30 มีนาคม 2547 00:46 น.

หัวใจไร้สาร

น้ำตาซาตาน

  ผมชอบบรรยากาศตอนกลางคืนของกรุงเทพฯ ยิ่งดึกเท่าไร หัวใจยิ่งสงบไปด้วย งานที่คั่งค้างเมื่อตอนกลางวันถูกสะสางเสร็จโดยเวลาไม่นานในตอนกลางคืน   แม้จะเป็นค่ำคืนที่ยากจะหาใครมาสนทนาปราศัยได้ถูกคอ เพราะคงไม่มีใครมานั่งปราศัยคุยแก้เหงาในคืนที่เปลี่ยวเปล่า ทุกคนต่างเหน็ดเหนื่อยกับหน้าที่การงานเมื่อตอนกลางวัน  .. แต่ผมไม่   ผมอยากให้กลางคืนมีมากกว่ากลางวัน  ..

           คอมพิวเตอร์ คือเพื่อนที่คอยอยู่กับผมแม้ในยามดึกดื่นค่ำคืน ผมรู้ว่ามันชักงอแงเวลาที่ผมชวนมันอยู่ดึก ๆ บางครั้งมันแกล้งหยุดไปเฉย ๆ ก็มี บางครั้งแกล้งแฮงค์ ค้างไม่ยอมพูดจา ..ผมต้องปิดมัน  แล้วเปิดขึ้นมาใหม่  มันคงรู้ตัวเองดีว่า คงขัดใจผมไม่ได้ เลยจำยอมต้องทนนั่งเป็นเพื่อนผมจนดึก ๆ ดื่น ๆ  ..

           วันหนึ่งขณะที่ผมทำงานตัวเองจนเสร็จ แต่ดูเวลาที่ข้างฝาพึ่งจะ 5 ทุ่มกว่า เอ๊ะ ..เสร็จไวกว่าทุกวัน  ..อย่ากระนั้นเลย ลองเล่นอินเตอร์เนทดูสิ  เขาว่าสนุกหนักหนา เวลาแชท  ..ลงโปรแกรมยอดฮิตไป ทั้ง msn , icq  ได้คุยกับคนหลายคน มากหน้าหลายตา  ทั้งนักศึกษา คนทำงาน ..แต่ไม่เห็นสนุกอย่างที่เค้าพูดกันเลย  ส่วนใหญ่ ก็จะมาถามว่า ชื่ออะไร? เรียนหรือทำงาน? อายุเท่าไร และสุดท้ายมีแฟนรึยัง?  ผมเบื่อกับคำถามเหล่านี้ เหมือนกับกำลังถูกสัมภาษณ์โดยใครก็ไม่รู้ ..

           จนในที่สุด ในคืนวันหนึ่ง หลังจากที่ผมออนไลน์ทิ้งไว้โดยนั่งอ่านกระทู้ต่าง ๆ ที่เยาวชนไทยสร้างสรรค์จรรโลงใจ ใช้เป็นที่ระบายด่าคนนู้นคนนี้อย่างสบายอุรา ..     อยู่ ๆ ก็มีคนแอดผมในmsn  .. 
" หวัดดีค่ะ  ว่างไหม ขอคุยด้วยได้ไหม" 
" อ้อ ว่างครับ"  ผมพิมพ์ตอบไปอย่างใจเย็น
"นอนดึกแบบนี้ประจำเหรอ"
"ครับ ..ผมชอบบรรยากาศกลางคืนของกทม."
"ญา ก็ชอบค่ะ มันเงียบดี" เธอแนะนำชื่อตัวเอง
             
                 และจากนั้นผมกับเธอก็คุยกันอย่างถูกคอ  เรามีอะไรหลาย ๆ อย่างที่คล้ายกัน เราต่างหนีความวุ่นวายจากสังคมมาสู่อีกสังคมที่ไม่วุ่นวาย แต่คล้ายจะวุ่นวาย  ... เราต่างแลกเบอร์โทรของกันและกัน โทรคุยกันจนในที่สุด เธอก็นัดเจอกัน ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จของนักแชททั่วไป ที่เมื่อคุย ต้องขอเบอร์โทร และนัดเจอกัน ซึ่งเมื่อเจอแล้ว ถ้าพอใจกัน ก็คบกันต่อไป ถ้าไม่พอใจ ก็วันนัดเจอนั้น ก็เป็นวันสุดท้ายของมิตรภาพในเนตนั่นเอง..

พันธ์ทิพย์คือจุดนัด ชั้นสองตรงร้านขายของกิน   ผมไปรอเธอก่อนเวลา 30 นาทีด้วยใจเต้นถี่ไม่เป็นท่า  ตั้งใจว่า ขอให้เธอกับคนในรูปที่ส่งมาให้ดูก่อนหน้านี้เป็นคนเดียวกันเถอะ ..ยังไม่ถึงเวลานัดหมาย ผมจึงเดินลัดเลาะหาดูของบนห้างใหญ่อย่างสบายใจ เผื่อเจอของถูกใจจะได้ซื้อหาไปเปลี่ยนให้คอมพิวเตอร์ที่บ้านบ้าง

ผมเข้าไปในร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แห่งหนึ่ง เพื่อฆ่าเวลาแห่งการรอคอย อีกใจหนึ่งหวังให้ความตื่นเต้นเบาบางลง  อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ถูกวางบนชั้นในตัวร้านอย่างมีระเบียบ บางชิ้นถูกนำไปวางบนโต๊ะโชว์ประหนึ่งเพชรราคาเรือนแสนที่ตั้งโชว์ในห้างดัง  อุปกรณ์เหล่านี้มันก็ดีไปทุกชิ้น เพียงแต่ว่าเราจะเอาชิ้นไหน รุ่นไหน ไปใช้ให้supportกับคอมพิวเตอร์ของเรามากที่สุด ถึงแม้ราคาจะสูงลิ่ว แต่ไม่ถูกรุ่นกับคอมพิวเตอร์แล้ว ประสิทธิภาพก็ไม่ได้ต่างจากอุปกรณ์ที่ราคาไม่กี่ตังค์ เหมือนกับผู้หญิง ทุกคนเค้าล้วนมีคุณค่าในตัวเหมือน ๆ กัน เพียงแต่เราสามารถเลือกผู้หญิงที่supportกับเราได้หรือไม่เท่านั้นเอง ถ้าเราสามารถเลือกคนที่supportกับเราได้มากที่สุด แม้เขาจะไม่สวยเลิศเลอเฟอเฟ็กต์  นั่นไม่ใช่เหตุผลสำคัญ ตรงกันข้ามถ้าเราได้คนที่ไม่support กับเรา ถึงแม้เขาจะสวย เริ่ด เซ็กซี่ น่ารัก หรือเกิดในตระกูลคนมั่งมีเพียงใด  ไม่นานอาการError ก็เกิดขึ้นอย่างแน่นอน และเมื่อนั้น แม้หน้าของกันละกันก็ไม่อยากจะมอง ..

ผมออกจากร้านโดยไม่ได้ซื้ออะไรติดมือมาเลย ไม่ใช่เพราะไม่มีเงิน แต่เพราะจุดประสงค์หลักของผมเพียงต้องการฆ่าเวลาแห่งการรอคอย และสิ่งที่ผมคิดว่าได้มากกว่าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในร้านนี้ คือความมั่นใจที่จะเจอเธอคนนั้น เธอคนในอินเตอร์เนต  ความตื่นเต้นมันมาพร้อมกับความหวังอันสูงลิ่ว  ผมหวังให้เธอเป็นอย่างที่ผมหวัง โดยลืมคิดถึงคืนวันที่ต่างได้แลกเปลี่ยนความคิด ความห่วงใยของกันและกันผ่านโปรแกรมแชท  ผมจะต้องแคร์อะไรกับหน้าตาของเขา ในเมื่อเราและเขาต่างเข้าใจกันดีในภาษาสนทนาโดยไม่มีหน้าตาบอกท่าทาง  

ผมกำลังจะถูกครอบงำโดยความคิดของคนสมัยใหม่ ความคิดที่การให้ความสำคัญแก่หัวใจถูกเขี่ยมาไว้เป็นอันดับที่สองรองจากหน้าตา   ไม่ใช่เพราะเลือกเพียงหน้าตาเหรอ ดารา หรือใครต่อใครหลาย ๆคู่ ต้องอยู่กันไม่ยืด เกิดอาการError หรือแฮงค์กันกลางคัน  ไม่ใช่เพราะเลือกเพียงหน้าตาเหรอ ผู้หญิงทั้งหลายต้องเข้าคิวทำแท้งกันไม่หยุดไม่หย่อน 

ผมทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ในร้านที่นัดหมาย เหลือบดูเวลาอีก 10 นาทีจะถึงเวลาที่เราได้นัดกันไว้  เธออาจจะมาก่อนเวลา แต่ยังไม่เข้ามา อาจจะอยู่ตรงไหนสักแห่งซึ่งสามารถมองเห็นผมได้  อาการของเธอคงไม่ต่างจากอาการของผมเมื่อ 30 นาทีก่อนหน้านี้  แต่ตอนนี้ผมไม่รู้สึกเช่นนั้นอีกแล้ว มีเพียงหัวใจที่บริสุทธิ์ที่รอคอยการมาพบกันของหัวใจอีกดวงที่มันคุ้นเคย โดยผ่านการสื่อสารแบบใจถึงใจ ไม่มีอาการเสแสร้งใดใดมาปนเป  นานแล้วที่หัวใจต้องเหนื่อยล้า เพราะเลือกเอาเพียงหน้าตาแต่ไม่เคยsupport กับใจดวงนี้สักที  ครั้งนี้อีกครั้ง จะเป็นอะไรไปเมื่อจะทดลองใจกับคนที่เราคิดว่าsupport  แม้จะเป็นคนที่ไม่เคยเห็น  แม้จะเป็นคนในอินเตอร์เนตก็ตาม .. 				
29 มีนาคม 2547 01:36 น.

สีนวล

น้ำตาซาตาน

สีนวล เป็นสุนัขพันธ์ไทยแท้หลังอาน  แต่หลังจากประสบเคราะห์กรรมถูกน้ำร้อนราดบนหลังเพียงเพราะมันไปเก็บกระดูกใต้ถุนบ้านเค้ามาแทะ  จากหลังอานสีเทา กลายเป็นหลังเหวอะหวะเน่า กว่าจะเหยียวยาให้หายได้ก็ใช้เวลาหลายเดือน  จากที่เคยเป็นสีนวลพันธ์เพศเมียที่สุนัขต่างคลั่งไคล้ทั่วซอย ต้องกลับเดินต่ำต้อยอยู่ตัวเดียว หนำซ้ำเจ้าของสีนวลซึ่งมีบ้านใหญ่โตโก้หรู เคยจูงสีนวลเดินไปในตลาด ต่างมีคนชมไม่ขาดปากว่าน่ารักอย่างโน้น น่ารักอย่างนี้ ถ้ามีลูกขอมาเลี้ยงสักตัว หรือถึงกับขอซื้อมาเลี้ยงก็มี แต่มาบัดนี้ประตูบ้านหลังนั้นถูกปิดแน่นไม่ต้อนรับสีนวลเหมือนอย่างเคย สีนวลเดินวนไปวนมาอยู่หน้าบ้านอยู่2-3อาทิตย์ แต่นั่นก็ไม่อาจทำให้เจ้าของบ้านใจอ่อนเปิดประตูรับสีนวลได้ ใช่สิ บัดนี้สีนวลไม่สวยเหมือนเดิมแล้วนี่ ขนหายเกือบหมดทั้งตัว หัวก็อัปลักษณ์ ..
          สีนวลเดินจากบ้านด้วยความเศร้าใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา บรรยากาศของกทม.ในยามค่ำคืนไม่เหมาะอย่างยิ่งที่สตรีเพศอย่างสีนวลต้องมาเดินอยู่เพียงลำพังอย่างนี้  แต่บัดนี้สีนวลต้องมาเดินลำพังอย่างเลี่ยงไม่ได้ เคราะห์กรรมยังไม่สิ้น ขณะที่เดินเตร่กลางตลาดอยู่นั้น สุนัขอันธพาล 4-5 ก็ปรากฏขึ้นข้างหน้า เธอตกใจจนขาสั่น แต่ก็ยังมั่นสติไว้ หันกลับหลังอย่างฉับไว ก่อนตั้งใจจะวิ่งสุดชีวิต ..แต่พระเจ้าช่วย !
          ด้านหลังมีสุนัขแก็งค์เดียวกันอีก 2-3 ตัว แต่ละตัวไม่ต้องบอกก็รู้ถึงความเหี้ยมโหด แววตาทีบ่งถึงความหื่นกาม และรอยแผลเป็นที่หัวบอกประสบการณ์ในอดีตเป็นอย่างดี พวกมัน  มันสุนัขจรจัดอันธพาลขนานแท้..

          ค่ำคืนอันโหดร้ายผ่านไปอย่างเจ็บช้ำ พวกสุนัขอันธพาลจากไปโดยทิ้งความโหดร้ายไว้กับสีนวล เธอร้องไห้กระซิกท่ามกลางสายฝนที่หล่นมาในยามค่ำคืน ..ก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้นในยามเช้า ก่อนที่ผู้คนในตลาดจะจอแจจ๊อกแจ๊ก ก่อนที่ใครต่อใครจะพากันไล่เธออย่างไม่ใยดี ก่อนที่เทศบาลจะไล่จับเอาไป หรือ ก่อนที่อะไรต่อมิอะไรหลาย ๆ อย่างจะมาในเวลาเช้า   สีนวลจึงรีบพาร่างอันเปลือยเปล่าของเธอวิ่งข้ามถนนโดยไม่ทันสังเกตรถบนถนน ..

          ร่างของสีนวลลอยละล่องอยู่บนอากาศ โดยไร้จากสติรับรุ้เวทนา ก่อนที่จะร่วงลงมากระทบบนพื้นถนนคอนกรีตอย่างแรง เลือดสด ๆ ไหลออกจากปาก และหูทั้งสองข้าง 
          เจ้าของรถคันโก้ จอดรถกระทันรีบลงจากรถอย่างเร่งรีบ .."แย่แน่เลยๆ ๆ " เขาเดินตรงมายังสีนวล แล้วใช้ขาเขี่ยสีนวลออกไปให้พ้นทางรถ ก่อนจะใช้มือสองข้างลูบคำรถ และบ่นพึมพำว่า  " ..ยังไม่ถึงเดือนแท้ๆ เลย ดูสิ เป็นรอยเลย เพราะหมาจรจัดข้างถนนแท้ๆ "
          
          รุ่งเช้า ..
          ผู้คนวอแวจอแจจ๊อกแจ๊ก เต็มตลาดสด  ชายกับหญิงวัยกลางคนคู่หนึ่งวิ่งมาด้วยความตื่นเต้น แวกผู้คนที่กำลังมุงดูศพสีนวลอย่างสมเพช 
          "ใช่ไหม ๆ ใช่สีนวลไหม?" หญิงคนนั้นถามด้วยเสียงสั่น
          "ใช่สีนวลจริง ๆ ด้วย ทำไมถึงโชคร้ายอย่างนี้นะ สีนวล" 
          "กลับบ้านที่ตจว.2-3 อาทิตย์ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายกับสีนวลขนาดนี้" ฝ่ายชายกล่าวบ้าง

          ถ้าวิญญาณสีนวลยังวนเวียนอยู่แถวนั้น เธอคงยิ้มได้บ้าง เพราะอย่างน้อยเธอก็ไม่ได้ถูกทอดทิ้งอย่างที่คิด  
เธอยังมีเจ้าของที่ยังห่วงใย  เธอไม่โดดเดี่ยวเดียวดาย  				
25 มีนาคม 2547 13:47 น.

มุมห้องของสิ่งมีชีวิต

น้ำตาซาตาน

นานเท่าไรแล้วที่ผมไม่ได้เจอหน้าผู้บังเกิดเกล้าทั้งสอง ญาติพี่น้อง และผองเพื่อน นับตั้งแต่จำความได้ท่ามกลางความซิวิไลซ์ของเมืองหลวง พ่อแม่ และพี่ ๆ ต่างต้องการความมั่งมีไม่รู้จักพอ ทุกคนต่างหวังที่จะมีให้ได้มากที่สุด ขณะที่ผมหวังเพียงแค่วันนี้มีก็พอ ..
          ผมถูกมองว่าเป็นตัวทำให้ตระกูลต้องพินาศ เพียงเพราะผมรู้จักพอ ผมไม่เข้าใจ ทำไมสิ่งที่ผมพอคนอื่นถึงบอกว่ายังไม่พอ  พี่แต่ละคนมักทำสีหน้าดั่งตัวอิจฉาในละครหลังข่าว บางทีก็ทำหน้าเศร้าเหมือนละครน้ำเน่าในสภา พอออกมาก็เฮฮากันเหมือนเดิม ..
          เมื่อถึงเวลาแบ่งสมบัติ แน่นอน ความยุติธรรมอาจจะมีอยู่ในโลก อาจจะมีอยู่ในประเทศเรานี้ แต่ไม่ใช่ในครอบครัวผม   ผมไม่อยากให้สมบัติซึ่งเป็นของนอกกายต้องเป็นเหตุชนวนร้ายให้พี่น้องต้องตายไปจากกัน เมื่อให้อะไร เท่าไร ก็ก้มรับไปอย่างไม่ใยดี  ถือคติที่ว่า ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ..พี่ ๆ ทุกคนได้สมบัติกันเท่า ๆกัน ส่วนผมนั้นได้เพียงสิ่งเดียว ที่แม้นั่งคิดนอนคิด พินิจพิจารณาอย่างไรก็ยังไม่เห็นว่ามันมีราคาค่างวดอะไรมากไปกว่า  ..ห้องเก่า ๆ ห้องหนึ่ง ..!!
          แล้วผมก็ได้รู้ว่า ห้องเก่า ๆ ห้องหนึ่งของผมนี้แม้ไม่มีราคาค่างวดที่แพงมากมายถ้าเทียบกับของพี่ ๆ แต่ผมก็ค้นพบความสุนทรีย์ในตัวของมัน เมื่อวันหนึ่ง ขณะที่ผมนอนนิ่งในมุมห้อง มีเพียงลมหายใจเท่านั้นที่บอกว่าผมยังมีชีวิตอยู่ ..พลันแสงจากภายนอกก็สาดส่องเข้ามา ก่อนจะมีเงาของสิ่งมีชีวิตเยื้องกรายบุกรุกเข้ามาภายใน ผมยังคงไม่ขยับตัว คอยสังเกตการณ์ต่อไปอย่างเงียบ ๆ และแล้วประตูก็ถูกปิดลง ..ความมืดมาเยือนอีกครั้ง ..แต่ไม่นานความสว่างจากแสงไฟก็ฉายขึ้น ..   ไฟบนเพดานถูกเปิดขึ้นโดยผู้บุกรุกผู้นั้น ..!!
                    ผมเห็นเธออย่างชัดเจน  ..แต่เธอหาได้มองเห็นผมไม่ คงเป็นเพราะผมอยู่มุมห้องที่ยากต่อการสังเกต  เธอจัดว่าเป็นผู้หญิงที่สวยอยู่ทีเดียว ผิวขาว  ผมยาว  ตาโต แก้มสีชมพูซึ่งถูกพอกให้ขาวด้วยครีมยี่ห้อดัง เธอหยิบหยิบสิ่งหนึ่งออกมาจากตะกร้า แล้วป้ายยาสีขาวลงบนแปรงอันนั้น ก่อนที่จะยัดเข้าปากเพื่อถูฟัน ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ก็อดตกใจไม่ได้ เมื่อเห็นมีฟองออกจากปากเธอ  ..แต่เธอก็หาได้ร้องทุรนทุรายดั่งคนที่ทำร้ายตัวเองด้วยการกินยาพิษไม่ แล้วสิ่งที่ผมไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ..
                    เธอค่อย ๆ แกะผ้าถุงซึ่งนุ่งกระโจมอก เผยให้เห็นสัดส่วนบนเรือนร่างได้อย่างถนัดตา  น้ำในตุ่มถูกเธอตักขึ้นมาแล้วราดบนเรือนร่างเบา ๆ จากขันแรกเป็นขันที่ 2 ที่ 3 ที่ 4  ที่ 5 ตามลำดับ จนร่างเธอเปียกโชก ผมอดหนาวแทนเธอไม่ได้จนขนลุกซู่ ..แล้วเธอก็ค่อย ๆ บีบอะไรบางอย่างซึ่งบรรจุอยู่ในขวดพลาสติกแบน ๆ มันเป็นของเหลวสีขาว เธอใช้มันไล้ทาทั่วเรือนร่างอันขาวจนมันเกิดฟอง ทุกซอก ทุกมุมที่เธอลูบไล้ มันรันจวนใจของผมยิ่งนัก .. เมื่อเธอลูบไล้จนทั่วตัวจนหนำใจแล้ว เธอก็จ้วงน้ำตักราดตัวเองอีกครั้ง ..ก่อนที่จะใช้ผ้าเช็ดตัวให้แห้ง แล้วปิดไฟก้าวออกไปจากห้องแคบ ๆ นี้ ..
          ความมืดเข้ามาเยือนอีกครั้ง แต่ในใจผมเป็นดุจดั่งเปิดไฟไสวแสงจ้า ..ในเมื่อภาพเมื่อสักครู่ยังคงติดตาติดใจผมไปอีกนาน ..ผมยังนึกดีใจไม่หายเลยที่พ่อแม่ยกห้องนี้ให้ผม ถ้าพี่ ๆ รู้ว่าห้องนี้มีดีอย่างนี้เค้าจะยังอยากมีอยากได้อะไรแพงๆ อีกไม๊น๊า ..?!?

          พรุ่งนี้หรือวันต่อๆ ไป ผมก็คงจะยังได้ดูเธอต่อโดยไม่รู้จักเบื่อ บางวันก็มีคนอื่นเข้ามาบ้าง ซึ่งนั่นก็เป็นผลพลอยได้ แต่ที่ไม่เข้าใจถึงทุกวันนี้ก็คือ ..ทำไม เวลาผมร้องทักทายเพื่อหวังให้เธอได้เห็นผมบ้าง  มักได้คำตอบว่า 

           เฮ้อ ..วันนี้ดวงซวยแน่ ๆ เลย โดนจิ้งจกในห้องน้ำทัก ..				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟน้ำตาซาตาน
Lovings  น้ำตาซาตาน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟน้ำตาซาตาน
Lovings  น้ำตาซาตาน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟน้ำตาซาตาน
Lovings  น้ำตาซาตาน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงน้ำตาซาตาน