16 ตุลาคม 2547 06:13 น.
น้ำหมึกขาว
วันนี้วันจันทร์ วันสอบวันสุดท้าย หลังจากที่นักศึกษาทุกคนต่างหยุดพักผ่อนและอ่านหนังสือกันในวันเสาร์อาทิตย์ก็เตรียมตัวที่จะมาสอบกันต่อ ก็เหมือนกับ แบีงค์ที่วันนี้เตรียมหนังสือ ปากกา และขับรถเพื่อไปมหาลัย แบ๊งค์สอบเสร็จก็มารอรับแพท กับอ้มเพื่อไปดูหนังกัน กะฉลองกันในวันที่สอบเสร็จ แต่แพทโทรมาบอกว่าไม่ว่างจริงๆ ต้องช่วยอาจารย์ทำงาน ส่วนอ้อม แบ๊งค์ก็ตามหาไม่เจอ แบ๊งค์เลยกะจะซื้อของก่อนแล้วค่อยกลับบ้าน ระหว่างทางที่แบ๊งค์ขับไปซื้อของนั้นได้เกิดอุบัติเหตุ ทำให้แบ๊งค์ได้รับบาดเจ็บ คือกระดูกช่วงเข่าหลุด เลยต้องทำการเข้าเฝือก พักฟื้นอยู่หลายวัน...
เป็นอย่างนี้แหละน้าาา...บอกให้ขึ้นรถเมล์มาเรียนก็ไม่เชื่อแพท แพทพูดขึ้นในขณะที่นั่งเฝ้าแบ๊งค์นอนเจ็บอยู่บนเตียงโรงพยาบาล
พูดมากน่าาาา...เออ แล้วนี่เพื่อนเราไปไหนล่ะ ไม่เห็นมาเยี่ยมพี่เลย แบ๊งค์พูดขึ้น
นั่นแน่...ชอบอ้อมหรอพี่แบ๊งค์ แพทหึงแล้วนะ แพทตอบ
ป..เปล่า พี่แค่ถามดู ก็เห็นเราสนิทกันไม่ใช่เหรอ
อืมม..เห็นอ้อมมันพูดบอกว่าพ่อมันจะมา ก็เลยต้องไปรับที่สนามบินอะไรนี่แหละ
หรอ...แล้วพ่อเค้าไปไหนมาล่ะ ต้องให้อ้อมไปรับน่ะ แบ๊งค์ถามต่อ
นี่! พี่แบ๊งค์ถามถึงคนอื่นอยู่ได้ แพทหึงจริงๆแล้วนะคะ แพทพูดพร้อมกับหันหน้าไปทางอื่น จนแบ๊งค์ต้องรีบปลอบ
โธ่...ก็พี่แค่อยากรู้ ก็อ้อมเพื่อนของเราพี่เหมือนคนรู้จักน่ะ ก็แค่ถามดูไม่มีอะไรมาก พี่น่ะรักแพทคนเดียว อ้อมน่ะเป็นใครไม่รู้ พี่ไม่สนใจหรอกครับ... แบีงค์ตอบพร้อมกับโอบไหล่แพท
ก็แล้วไป...อย่าให้รู้นะ ฮืมม!! แพทพูดพร้อมกับจับหูของแบ๊งค์ทั้งสองข้างบิดไปมาเบาๆ โดยที่คนทั้ง2ไม่รู้เลยว่าอ้อมยืนอยู่นอกประตูที่เปิดแง้ม ทำท่าจะเข้าตั้งแต่ต้น . แต่เมื่อเห็นคน2คนท่าทางมีความสุขอย่างนั้นเลยทำได้แต่ยืนมองและวางช่อดอกไม้ไว้นอกประตูพร้อมกับการ์ดใบเล็กๆ แล้วเดินจากไป...
เอ่อ คุณธนกิจ ค่ะ มีของเยี่ยมคุณอยู่หน้าประตูห้องค่ะ นางพยาบาลเดินเข้ามาพร้อมกับช่อทิวลิปช่อใหญ่ พร้อมกับการ์ดใบเล็กๆ หลังจากที่อ้อมวางไว้ได้ไม่นาน
ของใคร! ไหนเอามาดูสิ แพทรีบพูดแซง พร้อมกับคว้าการ์ดใบนั้นมาดูทันที
โธ่...นึกว่าของใคร ของยัยอ้อมน่ะพี่ อย่าไปสนใจเลย แพทพูดจบก็หยิบการ์ดใบนั้นมาสอดไว้ในหนังสือ แล้วคว้าดอกไม้ช่อโตนั่นมามอง
สวยดีโน๊อะ...ท่าทางจะแพง แพทพูด พร้อมกับขยี้ดอกไม้ แล้วโยนลงพื้นเหยียบต่อ นางพยาบาลตกใจถึงกับพูดอะไรไม่ออกทันที
เฮ้ยย... พ แพท ทำอะไรเนี่ย อ้อมเค้าเอามาให้พี่นะ แบีงค์เสียงดัง
ทำไมล่ะ พี่แบีงค์จะรับของจากมันงั้นเหรอ แสดงว่าพี่แบ๊งค์ไม่รักแพทแล้วงั้นเหรอ แพทพูดน้ำตาคลอ
ป..เปล่า ครับเปล่า พี่รักน้องแพทคนเดียวครับ พี่รักน้องแพทคนเดียว
จ...จริงๆนะ แล้วพี่แบ๊งค์ก็ห้ามพูดชื่ออ้อมให้แพทได้ยินอีกนะคะ สัญญานะ แพทตอบพร้อมกับถลาเข้าไปกอดแบ๊งค์
ค..ครับ พี่สัญญา
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นไม่กี่วันแบ๊งค์ก็ออกจากโรงพยาบาลและหายเป็นปกติได้ในที่ีสุด ส่วนแพททำกับอ้อมเหมือนคนไม่เคยรู้จักกัน ไม่พูดกัน มองหน้าก็แทบจะไม่มองด้วยซ้ำ และแบ๊งค์ก็ต้องทำเป็นไม่คุยกับอ้อมด้วยเพื่อความสบายใจของแพท
อ..เอ่อ แพท แพท เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อนสิแพท อ้อมเรียกแพทหลังจากหมดเวลาเรียน
อะไร!! แพทหันมาตอบเสียงแข็ง
พรุ่งนี้ ตอนเย็นเราจะไปแล้วนะ เธอจะไปส่งเรามั้ย?? อ้อมตอบแล้วยิ้มอย่างมีความหวัง
ไปไหน ใครจะไปไหน แพทตอบแล้วทำหน้า งงๆ
อ่าว...เราเขียนไปในการ์ดเยี่ยมพี่แบ๊งค์แล้วนะ ว่าวันพรุ่งนี้เราจะต้องไปเรียนต่อที่อังกฤษ เธอยังไม่ได้อ่านเหรอ? อ้อมพูดพร้อมกับถามแพทกลับด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
แล้วมาเขียนบอกทำไม ทำไมไม่มาบอกเอง ห๊า!? ...เราไม่ได้อ่าน แล้วเราก็ไม่ไปอ่ะนะ ไม่ว่าง โชคดีแล้วกัน หลีกทางหน่อย จะรีบไป เดี๋ยวพี่แบ๊งค์รอนาน... แพทพูดพร้อมกับเดินชนบ่าเพื่อนสนิทแล้วเดินจากไปอย่างไม่แยแส อ้อมเปลี่ยนจากสีหน้าที่ยิ้มแย้มและมีความหวังเป็นหน้าธรรมดาทันที น้ำใสใส ได้เริ่มไหลออกมาจากดวงตาของอ้อมอย่างมากมาย อ้อมเดินอย่างหมดอะไรตายอยาก กลับหอพร้อมกับเก็บข้าวของเพื่อจะเตรียมเดินทางในวันพรุ่งนี้...
ติดตามตอนสุดท้าย ..
16 ตุลาคม 2547 06:10 น.
น้ำหมึกขาว
อ้อมพยามพูดและอธิบายเหตุผลเรื่องต่างๆ ให้แพทฟังจนเข้าใจ จนแพทและอ้อมกลับมาเป็นเพื่อนรักกันเหมือนเดิม และแพทก็กลับมาคืนดีกับแบีงค์ในที่สุด .. .
วันนี้อากาศหนาวบวกกับท้องฟ้าที่ค่อนข้างมืดครื้ม เพราะฝนที่กำลังจะตก แบ๊งค์มารับ แพท และอ้อม ไปทานข้าวกลางวัน อ้อมตอบปฏิเสธที่จะไปเพราะรู้ตัวว่าอาจเป็นส่วนเกิน แต่แพทก็พูดจนเพื่อนรักไปจนได้ .
โอยย...เดี๋ยวมานะ ไปห้องน้ำก่อน เมื่อกี้กินน้ำไปตั้งเยอะ แพทพูดขึ้นพร้อมกับวิ่งไปห้องน้ำในขณะที่แบ๊งค์และอ้อมนั่งอยู่ในร้านอาหาร .. .อ้อมมองหน้าแบีงค์ แต่ก็ไม่กล้าที่จะถามว่าแบ๊งค์ใช่พี่แบ๊งค์คน คนเดียวกับที่เธอคนไว้รึเปล่า. .. .แบ็งค์เมื่อ 10 ปีก่อนคนนั้น .. .
อ...เอ่อ พ..พี่ อ้อมตะกุกตะกักพูด
เอ้าา..เป็นอะไรไปน่ะเรา เอ่อ อ้า อยู่ได้ หืออ? แบ๊งค์ตอบพร้อมกับยื่นหน้ามาหาอ้อมใกล้ๆ
ป...เปล่าคะ อ้อมตอบพร้อมกับหันหน้าหนี
แปลกคนจริงๆ 55 5 อืมม.. . เราชอบไปเที่ยวตามทะเล น้ำตก บ้างม่ะ เห็นว่าชอบลุยๆนี่ แบ๊งค์ถามอ้อมต่อ
ก็ไปบ้างอ่ะคะ ชอบ ดูวิวแล้วก็เล่นน้ำ . จับปลาอ่ะค่ะ สนุกดี อ้อมหันมาตอบแบ๊งค์ทันทีเมื่อได้ยินคำถาม
เอ่อ...จริงสิ พี่มีรูปอยู่ที่ ที่นึง ที่เนี่ยนะ ปลาชุมมาก พี่พึ่งไปค้นมาเจอน่ะ จำได้ว่าถ่ายกับญาติรุ่นน้องคนนึง ที่เชียงใหม่น่ะ ถ้าอ้อมไปอ้อมต้องชอบแน่ๆ แบ๊งค์พูดพร้อมกับหยิบรูปในกระเป๋าตังค์ส่งมาให้อ้อม อ้อมหยิบรูปที่แบ๊งค์ส่งมาให้ขึ้นมามอง รูปที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือ ภาพของเด็กชายและเด็กหญิง2 คนยืนขี่คอพร้อมกับหัวเราะกันถ่ายรูป โดยที่วิวข้างหลังเป็นบึงใหญ่สวยงามมาก .. .
อ้อมมองรูปนั้นแล้วเงียบอยู่นาน . ในจิตใจตอนนั้นของเธอรู้สึกดีใจอย่างมากจนทำอะไรไม่ถูก ไม่มีแรงแม้แต่จะเปล่งเสียงออกมาเป็นคำพูด เพราะภาพที่เห็นทำให้อ้อมแน่ใจและมั่นใจว่า แบ๊งค์คนนี้เป็นพี่แบ๊งค์ของเธอเมื่อ 10 ปีที่แล้ว คนที่เธอรักและรอคอยมานานแสนนาน
อ้อม อ้อม น้องอ้อม!! ...เป็นอะไร นั่งเงียบเชียว แบ๊งค์ถาม
ป..เปล่าค่ะ รูปนี้วิวมันสวยดีน่ะค่ะ หญิงสาวตอบน้ำตาคลอ
เฮ้อออ...ความจริงอ่ะนะ พี่ก็ลืมๆ รูปพวกนี้ไปหมดแล้วแหละ เมื่อวานพี่ทำความสะอาดห้องนอนน่ะ ไม่รู้รูปมันไปอยู่ใต้เตียงได้ยังไง ก็เลยมาเปิดดู เห็นภาพนี้ก็เลยคิดถึง เลยมาเก็บไว้ในกระเป๋าตังค์น่ะ... เอ่อ อ้อมเห็น รูปเด็ก 2 คนนั่นรึเปล่าล่ะ คนโตน่ะพี่ที่ยืนอยู่น่ะ ส่วนคนที่ขี่คอน่ะ ชื่อ...อะไรซักอย่าง อ อ่าง นี่แหละ เห็นผอมๆ อย่างนี้เถอะ หนักเอาการเหมือนกันนะเนี่ย 555 นี่ถ้าเค้ายังอยู่นะ พี่น่ะรักเค้ามาก มากถึงมากที่สุด มากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้นะ รักกว่าแพทซะอีก อ้อมเชื่อพี่มั้ย . แบ๊งค์ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เบา เพราะกลัวแพทจะมาตอนไหนก็ยังไม่รู้ แต่คำถามที่แบีงค์ถามก็ทำให้อ้อมอึ้ง แต่ก็ยังฝืนถามต่อ ..
ล..แล้ว เด็กคนนั้นเค้าไปไหนแล้วเหรอคะ?? อ้อมถามอย่างตั้งใจ
เห็นทางบ้านพี่เค้าพูดกันว่า หลังจากที่พี่ไปเที่ยวบ้านเค้ากลับมาไม่กี่เดือน บ้านของเค้าก็ถูกไฟไหม้ เสียชีวิตกันทั้งบ้าน มีแต่พ่อของเค้าที่รอด แล้วก็ทำใจไม่ได้จนต้องไปอยู่อังกฤษ เพื่อลืมอดีตทุกอย่าง . แบ๊งค์ตอบโดยเสียงที่สั่นเครือพร้อมกับน้ำตาที่คลออยู่ในตา
พี่แบีงค์คะ ไม่เป็นไรหรอกมั้งคะ พี่แบ๊งค์ก็มีแพทแล้วนี่คะ อ้อมพูดพร้อมกับฝืนยิ้ม
ก็ใช่ไง ไม่หยั่งงั้น พี่คงลืมเด็กคนนั้นไม่ได้... แบ๊งค์ตอบ ได้ไม่นานแพทก็เดินมาพอดี
อ้อมคิดว่าเรื่องนี้อาจจะจบลงและอาจจะทำให้เค้าทั้งคู่รักกันเพียงแค่อ้อมพูดขึ้นมาว่า เด็กผู้หญิงในรูปนั้นเป็นใคร และเรื่องจริงเป็นอย่างไร แต่อ้อมก็ไม่สามารถที่จะทำร้ายจิตใจเพื่อนรักของเธอลงได้ อ้อมเลยทำได้แค่มองดูแบ๊งค์อยู่ห่างๆ มองดูพี่ชายที่แสนดีของเค้า กับเพื่อนรัก รักกันอย่างมีความสุข
มันจะเป็นอะไรไปล่ะ ถ้าคนที่เรารักเค้า กับเพื่อนที่รักของเรา จะรักกัน คำพูดที่เกิดขึ้นในจิตใจของอ้อมทุกครั้งที่ ตื่นมาหลังจากที่แบ๊งค์เล่าเรื่อง ต่างๆให้เค้าฟัง ..
ติดตามตอนต่อไป .. .
15 ตุลาคม 2547 06:27 น.
น้ำหมึกขาว
จากวันที่อ้อมและแพทมาฟังผลสอบทั้งคู่ก็ได้มาพักที่หอพักแห่งหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากมหาลัยมากนัก ทั้งคู่สนิทกันมาก เนื่องจากรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก มีอะไรก็อาศัยซึ่งกันและกัน จนสายตาคนอื่นที่มองเค้าทั้ง 2 คน อาจจะมองว่าไม่ใช่เพื่อนแล้วในบางครั้งแม้ว่าเธอทั้งคู่จะเป็นผู้หญิงเต็มตัวก็เถอะ .. .
อยู่ไหนว้าา .อยู่ไหนว่ะ อยู่ไหน.. แพทเดินเปิดกระเป๋าตังค์บ่นพึมพำอยู่คนเดียวในขณะที่ตัวเธอเองก็นั้นอยู่ใต้ถุนอาคารเรียน
หาอันนี้อยู่รึเปล่าครับ เสียงที่ฟังดูแล้วรู้สึกอบอุ่นและเป็นมิตรดังขึ้นด้านหลังของแพท ภาพที่แพทเห็นคือนักศึกษารุ่นพี่ปี 4 ค่อนข้างสูง หน้าตี๋ ยืนอมยิ้มแล้วถือบัตรเครดิตอยู่
ช..ใช่ค่ะ ข..ขอบคุณมากค่ะ แพทอึ้ง พร้อมกับค่อยๆเดินไปหยิบการ์ดที่อยู่ในมือรุ่นพี่คนนั้น
เอ่อ..น้อง...ปี1รึเปล่าครับ รุ่นพี่คนนั้นถาม
ค..ค่ะ ค่ะ แพทหน้าแดงพร้อมกับก้มหน้าก้มตาตอบ
งั้นรีบขึ้นไปเรียนเถอะนะครับ ใกล้เวลาแล้ว เดี๋ยวอาจารย์จะว่านะครับ
ค..ค่ะ ค่ะ แพทตอบพร้อมกับกำลังจะหันหลังเพื่อจะขึ้นห้องเรียน โดยในใจอยากจะหันหลังกลับไปถามชื่อ และถ้าเป็นไปได้อยากขอเบอร์โทรรุ่นพี่คนนั้นด้วยซ้ำ
แพท! แพท!!!ไปไหนมา จะเข้าเรียนแล้วนะ อ้อมวิ่งหน้าตาตื่นมาหาเพื่อน
อ..เอ่อ เออ ชั้นรู้แล้วน่า ไปเถอะป่ะ แพทตอบ
อ่อ!...น้อง น้องครับ เดี๋ยวก่อน รุ่นพี่คนนั้นวิ่งเข้ามาหาแพทพร้อมกับพูดต่อ
ถ้ามีอะไรก็ไปหาพี่ได้ที่คณะนะครับ พี่อยู่คณะอักษรศาสตร์ ชื่อแบ๊งค์ เรียกพี่แบีงค์ก็ได้ครับ
ใครอ่ะ แพท อ้อมกระซิบถามแพทเบาๆ แต่แพทก็มัวแต่ยืนยิ้มฟังแบ๊งค์พูด
แล้วน้องเป็น เพื่อนของน้องคนนี้เหรอครับ แบ๊งค์ถามหญิงสาวที่ยืนข้างแพท
ค่ะ ทำไมคะ!!? เพื่อนหนูขโมยเงินพี่เหรอคะ อ้อมถามหน้าตาตกใจ
555 เปล่าครับ เปล่า ชื่ออะไรกันบ้างครับเนี่ย แบีงค์พูดต่อในขณะที่แพทก็ยืนยิ้มหน้าแดง
เพื่อนหนูชื่อแพทค่ะ หนุชื่ออ้อม เอ่อ..ไปก่อนนะค่ะพี่ เดี๋ยวเรียนไม่ทันคะ อ้อมตอบพร้อมกับหันหลังเดินขึ้นห้องเรียน แต่ก็ต้องหันมาดึงเพื่อนซี้ให้ขึ้นไปเรียนด้วยเพราะแพทมัวแต่ยืนยิ้ม อยู่คนเดียวเหมือนคนบ้า
เลิกเรียนเสร็จทั้งคู่ได้ไปเข้าร้านอาหารแห่งหนึ่งข้างๆมหาลัย เพื่อกินข้าวเย็น
คนอะไรไม่รู้...น่ารัก... จริงๆเลย... แพทพึมพำอยู่คนเดียวในขณะที่อ้อมก็มองเพื่อนด้วยสายตาที่มึนงง พร้อมกับดูดน้ำอัดลมไปเรื่อยๆ
ยังไม่กลับบ้านกันเหรอครับ น้องอ้อม น้องแพท เสียงนุ่มหูดังขึ้น
อ่าว...พี่แบีงค์.... คะ กินข้าวก่อนน่ะคะพี่ เดี๋ยวค่อยกลับ อ้อมตอบในขณะที่แพทมองตาค้าง
งั้น...พี่ทานด้วยคนนะครับ แบ๊งค์พูดพร้อมกับยิ้มกว้างมาให้อ้อม ในเวลานั้นอ้อมรู้สึกคุ้นเคยกับรอยยิ้มแบบนี้ทันที .
อ้อม แพท และแบ๊งค์ นั่งคุยด้วยกันในร้านอาหารแห่งนั้น จนแพทเริ่มที่จะคุ้นเคยและไม่เขินเวลาคุยกับแบีงค์แล้ว หลังจากวันนั้น แพทเริ่มที่จะสนิทกับแบ๊งค์มากขึ้น และมากขึ้นเรื่อยๆ ไปไหนทั้งคู่จะไปด้วยกัน ถ้าทางมหาลัยมีกิจกรรมทั้งคู่ก็จะเข้าร่วมเสมอ จากเมื่อก่อนที่เวลาแพทไปไหนก็ต้องมีอ้อมที่นั่น เดี๋ยวนี้มันกลับตรงกันข้าม แพทไปไหนมาไหนกับแบีงค์แทน จนทั้งคู่ตกลงเป็นแฟนกันในที่สุด
วันนี้ไม่มีเรียน อ้อมอยู่หอคนเดียวในขณะที่เพื่อนซี้ของตนไปสนิทกับรุ่นพี่ปี 4 คนนั้น
ฮาววว....น่าเบื่อวุ้ย! ออกไปเที่ยวดีกว่า อ้อมพูดอยู่ในห้องคนเดียวพร้อมกับเดินไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อออกไปข้างนอก
จะไปไหนคะน้องอ้อม... เสียงเล็กและแหลม ดังขึ้น
ไปข้างนอกหน่อยน่ะป้า ฝากซื้ออะไรมั้ยคะ อ้อมตอบป้าที่ดูแลหอ พร้อมกับถามตามมารยาท
อุ้ยๆอย่าเรียกป้าซิจ๊ะ พี่ก็พอ อ่อ พี่ฝากซื้อ ยกทรงหน่อยซิ เอายี่ห้อนี้นะ อ่ะเบอร์นี้ด้วย นี่ตัวอย่างคะ ป้าที่ดูแลหอพูดพร้อมกับยื่นยกทรงที่แห้งเหี่ยวมาให้อ้อม เพื่อเป็นตัวอย่างในการซื้อ อ้อมรับเงินและตัวอย่างยกทรงนั่นอย่างไม่เต็บใจเท่าไหร่ก่อนที่จะบ่นคนเดียวแล้วเดินออกมาจากหอนั่น
โธ่เว้ย...ไม่น่าถามเลยชั้น .. เบอร์นี้ ยี่ห้อนี้อีก โอยย ของแบบนี้มีฝากซื้อกันด้วยรึไงกัน .คนขายจะมองชั้นว่าไงเนี่ย.. ....
อ้อมเลือกซื้อชุดชั้นในตามที่ป้าดูแลหอฝากมาเรียบร้อยก็ไปนั่งกินไอศกรีม อ้อมสั่งไปได้ไม่นาน สักพักจึงเกิดเสียงดังโวยวายในร้านขึ้น... อ้อมเงยหน้าขึ้นมองตามที่มาของเสียง ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า คือเพื่อนซี้และแฟนนั่นก็คือพี่แบ๊งค์ยืนทะเลาะกันอยู่ ไม่ห่างจากโต๊ะที่อ้อมนั่งกินเท่าไหร่นัก อ้อมเห็นอย่างนั้นลุกพรวดไปหาคู่นั้นทั้ง 2 คนทนที..
ใจเย็นๆๆ นะแพท อ้อมพูดขึ้นในขณะที่แพทง้างมือจะเอาแก้วกาแฟมาสาดใส่แบ๊งค์
ยุ่งอะไรด้วย! ยัยอ้อม เธอไม่เกี่ยว แพทหันตาขวางมาใส่เพื่อน
เกี่ยวสิ เธอเป็นเพื่อนชั้นนะ แล้วนี่อะไรกัน ไม่อายคนเค้ารึไง อ้อมพูดขึ้น ในขณะที่แพทเมินหน้าหนีแต่ยังถือแก้วกาแฟนั้นอยู่ อ้อมพูดต่อ...
เป็นแฟนกันน่ะก็น่าจะค่อยๆพูดกัน จะได้มีความสุข .. .
งั้นก็เชิญเธอ ไปมีความสุขกันเลยไป๊! แพทพูดแซงพร้อมกับตั้งใจจะสาดกาแฟใส่แบ๊งค์ แต่โดนอ้อมเต็มๆ แพท มองตาเขียวไม่ขอโทษเพื่อนเลยแม้แต่น้อย และเดินออกไปนอกร้านทันที
อ้อมหยิบผ้าเช็ดหน้าแล้วเช็ดน้ำกาแฟพอที่จะเช็ดได้ ก่อนที่แบ๊งค์จะขอโทษแทนแพท แล้วอธิบายว่าเรื่องทั้งหมดคือ แพทหึงแบ๊งค์เนื่องจากเค้าทั้งคู่นั่งกินไอศกรีมกันก่อนหน้านี้แล้ว และแบีงค์ก็เห็นอ้อมเดินเข้ามาก็เลยจะเข้ามาทัก แต่แพทห้ามไว้ ก็เลยเกิดการทะเลาะกันอย่างไม่มีเหตุผลขึ้น หลังจากที่แบ๊งค์เล่าเรื่องทุกอย่างให้อ้อมฟังเสร็จแล้ว ก็พาอ้อมไปส่งที่หอ
ขอบคุณมากนะคะพี่แบ๊งค์ อ้อมพูดพร้อมกับลงจากรถของแบ๊งค์
ครับผม อ่อ น้องอ้อม ลืมของครับ แบ๊งค์พูดพร้อมกับ หยิบถุงเล็กๆมาให้อ้อม
อ..เอ่อ ค่ะๆ อ้อมรีบคว้าจนทำให้ชุดชั้นในหล่นออกจากถุงใส่ แบ๊งค์หยิบให้อ้อมพร้อมกับถามแบบอมยิ้มทันที
อ้อมใช้แบบนี้ด้วยเหรอคับ?
ป..เปล่านะคะพี่ เปล่า!! ป้าที่ดูแลหอเค้าฝากซื้อน่ะ อ้อมตอบพร้อมกับคว้าชุดชั้นในใส่ถุงแล้วเดินหันหลังขึ้นหอก่อนที่จะหันมาพูดกับแบ๊งค์ก่อนไป...
เอ่อ...พี่แบ๊งค์!! ยังไงอ้อมก็จะช่วยพูดกับแพทให้นะคะ ไม่ต้องห่วง แล้วก็เป็นพี่น่ะ ต้องหัดตามใจน้องบ้างนะ รู้ป่ะ อ้อมพูดจบก็เดินขึ้นหอทันที ปล่อยให้แบีงค์นั่งนิ่งอยู่ในรถพร้อมกับคำถามที่เกิดขึ้นมากมายในจิตใจว่าคำพูดนี้ เค้าเคยฟังและได้ยินมาจากไหน... .. .
ติดตามตอนต่อไป .
15 ตุลาคม 2547 06:25 น.
น้ำหมึกขาว
พี่แบ๊งค์ พายเร็วๆ สิ เดี๋ยวปลามันก็ว่ายหนีหมดหรอก... เสียงใสๆของเด็กน้อยวัย 8 ปีตะโกนขึ้น ..
โอย...เหนื่อย แฮ่ก ๆ ๆ...พี่ไม่ไหวแล้วอ้อม แบ๊งค์เพื่อนรุ่นพี่ของอ้อมวัย 11 ปี ตอบ
อะไรกัน เป็นพี่น่ะ ต้องตามใจน้องสิ!! เร็วๆเข้า พายเร็วๆ ปลาว่ายหนีหมดแล้วเนี่ย จับไม่ทันแล้ว
เอ้า! เป็นไงเป็นกันวะ แบ๊งค์ตอบคนเดียวพร้อมกับงัดไม้พายไปบนผิวน้ำเพื่อส่งเรือให้ไปเร็วขึ้น
โครม!! โอ้ย!...เฮ้ย!อ้อมระวัง!! แบ๊งค์ตะโกนเรียกอ้อมในขณะที่เรือไปชนกับอะไรบางอย่างกลางบึงนั่นแล้วร่างของเด็กหญิงพลัดออกจากเรือและค่อยๆจะจมลงไปในน้ำ
อ้อม!... แบ๊งค์ตะโกนสุดเสียงพร้อมกับกระโดนลงไปช่วยอ้อมทันที...
พี่แบ๊งค์...ลงมาทำไม... น้ำมันแค่เอวอ้อมนะ อ้อมตอบพร้อมกับยืนให้แบีงค์ดู
อ...อ่าว แล้วกัน พี่ก็ลงจะมาช่วย นึกว่าน้ำลึกแล้วเราน่ะก็ว่ายน้ำไม่เป็น
ฮ่า ๆ ๆ หน้าแตกเลย ฮ่า ๆ ๆ นี่แนะ ๆ อ้อมหัวเราะชอบใจพร้อมกับเอามือวิดน้ำ สาดใส่หน้าแบ๊งค์เบาๆ
โอ้ย...เล่นอย่างงี้เหรอ เอามั่งๆ นี่แนะๆ ฮ่าๆ
ทั้งคู่เล่นกันอย่างสนุกสนานจนเริ่มที่จะเย็นแล้ว จึงชวนกันกลับบ้าน
พี่แบ๊งค์...จะมาเที่ยวที่นี่อีกเมื่อไหร่เหรอ อ้อมถามด้วยสีหน้าและท่าทางที่ไม่อยากจากเพื่อนรุ่นพี่คนนี้ไป
พี่...พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แล้วแต่แม่ของพี่น่ะ... ป่ะไปเหอะ ตัวเปียกหมดแล้วนะเราน่ะ
แต่อ้อมไม่อยากกลับบ้าน กลับบ้านไปก็ต้องไปนอน พอนอนตื่นมาก็ไม่เจอพี่แบีงค์ พี่แบ๊งค์หนีไปก็เพราะพี่แบ๊งค์ไม่รักอ้อมแล้ว อ้อมตอบ
เจอสิคับน้องอ้อม...แล้วก็พี่สัญญาคับ พี่จะรักน้องอ้อมตลอดไปคับ แบ๊งค์ตอบพร้อมกับยื่นหน้าตี๋ๆมาหาอ้อม
จริงๆนะ อ้อมถามด้วยท่าทางดีใจ
ป่ะ กลับบ้านกันดีกว่าเรา แบ๊งค์ตอบพร้อมกับเอามือดึงเรือที่น้ำเอ่อเต็มเรือนั่นขึ้นมา ส่วนอีกมือนึงก็จูงมืออ้อมในขณะที่ตัวของทั้งคู่อยู่ในน้ำ
โอ๊ย!...เจ็บ อ้อมตะโกนร้องลั่น
เป็นอะไรอ้อม!!?... แบ๊งค์ถามในขณะที่อ้อมค่อยๆเอาเท้ายกขึ้นมาพร้อมกับแผลยาวที่เกิดจากเปลือกหอย
โอโหหห...มานี่เลยเรา มาขี่คอพี่เลยขืนเดินต่อไปเชื้อโรคเข้าแน่ๆ แบ๊งค์พูดยังไม่ทันจะจบดีก็จับอ้อมขึ้นหลังตนเอง
โอยย...ตัวหนักเหมือนกันนี่หว่า เห็นตัวเล็กๆอย่างนี้ หนักเหมือนหมูเลยนะเนี่ย
นี่!...พี่แบ๊งค์ อย่าเรื่องมากดิเป็นพี่น่ะต้องตามใจน้องสิ!! เร็วๆเข้า ไปเลยๆ ฮี้ กร๊อบๆ อ้อมตอบพร้อมกับกระโดดอยู่บนหลังของแบ๊งค์
โอย...เห็นพี่เป็นม้ารึไง ฮ๊ะเรา? แบ๊งค์ตอบพร้อมกับค่อยๆเดินขึ้นฝั่งอย่างช้าๆ แล้วเอาพลาสเตอร์ยาที่พกในกระเป๋าตังค์มาเปะให้โอ้อมอย่างเบาๆ
โอโห...สีฟ้าาาา หวานเชียวนะพี่แบ๊งค์ อ้อมตะโกนแซวเมื่อเห็นพลาสเตอร์ยาในขณะที่แบ๊งค์อายจนหน้าแดง แล้วตะกุกตะกักตอบอ้อม
ก...ก็ มันไม่มีสีอื่นขายนี่หว่า แล้วอีกอย่างปิดพลาสเตอร์ยาสีฟ้าอันนี้แล้วจะได้นึกถึงพี่ไง 555
ทั้งคู่ต่างยอกล้อและหัวเราะกันจนมาถึงบ้าน แม่ของอ้อมก็ทำแผลให้อ้อมพร้อมกับพาอ้อมกับแบ๊งค์ไปกินข้าวแล้วเข้านอน จนรุ่งเช้าอ้อมตื่นมาจึงรู้ว่าแบีงค์ได้กลับกรุงเทพฯไปตั้งแต่เช้าแล้ว อ้อมได้มีเวลาในช่วงของความสุขเล็กๆน้อยๆ ในช่วงปิดเทอมเพียงเท่านี้เหรอ นี่คือสิ่งที่อ้อมคิดเป็นสิ่งแรกในจิตใจของเธอในตอนนั้น และจากวันนั้นจนวันนี้เป็นเวลา 10 ปีพอดีที่อ้อมกับแบ๊งค์ไม่ได้เจอกันจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ถ้าไม่ใช่สภาพแวดล้อมและสถานที่ที่ห่างไกลกันเหลือเกิน ทั้งคู่ต่างเปลี่ยนไปทั้งหน้าตาและนิสัย แบ๊งค์แทบจะจำไม่ได้เลยว่าครั้งหนึ่งเค้าได้เคยมาเที่ยวต่างจังหวัดแบบนี้ และสนุกมากในที่แบบนี้... แต่มีอยู่คนนึงที่เก็บภาพความทรงจำดีดีในอดีตนั่นได้เป็นอย่างดีและไม่มีวันลืม นั่นคือ อ้อม...
เย้...ชั้นสอบติดแล้วววว ชั้นสอบติดแล้วว เสียงที่ดังโหวกเหวก ณ ที่ประกาศผลสอบมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งซึ่งค่อนข้างมีชื่อแถวๆกรุงเทพฯ
ชั้นสอบติดโว้ย.. คราวนี้เราจะได้มาอยู่กรุงเทพฯกันแล้วนะยัยอ้อม ไม่ต้องทนเรียนอยู่ที่เชียงใหม่แล้ววว ฮ่า ๆ ๆ แพท เพื่อนแถวบ้านของอ้อมพูดขึ้นพร้อมกับวิ่งเข้ามากอดอ้อมด้วยความดีใจ
เออ เออ ชั้นรู้แล้วว่าเธอดีใจ แต่ชั้นแน่น ปล่อยก่อนคนมองเยอะแยะ เดี๋ยวคนก็หาว่าเธอกับชั้นเป็นคู่ดี้กันหรอกย่ะ
เออเฮ้ย โทษๆๆก็ชั้นดีใจนี่หว่า ถ้าน้าอรอยู่คงจะดีใจแน่ๆเลยเธอว่าป่ะ แพทถาม
อ...เอ่อ อืมม อ้อมหน้าเสียทันทีเมื่อแพทพูดขึ้นถึงแม่ของเธอเองที่เสียไปเมื่อหลายปีก่อน เนื่องจากเหตุการณ์ไฟไหม้ที่บ้าน จนทำให้อ้อมต้องไปอยู่กับพ่อที่อังกฤษ ก่อนที่จะมาลองสอบเข้ามหาลัยในประเทศไทยได้
เฮ้ย..ชั้น ชั้นขอโทษ ชั้นไม่ได้ตั้งใจจะ...
ชั่งมันเหอะ ป่ะไปกันดีกว่า เค้าเรียกนักศึกษาที่สอบติดแล้วนี่ ป่ะ อ้อมเปลี่ยนเรื่องทันที พร้อมกับชวนเพื่อนรักไปรายงานตัว
อ่อ...ป่ะ ไปก็ไป แพทตอบพร้อมกับวิ่งลากอ้อมเข้าไปในที่รายงานตัว.
ติดตามตอนต่อไป .. .
14 ตุลาคม 2547 06:53 น.
น้ำหมึกขาว
ไม่นานนัก น้ำหวานก็ได้ออกจากโรงพยาบาล และได้อยู่พักฟื้นที่บ้านจนแข็งแรงเหมือนเดิม... วันนี้อากาศดีเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคู่รักที่จะเดินออกไปเดินเล่นกัน กินข้าว หรือว่าดูหนังด้วยกัน น้ำหวานกับเรย์ก็เป็นเช่นนั้น... วันนี้เรย์นัดกับน้ำหวานว่าจะไปดูหนังและทานข้าวกัน โดยที่เรย์ต้องไปทำธุระกับครอบครัวก่อน น้ำหวานจึงตัดสินใจว่าเธอจะไปเจอกันที่ร้านอาหารเลยเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาต่อคนทั้งสอง...
และวันนี้เองที่น้ำหวานจะได้นำรูปในสมัยเด็กของคนทั้งสองไปให้เรย์ดู. ไม่ใช่เพราะว่าจะเรียกความรักจากเรย์ให้มันมากขึ้น แต่สิ่งที่อยู่ในจิตใจของน้ำหวานในตอนนี้เธอรู้สึกว่า ตัวเธอเองอาจจะอยู่ได้ไม่นานแล้ว เธอเลยอยากจะทำสิ่งที่จิตใจตัวเองเรียกร้องมาตลอดสิบกว่าปี ..ในวันนี้...
สองทุ่มตรงนั่นคือเวลานัดของคนทั้งสอง ดูเหมือนกับว่าเรย์จะมาก่อนและนั่งรออยู่ในร้านอาหาร... น้ำหวานลงจากรถเมล์และยืนรอเพื่อที่จะข้ามถนนไปที่ร้านอาหารที่ตนนัดคนรักไว้... หญิงสาวมองซ้ายขวามือกอดอกแน่นโดยที่มีอัลบ้ำรูปอยู่ในนั้นก่อนที่จะตัดสินใจเดินข้ามถนน...
รถเก๋งคันหรู แล่นผ่านตัดหน้าน้ำหวานอย่างเฉียดฉิว ถ้าเธอไม่สะดุ้งดีดตัวเดินถอยหลังกลับคงจะกลายเป็นศพเป็นแน่ แต่จนแล้วจนรอด ศีรษะด้านหลังของเธอก็ไปกระทบกับรถตู้คันหนึ่งซึ่งกำลังจะจอดรับผู้โดยสารซึ่งอยู่ด้านหลังในทันทีที่เธอถอยหลังกลับเมื่อชั่วครู่นี้
ปึก!!!...เสียงเบาๆจากศีรษะที่กระทบกระจกด้านข้างรถตู้ดังขึ้น หญิงสาวตกใจหันหลังกลับไปมองรถตู้เพื่อสำรวจว่าไม่เป็นอะไรก่อนที่จะตัดสินใจหันหลังเดินข้ามถนนต่อ...... .. ..น้ำสีแดงข้น เริ่มไหลออกมาจากโพรงจมูกทั้งสองข้าง... โดยที่น้ำหวานหรือว่าบุคคลรอบข้างไม่ทันได้ทันสังเกต
ภาพบนถนนที่เริ่มเลือนลางและเกาะกลางถนนที่เริ่มจางหายไป สายตาของน้ำหวานรู้สึกได้เช่นนั้นสายตาที่จะเหมือนกับว่าพริ้มหลับ แต่ยังไม่หลับ ร่างหญิงสาวที่กำลังจะข้ามถนนนั้นเริ่มเป็นที่สนใจจากคนรอบข้างในบริเวณถนนในยามค่ำคืนตอนนั้น และมองดูด้วยอาการหวาดกลัว เพราะไม่รู้ว่าร่างนั้นจะล้มไปตอนไหน...
เรย์เริ่มมองนาฬิกาเพราะน้ำหวานไม่เคยสายมาก่อน... ..ชายหนุ่มมองผ่านกระจกในร้านอาหารและไปสะดุดตากับร่างๆหนึ่งซึ่งยืนเหมือนจะหมดแรงอยู่กลางถนน...
น.. .น้ำหวาน!!? ชายหนุ่มอุทานเสียงดัง ก่อนที่จะวิ่งออกไปหาคนรัก... เรย์ตะโกนเรียกหญิงสาวซึ่งร่างนั้นยืนอยู่กลางถนน รถที่แล่นกันโฉบเฉี่ยวโดยที่ไม่รู้เลยว่า มีหญิงสาวซึ่งกำลังจะหมดสติยืนอยู่กลางถนน น้ำหวานได้ยินเสียงเรียกของเรย์แต่มองหน้าไม่ชัด .เลือดที่ไหลออกมาจากโพรงจมูกทั้งสองข้าง ไหลออกมามากมายเสมือนกับว่าเป็นน้ำ...ในตอนนี้ได้เปรอะเปื้อนรดขอบปกเสื้อสีชมพูหวานจนแทบจะไม่เหลือของสีเสื้อนั้นอีกแล้ว. ..
สัญญาณเพื่อให้รถหยุดแดงขึ้น... เรย์วิ่งไปหาร่างที่กำลังจะล้มลงกลางถนนทันทีโดยที่คนในบริเวณนั้นต่างก็วิ่งไปช่วยด้วยเช่นกัน... แต่ร่างที่ทุกคนกำลังจะวิ่งไปหากลับไม่ยืนรอพวกเค้า เพราะความอ่อนล้าของขาทั้งสองข้างของน้ำหวานได้หมดไปอย่างหมดสิ้น ศีรษะของร่างนั้นกระทบกับพื้นถนนอย่างจัง ทำให้ผู้หญิงในละแวกนั้นตะโกนร้องด้วยความตกใจ... เรย์ผวาเข้ากอดพร้อมกับพยุงร่างที่เต็มไปด้วยเลือดนั้นขึ้นมาแนบอก ..
นน้ำหวานน อย่าเป็นอะไรนะ...อยู่กับเรย์ก่อน... ชายหนุ่มพูดเสียงสั่นคลอกับคนรักพร้อมกับน้ำใสๆที่ไหลผ่านออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างโดยที่พลเมืองดีข้างๆนั้นโทรศัพท์หาตำรวจและรถพยาบาล
ร...เรย์ เรย์... น้ำหวานเรียกชื่อคนรักเบาๆพร้อมกับหยิบอัลบั้มรูปอยู่ในมือเธอขึ้นมา... ชายหนุ่มเหมือนกับรู้ว่าจะต้องทำยังไง เขารับอัลบั้มรูปนั้นขึ้นมาพร้อมกับถามอย่างแผ่วเบาที่ข้างหูของน้ำหวานว่านี่มันคืออะไร.. .เรย์ไม่ได้ยินคำตอบจากร่างที่ไม่ต่างอะไรกับปลาที่กำลังจะขาดน้ำนั่น...
ชายหนุ่มเปิดอัลบั้มรูปนั้นขึ้นดู... เขานิ่งไปพักใหญ่ ก่อนที่ภาพในอดีตทั้งหมด จะเรียบเรียงออกมาจากใจผ่านเข้าไปถึงความรู้สึกนึกคิดของเค้าในตอนนั้นเอง... ภาพขาวดำสีจางๆของรูปนั่น ล้วนแต่มีภาพของเด็กชาย-หญิงสองคนด้วยท่าทางและกิริยาบทในท่าทางต่างๆที่หยอกล้อเล่นกัน และล้วนแต่เป็นภาพที่มีความสุขทั้งคู่ ไม่ว่าจะอยู่ในชุดอยู่บ้าน หรือในเครื่องแบบนักเรียน...
น.น้ำหวาน.น้ำหวาน... จริงๆน่ะหรอ? น้ำหวานนน!!... ชายหนุ่มเรียกชื่อๆนึงออกมา ก่อนจะตะโกนลั่นพร้อมกับกอดร่างนั้นและอัลบั้มรูปไว้แน่น...
อ..อย่าจากเราไปอีกนะ...เราจากกันมามากพอแล้ว..อย่าจากเราไปอีกเลย เรย์ตะโกนใส่ร่างที่แนบนิ่งโดยที่น้ำตาก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดไหล...
ร...เรย์ ธ.เธอ จำเราได้ใช่มั้ย...? เสียงแผ่วเบาออกมาจากปากที่เปรอะเปื้อนที่เต็มไปด้วยเลือดที่ไหลออกมาจากโพรงจมูกของน้ำหวาน...
ได้...ได้สิ...ตอนนี้เราจำได้แล้ว... เราเป็นคนสัญญากับเธอเองไม่ใช่หรอ ว่าเราจะไม่ลืมเธอน่ะ แต่เราก็ลืม ..... ขอโทษนะ... อยู่กับเรานะ... อย่าจากเราไปไหน... เพราะเราก็จะไม่ไปจากเธอเช่นเดียวกัน ชายหนุ่มพูดอย่างมีความหวัง เขาพูดพร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยน้ำตา .. .
.ด...ดี...ดีใจจัง... น้ำหวานยิ้มก่อนที่จะหันไปลืมตากว้างเพื่อมองหน้าคนรักให้ชัดๆอีกครั้ง..... แต่น้ำหวานกลับยกแขนขึ้นพร้อบกับเอามือควานไปมาเหมือนกับว่าหาอะไรอยู่...
ท...ทำ ทำไมมันมืดอย่างนี้นะ...ร...เรย์...เรย์...เธอเธออยู่ไหนน่ะ... ร....เราได้ยินแต่เสียงเธอ... น้ำหวานตอบทั้งๆที่เธอลืมตาอยู่และเรย์อยู่ตรงหน้าเธอเอง. สิ่งนี้ทำให้ชายหนุ่มถึงกับอิ้ง พูดอะไรไม่ถูก...
ร..เราอยู่นี่น้ำหวาน เราอยู่นี่แล้ว... เรย์พูดพร้อมกับคว้ามือที่เย็นเฉียบมากอดแนบอกพร้อมกับประกบปากไปที่มือนั้นอย่างแผ่วเบา...
ด...ด...เด็กดื้อ...อย่าร้องไห้สิ... น้ำหวานตอบโดยที่ตาทั้งสองข้างเริ่มพริ้มจะปิดกันพร้อมๆกับเลือดที่เริ่มคลออยู่ที่นัยตาทั้งสองข้างนั่นด้วย...
คนชอบตื้อ...จะหนีเราไปไหน... ไม่ให้ไปนะ...ไม่ให้ไป!!! สิ้นเสียงเรย์ดวงตาที่สดใสคู่นั้นก็ปิดกัน พร้อมกับมือที่หมดแรงล่วงพลอยหลุดออกมาจากฝ่ามือของชายหนุ่มที่กุมไว้... สิ่งเดียวที่เรย์ทำได้คือกอดและมองร่างนั้นจากเขาไปอย่างไม่มีวันกลับมา เสมือนกับว่าฟ้าได้ลงโทษให้เค้าได้รับเคราะห์กรรมที่เกี่ยวกับการจากลานี้บ้าง... น้ำหวานรอคอยเรย์ที่จากไปมาเป็นสิบกว่าปี แต่เรย์ต้องรอคอยน้ำหวานที่จากไปอย่างไม่มีวัน...ที่จะกลับมา
ภาพที่อยู่เบื้องหน้าของทุกคนที่ยืนมุงอยู่นั้น คือชายหนุ่มซึ่งกอดร่างไร้วิญญาณของหญิงอีกคนกลางถนนสี่แยกแห่งหนึ่ง ร่างที่เต็มไปด้วยเลือดไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุ แต่นั่นคือเลือดจากภายในร่างกายของเธอเอง...
การรอคอยจากหญิงสาวซึ่งซื่อสัตย์ในรักแท้และความรักแรกพบ ได้จบชีวิตลงภายใต้ดวงตาของใครหลายสิบคนและโอบมือของคนรักที่เธอรักและรอคอยมาเป็นเวลาอันยาวนานแสนนาน . ..ท่ามกลางเมืองใหญ่. และนี่ก็เป็นจุดจบของความรักและการรอคอยอันยาวนาน... .. .
จบแล้วครับ Comment ได้เต็มที่ครับ เหอๆๆ