31 มีนาคม 2547 23:47 น.

ถึง..เวลา

น้ำตาซาตาน


เสียงสะอื้นร่ำไห้หัวใจหวั่น
ทุกคืนวันยินเสียงไม่ขาดสาย
เป็นเสียงร้องร่ำไห้ดั่งใจวาย
เธอเป็นใครใยร่ำไห้ทุกค่ำคืน!?!

มิอาจทนกังขาให้ข้องจิต
จึงออกติดตามเสียงเพียงนึกฝืน
แม้กลัวข่มกลัวไว้ในค่ำคืน
อิงแอบยืนมองดูเพื่อรู้ความ
สาวน้อยชุดขาวผมยาวสยาย
นั่งร้องไห้ข้างบันไดใคร่ไต่ถาม
จ้องมองดูใคร่รู้ในเนื้อความ
ก่อนเอ่ยถาม เธอจ๋า..เป็นอะไร

เธอเงยหน้าแหงนดูผู้มาเยือน
ดวงตาเปื้อนน้ำตาที่เอ่อไหล
ยิ่งมองดูยิ่งเกิดความอาลัย
ใครหนอใครทำร้ายได้ลงคอ
มิทันได้เอ่ยตอบข้อสอบถาม
เธอคนงามไม่พล่ามให้ใจท้อ
เดินดิ่งหายภายในบ้านไม่รีรอ
สุดจะขอร้องต่อให้กลับมา

ความเงียบงันพลันเข้ากระเซ้าให้
ไม่มีใครหวิวใจสุดไขว่คว้า
เสียงโหยหวนเห่าหอนตะลอนมา
ขนแข้งขาชูชันสั่นทั้งตัว
จึงเหลือบมองจ้องไปภายในบ้าน
ได้พบพานเธอนั้นนั่งโผล่หัว
หน้าหมองคล้ำผมเผ้ายาวสลัว
ที่ข้างตัวมีใครอีกหลายคน

เอะใจใครเหล่านั้นช่างคุ้นหน้า
นั่นคุณน้า คุณป้า และตาสน
หญิงผมยาวที่นั่งเศร้าอีกคน
คือฤมลแฟนเราที่เฝ้าจอง
คิดขยับเข้าไปภายในบ้าน
ให้สะท้านจิตใจในเจ้าของ
ไม่ทราบใครจับไว้ได้แต่ป้อง
จนเสียงร้องมิอาจเอื้อนแต่อย่างใด

ชายร่างใหญ่ฉุดไปอย่างผลุนผลัน
ในมือนั้นมัดนิ่งไม่ติงไหว
จึงร้องถามหมายความว่ากระไร
เหตุไฉนจับเราไปไหนบอกที

.................................................

ยอมย่างเท้าก้าวไปด้วยใจเศร้า
สุดปวดร้าวเขาเล่าอย่างถ้วนถี่
เจ้าตายแล้วครบสามวันพอดี
ในบัญชีบอกเล่าเจ้าต้องไป				
30 มีนาคม 2547 01:18 น.

กำพร้า

น้ำตาซาตาน

พ่อนั่งบนโซฟา.......ถัดนั้นมาเป็นแม่ผม
พี่สาวนั่งตัวกลม.......สีแดงผมของพี่ชาย

พ่อชอบสอนผมว่า.......จะไปมาให้กราบไหว้
จะเป็นพ่อหรือพี่ชาย.......ก็ต้องไหว้ทุกๆคน
แล้วยังสอนอีกว่า.......โตขึ้นมาอย่าซุกซน
พ่อแม่และทุกคน.......หวังตนเป็นคนดี
อนาคตในข้างหน้า.......ต้องสง่าเป็นราศี
เป็นหมอให้พ่อที.......ให้สมที่พ่อตั้งใจ

ฝ่ายแม่ไม่น้อยหน้า.......สั่งสอนมาผมรับไว้
แกสอนจนขึ้นใจ.......ขอสะใภ้ให้แม่ดีดี
ต้องเป็นหญิงสวยสง่า.......หน้าตาต้องเข้าที
ถ้าเป็นลูกคนมั่งมี.......อย่ารอรีรีบคว้าไว
จะคบใครให้ดูหน้า.......อย่าสร้างปัญหาให้วุ่นวาย
สิ่งไม่ดีอย่ากล้ำกลาย.......ในบั้นปลายจะทุกข์ทน

เสียงท่านยังแว่วก้อง.......ดั่งเสียงร้องมาปะปน
ตอนนี้ไม่เหลือสักคน.......ติดตามผลที่ตั้งใจ
ผมอยู่บ้านสงเคราะห์.......ประจวบเหมาะเขารับไว้
ด้วยเกิดเหตุมีเภทภัย.......ไม่เหลือใคร ไม่เหลือเลย.				
29 มีนาคม 2547 02:44 น.

แบดบอย

น้ำตาซาตาน

ดึกดื่นค่ำคืนนี้...........จะมีใครบ้างไหม
นั่งเดี่ยวอยู่เดียวดาย.......คนปลอบใจไม่มี
ก้าวเดินไปผิดท่า......น่าเวทนาชีวิตนี้
จะถอยกลับก็ไม่ดี........ไม่มีใครเห็นใจ

ผิดหวังอย่างไร้กาจ.....เลยบังอาจฉลาดไป
ตัดสินเรื่องร้ายร้าย.......ด้วยหัวใจอันอัปรีย์
ริอาจลองเสพดู.......ทั้งๆที่รู้ไม่สู้ดี
แต่หัวใจใฝ่ราคี.........อยากหลีกหนีความตรอมตรม

ปัญหาสารพัน........เธอคนนั้นทำฉันขม
อีกทางบ้านนั้นอาจม......ดั่งเรือล่มจมใบ
พ่อกับแม่มาแยกทาง....เกิดบาดหมางสิ้นสงสัย
ไม่มีใครยอมใคร ......ผลสุดท้ายแยกทางเดิน

บอกตัวเองทุกค่ำเช้า......อันตัวเราเขาส่วนเกิน
จะไปไหนแม้หกเหิน.........ก็เหมือนเดินตัวคนเดียว
จะไม่ยอมมีปัญหา..........เรามีปัญญาปราดเปรียว
ไม่ข้องแวะแล้วจริงเชียว.......แต่หมดเรี่ยวจะต้านทาน

เป็นทาสของยาร้าย.........ไม่เท่าไรใจหักหาญ
แต่สังคมส่อประจาน..........ยากทัดทานกว่าสิ่งใด
คนโน้นก็ด่าว่า........คนนี้มาก็ขับไล่
ลูกหลานเขาไว้ไกล.........ไม่ให้ใกล้ไอ้อันธพาล

ร้องไห้บอกไปทั่ว........ผมเคยชั่วทั่วถิ่นฐาน
แต่ตอนนี้ไม่มีพาล..........อย่าทัดทานสงสารที
หวนคืนสู่ยาร้าย..........ด้วยจำใจไม่ได้ดี
เป็นคนดีไม่ได้สักที..........ขออัปรีย์ สุดสุดเลย				
27 มีนาคม 2547 20:23 น.

ในห้องนั้น

น้ำตาซาตาน

ห้องสี่เหลี่ยมแคบแคบกลิ่นคุกรุ่น
มีไออุ่นเย็นเย็นเป็นน้ำไหว
ไม่รับรู้เรื่องราวที่เศร้าใจ
ทิ้งตัวไว้ไม่ใส่ใจทุกเรื่องราว

หลบปัญหาผู้คนไม่สนใจ
หลบหน้าใครที่ให้ใจปวดร้าว
หลบสังคมที่เปรี้ยวขมบรมเน่า
หลบจากข่าวเศร้าเศร้าเคล้าน้ำตา
เบื่อคนโน้นด่าคนนี้พิรี้ร่ำ
เบื่อน้ำคำสวยหรูดูไร้ค่า
เบื่อสอสอสอพลอส่อมารยา
เบื่อรถราปัญหามานานปี
 
ในห้องแคบแยบยลคนไม่เห็น
เป็นดังเช่นสวรรค์ชั้นฉิมพลี
ระดาดาษจิตกรรมทำหลากสี
มากมายมีหมู่หนังสือคือวิชา
บนชั้นแรกแยกไว้วาไรตี้
ชั้นสองมีหนังสือนอกเวลา
ชั้นสามหนังสือธรรมค้ำปัญหา
ชั้นสี่มีตำรายาวิชัย

มีเพลงเบาเคล้าใจเหมือนในฝัน
ยินเสียงนั้นเหมือนดั่งเสียงน้ำไหล
หยิบกีตาร์บรรเลงเพลงไม่เกรงใจ
ทั้งเพลงไทยเพลงฝรั่งชั่งเข้าที

นั่งนานมาถึงเวลาต้องไปล่ะ
หยิบกระดาษชำระมาเช็ดสี
จะจากไปอย่างนี้ไม่เข้าที
ก่อนจะปรี่ดูดีดี เทน้ำรึยัง?				
25 มีนาคม 2547 21:29 น.

ไร้..น้ำใจ

น้ำตาซาตาน

รถราไม่ไหวติง..................ทุกสิ่งหยุดเคลื่อนไหว
แดดเดือดเลือดในกาย..................แทบไหลรวยระริน
ไฟแดงยังเจิดจ้า..................รถราดุจท่าหิน
เปรี้ยงปร้างดังย่างกิน..................ปฐพินดังลุกไฟ

เหงื่อไหลจนชุ่มตัว..................ยันหัวจนจรดท้าย
รถติดดังรถไฟ..................คนในเริ่มบ่นบาน
รถเมล์คันสีเขียว..................ปราดเปรียวเคยขับขาน
วันนี้ติดยาวนาน..................สงสารคนข้างใน
ยืนนั่งชั่งอึดอัด..................โน่นขัดนี่ก็ไข
ดั่งถูกจองจำใน..................กระทะไฟในโลกันต์

เด็กน้อยเริ่มงอแง..................ส่วนแม่แกผลุนผลัน
เป็นลมล้มลงพลัน..................ไม่ทันได้ตั้งตัว
แกอุ้มลูกยืนโหนราว..................ร่างเบาจนปวดหัว
วิงเวียนจนเจียนตัว..................ตามัวล้มพับไป
น้ำใจบนรถเมล์..................หันเหไม่เห็นให้
มืดมิดมิเป็นใจ..................สังคมไทยไร้น้ำยา

สักครู่ชายหนุ่มหนึ่ง..................อายุพึ่งสิบสี่-สิบห้า
ยืนขึ้นเดินเข้ามา..................พยุงป้าให้นั่งแทน
ทุกคนบนรถเมล์..................ร้องเฮไม่หวงแหน
ชื่นชมชายมาดแมน..................สุดแสนประเสริฐจริง
ชายหนุ่มไม่พูดจา..................แต่สีหน้านั้นเงียบนิ่ง
แบมือต่อหน้าหญิง..................ขอสิ่งค่าตอบแทน					 
ทุกคนบนรถเมล์..................เคยเฮให้คะแนน
เปลี่ยนเป็นนินทาแทน..................มาดแมนแม้นผิดตา

น้ำใจที่ไทยมี..................บัดนี้ยากหนักหนา
โดยเฉพาะบนรถรา.................. ยิ่งหายิ่งยากฝืน
หรือจะรอให้เขาให้..................จึงได้ให้เขาคืน
ต่างคนทนกล้ำกลืน..................มิหยิบยื่น.. ไร้น้ำใจ
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟน้ำตาซาตาน
Lovings  น้ำตาซาตาน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟน้ำตาซาตาน
Lovings  น้ำตาซาตาน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟน้ำตาซาตาน
Lovings  น้ำตาซาตาน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงน้ำตาซาตาน