตัวร้ายเขาหมายหัว
ใครพบเห็นหวั่นหวาดต้องขลาดกลัว
ใจระรัวคอยหลบไม่พบพาน
จึงระเหเร่ร่อนสัญจรถิ่น
แหล่งหากินใส่ท้องมองอาหาร
เจอหมาหมู่จู่โจมเข้าโรมราญ
ลากสังขารต่อสู้ศัตรูตน
หวังไว้ลายชาติหมาผู้กล้าแกร่ง
หัวหูแหว่งเลือดสาดมิอาจสน
ยุทธจักรสี่ขากล้าประจญ
ผ่านถนนลำพองผยองใจ
จึงบางคนมองเห็นก็เช่นหมา
หลังชนฝางับสู้อยู่ไหวไหว
ดาวระยิบพริบฟ้านภาไกล
ก็หมายใจเอื้อมสอยให้ลอยมา
ไม่ยอมแพ้แม้จนหนทางสู้
แยกเขี้ยวขู่อมิตรหวังคิดฆ่า
เพื่อไว้ลายชาติคนบนมรรคา
แหงนมองฟ้าก่อนถม...จมผืนดิน...
15 มิถุนายน 2551 07:39 น.
บนข.
แนวพฤกษ์ไพรเขียวขจีนี้ใครสร้าง
ทุ่งหญ้ากว้างระบัดใบใครเจ้าของ
ภูผาสูงเสียดฟ้าแหงนหน้ามอง
ธารลำคลองไหลหลั่งใครสั่งมา
ใครหนอสร้างภูเขาเอาก้อนหิน
ให้แกร่งสิ้นอดทนทุกฝนฟ้า
สร้างน้ำใสไหลผ่านธารธารา
เซาะศิลาผาแกร่งเว้าแหว่งพลัน
ใครหนอสร้างแสงแดดไว้แผดเผา
ให้ร้อนเร่าตระหลบภิภพนั้น
สร้างสายลมโลมเล่นเป็นรางวัล
ไว้ปลอบฝันบรรเทาเร่าร้อนรน
ใครหนอสร้างจำลองเป็นท้องฟ้า
สร้างเมฆากำหนดเป็นหยดฝน
ให้ไหลหลั่งสั่งฟ้าเวหาบน
ตกพรำบนโลกาเป็นวารี
ใครหนอสร้างดวงดาวให้พราวพริบ
ระยับยิบเจิดจ้ารัศมี
สร้างจันทร์เพ็ญเด่นงามยามราตรี
สร้างเมฆีกำหนดไว้บดบัง
ใครหนอสร้างความงามนามบุปผา
ประดับป่าแต่งเติมเพิ่มมนต์ขลัง
แล้วสร้างกฎลิขิตอนิจจัง
ให้ผุพังแห้งโหยแล้วโรยรา
ใครหนอสร้างมวลหมู่แห่งภู่ผึ้ง
ให้รำพึงรัญจวนคร่ำครวญหวนหา
ถึงกลิ่นสีเกสรบ่อนมาลา
เกลือกกายาชื่นชมผสมพันธ์
ใครหนอสร้างทะเลไว้เห่คลื่น
ให้ครืนครืนซัดสาดผวาดหวั่น
สร้างหาดทรายรายเรียงไว้เคียงกัน
ไว้รับขวัญคลื่นเลที่เห่มา
ใครหนอสร้างเผ่าพันธุ์ชั้นมนุษย์
ให้ยื้อยุดหยัดยืนฝืนบาปหนา
สร้างเกิดแก่เจ็บตายไว้บีฑา
สร้างเวลาหมุนเวียนแล้วเปลี่ยนไป
คือธรรมชาติผสมธาตุสรรพสิ่ง
เพื่อหยุดนิ่งไหลเลื่อนหรือเคลื่อนไหว
ไร้เจ้าของปองหาไขว่คว้าใด
แค่ดินไฟ น้ำลม ผสมกัน...
10 มิถุนายน 2551 16:43 น.
บนข.
เมื่อตีนเปลี่ยนหนทางระหว่างวัย
หลบอาศัยบนหน้าพาขบขัน
ประทับรอยร้อยเรียงอยู่เคียงกัน
แต้มสีสันเสริมวัยให้ทุกคน
มันพาดผ่านก้านคอมารอพบ
ณ จุดจบหางตาพาสับสน
สุดจะกลบหลบเลี่ยงทำเกี่ยงกล
สัปดนรอยตีนก็ปีนมา
ผ่านกระจกยกส่องมองชัดชัด
ตีนมันกัดฝากรอยเกือบร้อยหลา
เริ่มหน้าผากฝากตรึงถึงหางตา
คือตีนกามาเยือนเป็นเพื่อนวัย
เคยเต่งตึงตรึงใจให้ยโส
ได้อวดโชว์โสภาสง่าใส
หยิ่งผยองครองงามไปตามใจ
ปราศฝ้าไฝริ้วรอยมาคอยเยือน
ครั้นเวลากินกายไปบ่ายคล้อย
ตีนก็คอยลงนามความเป็นเพื่อน
ไม่สอบถามความใดให้แชเชือน
ยากบิดเบือนเกี่ยงหลบต้องพบพาน
เป็นศิลาจารึกบนใบหน้า
โดยเวลากินใครก็ไหลผ่าน
ฝากรอยปีนตีนกามาประจาน
เรื่องสังขารผันผวนควรทำใจ
อันความจริงตีนกาที่ว่านั้น
ใครจัดสรรให้เป็นท่านเห็นไหม
มันเกิดเองเป็นเองไม่เกรงใคร
จะหาใดปิดบังสังขารคน
เมื่อตีนกาฝากรอยไม่ถอยจาก
เจิมหน้าผากหางตาพายับย่น
จับตีนกูดูตีนกามองหน้าตน
หลบไม่พ้นตีนกู....สู่ตีนกา...
1 มิถุนายน 2551 16:20 น.
บนข.
แสนสงสารประเทศอาเพทนัก
ไทยจะหักหาญสู้ริปูผอง
อกแผ่นดินชอกช้ำระกำครอง
ฟ้าจะหมองหม่นไหม้ใครคนทำ
ศาลหลักเมืองเรืองรองจะหมองฤทธิ์
วิปริตนาครจะย้อนซ้ำ
หยาดน้ำตาบรรพชนจะหล่นพรำ
ไทยจะนำอาเพทเพราะเหตุไทย
หรือไทยต้องคำสาปเป็นบาปทุกข์
ให้ร้อนรุกย่ำแย่แต่ปางไหน
ศึกภายนอกไทยสู้ริปูใด
ศึกภายในวุ่นวายก็กรายมา
อีกกี่ศึกกี่ศพจึงจบสิ้น
กี่พังภินท์ชีพลับดับสังขาร์
กี่กำหนดหยดเดือดเลือดน้ำตา
กี่ผู้กล้าหญิงชายหมายชิงชัง
กี่อนุสาวรีย์ที่ก่อสร้าง
บนเรือนร่างวีรชนแต่หนหลัง
กี่จารึกเจ็บช้ำซ้ำประดัง
จึงหยุดยั้งหย่าศึกสำนึกไทย
หรือถึงคราวสิ้นแล้วแววสยาม
เคยเรืองนามเมืองยิ้มเอิบอิ่มให้
เป็นสยามเมืองเหยียดขึ้งเคียดใจ
เพราะศึกไทยรบไทยใฝ่ชื่นชม
ลุกขึ้นเถิดผองไทยไหนอาวุธ
สัประยุทธ์ย่อยยับนับศพถม
เมื่อไม่รักสามัคคีที่นิยม
ก็จงงมประหารเข้าราญรอน
ไทยเรียนรู้ประจักษ์รักสงบ
ก็แค่จบบรรเลงเพลงชาติสอน
สิ้นเสียงร้องเพลงชาติก็ขาดตอน
ไทยก็ถอนสงบเข้ารบรัน
แสนสงสารประเทศอาเพทนัก
ไทยจะหักหาญสู้ริปูนั้น
ก็แค่ไทยรบไทยใช่ใครกัน
รอสิ้นวันหฤโหด...สิ้นโคตรไทย....