31 มกราคม 2549 17:52 น.

อหิงสาธรรม

น้ำตาหมอก

อำนาจอำนรรฆอ้าง...................อธรรม
คือขื่อคาครอบงำ.......................ง่าเงื้อ
คมดาบแห่งอธรรมนำ...............พิฆาต
กระหน่ำกระหนาบเนื้อ.............หนักนี้ลืมไฉน
			
มิ่งมหาอริยเจ้า..........................โคดม
ไร้ซึ่งกฤตยาคม.........................ครอบไว้
อริยสัจจ์สั่งสม............................ศักดิ์สิทธิ์
คือพระธรรมาวุธไซร้..................ชำนะสิ้นเสนามาร
		
ผลาญไพรีบำราศเรื้อง...............บูรพ์บรรพ์
ละละโมบโกรธโมหันธ์...............หั่นเหี้ยน
พระโพธิญาณอัน......................อัครเดช
เศิกแต่เศิกแสนเสี้ยน.............แตกสิ้นสูญพล
			
ประดนธรรมท่านเที้ยร............ทิพยธาตุ
ผ่องพิสุทธิ์สะอาด.......................เอี่ยมแผ้ว
อัญเชิญยุรยาตร.......................ยอทิพย์  ธรรมนา
ประจุลงใจแล้ว.........................รืนเรื้องมลายหลง
			
จงสู้เหมือนไม่สู้........................อหิงสา
คือดาบปราบปัจจา....................จิตป้อง
เจริญสู่มรรคา	......................... อันประเสริฐ
คือเกียรติยศก้อง.....................แกว่นกล้ากร่อนกรรม
		
เวรย่อมระงับด้วย....................ดับเวร
คือหลักคือกฎเกณฑ์.................เที่ยงแท้
ไม่หย่อนไม่เอียงเอน...............อิงกฎ  ธรรมนา
ผิดจากกฎนี้แล้........................โลกร้ายมนุษย์ทราม				
30 มกราคม 2549 16:25 น.

กระต่ายยังคงหมายจันทร์อยู่ทุกวันคืน

น้ำตาหมอก

โน่นขอบฟ้าดาราระย้าย้อย
	สูงสุดสอยเกินสิทธิ์ที่คิดฝัน
	ฝากคำกลอนอ้อนเอื้อนมาเตือนจันทร์
	สงสารกันเถิดหนายอดยาใจ
		
                     คำจากใจไม่เพราะเสนาะเสน่ห์
	ไม่เรี่ยมเร้หลงเพ้อพิสมัย
	เหมือนด้ายว่าวต้องบาดขาดอาลัย
	หลงลอยไกลเกินคว้าลงมาชม
  		
                     เธอเป็นจันทร์ฉันชายกระต่ายป่า
	ตะกายห้วงเวหาก็พาขม
	ก็พาขื่นคิดน้อมมาดอมดม
	กลับระทวยระทมด้วยตรมตรอม
	
	แม้นเหาะเหินเดินได้ในอากาศ
	มุ่งหมายมาดไขว่คว้ามาถนอม
	แนบเนื้อนุ่มพุ่มพวงดวงพะยอม
	จะไม่ยอมพรัดพรากไปจากกัน
		
                     เตือนตัวเองอย่าเอื้อมเด็ดดอกฟ้า
	ดวงตะวันจันทราเกินค่าฝัน
	หิ่งห้อยน้อยฤาจะแข่งแสงพระจันทร์
	ต้องนอนกลั้นน้ำตาอาลัยลาน
		
                     โศกกำสรดบทกลอนอ้อนสะอื้น
	เตือนใจตนจงตื่นฝืนฟุ้งซ่าน
	ถ้ายังฝืนขื่นขมอาจซมซาน
	ค่อยค่อยคลานมาตายแทบตักเธอ				
23 มกราคม 2549 16:34 น.

เก็บความเศร้าหวานจากวานวันมาเขียนกลอน

น้ำตาหมอก

อกหักรักร้าวหนาวสั่น
	รำพึงรำพันฝันผวา
	หัวใจไร้สุขทุกทิวา
	น้ำตาตกนองหมองตรม

		ขอบโค้งรุ้งรุ่งเรียวราวเคียวโค้ง
	ระยะโยงย่านไม้พระไทรร่ม
	รักเจ้าเอยลอยหายกับสายลม
	ฝนดอกไม้พร่างพรมลงร่มลาน

		รักเอยลอยไหลราวสายน้ำ
	ชื่นฉ่ำพรำใจแล้วแผ่วผ่าน
	เพรียกหาพาหวนเพื่อพบพาน
	แว่วหวานวารวัยยังไหวทรวง
		
		ลมรำเพยราวเพ้อละเมอถึง
	เธอผู้ซึ่งแสนรักและห่วงหวง
	ยามที่เธอชิงชังสิ้นทั้งปวง
	ราวชีพร่วงหล่นหายตายต่อตา

		โศกเศร้าเหงาเย็นเป็นนิจ
	ชีวิตว่างไร้ราวป่าช้า
	ฝังซากความรักหนักอุรา
	เย็นชาชืดชื้อขึ้นทุกที

		ง่ายง่ายเธอพร่ำคำสั้นสั้น
	เราเลิกกันจากกันเสียวันนี้
	ฉันยอมคุกเข่าขอคืนดี
	เธอสะบัดหน้าหนีไม่เหลียวแล				
18 มกราคม 2549 14:37 น.

บนเส้นทางของนักสู้

น้ำตาหมอก

ฉันจะจุดเปลวไฟในใจเธอ
	ให้ลุกไหม้อยู่เสมอไม่มอดหมอง
	ใช้เปลวไฟเผาน้ำตาที่ตกนอง
	แล้วมาเริ่มยุคทองของคนจน

		นั่นทะมึนภูผาปราการแกร่ง
	เราจะแข็งข้อหมัดงัดสักหน
	ผาถล่มล่มทลายประจักษ์ประจญ
	เราจะไม่ยอมทนจนตัวตาย

		ไม่มีมนต์ดลบันดาลผลาญขวากหนาม
	ไม่มีหรอกนิยามความง่ายง่าย
	ไม่มีเทพเทวดาดังนิยาย
	มีแต่กายกับใจฉกาจฉกรรจ์

		ก่อนตะวันผันผ่านโรยม่านฟ้า
	ความมืดทึบทึมทาเกินฝ่าฝัน
	เมื่อคราวหนาวพราวหมอกระลอกควัน
	คราวคิมหันต์หมอกหายกระจายวง

		สักวันนะสักวันความฝันใฝ่
	จะยืนยงยิ่งใหญ่ไม่เลือนหลง
	อุปสรรคสักแสนแม้นมั่นคง
	จะบั่นปลงลงเป็นผงธุลีคลี

		ฉันไม่ปล่อยมือเธอหรอกที่รัก
	ขอย้ำคำแน่นหนักไม่หน่ายหนี
	ขอต่อสู้ทางนักสู้คู่คนดี
	จนกว่าเพลงเสรีเริ่มบรรเลง				
16 มกราคม 2549 16:45 น.

ธีรยุทธ์กับทักษิณ

น้ำตาหมอก

สงสารท่านทักษิณโดนซะน่วม
	ปีใหม่นี้โดนนวมกระอ่วมกระอัก
	ธีรยุทธ์ฝ่ายแดงเข้าแย้งยัก
	ฝ่ายน้ำเงินงอหักเข้าพักมุม

		เลือดสวนลุมรายรุมตะลุมบอน
	เลือดของคนปะทุร้อนราวไฟสุม
	เมื่ออำนาจขาดอำนาจการควบคุม
	กิเลสร้ายกรายกุมเกินขัดเกลา

		นกขมิ้นทักษิณโบยบินโบก
	ไปดับโศกซับน้ำตาแห่งความเศร้า
	เมืองร้อยเอ็ดจงอร่ามทุกข์ทุเลา
	เรียลลิตี้ตามเต้าทุกเท้ารอย

		อีสานจงส่งแสงแรงเรืองโรจน์
	ที่เหือดแห้งหฤโหดความโฉดถ่อย
	จงพินาศขาดช่วงทะลวงทยอย
	ประโชติฉายพราวพรอยพร้อยนัยน์ตา

		ธีรยุทธ์นายกจงหยุดทัพ
	มาแก้กลับปรับเปลี่ยนปรับปัญหา
	จงร่วมแรงแห่งใจใช้ปัญญา
	จับมือกันฟันฝ่าสารพัน

		ประเทศไทยใช่ของใครคนเดียว
	ต้องข้องเกี่ยวบรรสานสิ่งซึ่งสร้างสรรค์
	จะฝ่ายค้านฝ่ายคล้อยรวมใจกัน
	ร่วมปลูกปั้นให้งามขวานทองไทย				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟน้ำตาหมอก
Lovings  น้ำตาหมอก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟน้ำตาหมอก
Lovings  น้ำตาหมอก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟน้ำตาหมอก
Lovings  น้ำตาหมอก เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงน้ำตาหมอก