3 เมษายน 2547 01:29 น.

ดาวคนละดวง

น้ำตาซาตาน

ตากับยาย   อยู่อาศัย   ที่ชายเขา
ปลูกผักเนา*  ในป่า   แสนสุขใส
มีชีวิต   ติดดิน   พอกินใช้
เลี้ยงแม่ไก่   อาศัย   เก็บไข่กิน

มาวันหนึ่ง   พระธุดงค์   ท่านทรงกลด
เดินเลี้ยวลด   ปักกลด   ข้างโขดหิน
ธุดงค์ดั้น   ก่อนตะวัน   นั้นตกดิน
หวังได้บิณฑ์   อาศัย   ยายกับตา

สองตายาย   ตื่นเต้น   พบเห็นพระ
มีมานะ   ปสาทะ   แลศรัทธา
มุ่งบุญใหญ่   ใฝ่ใจ   พระศาสนา
คิดหุงหา   ข้าวปลา   ถวายพระธุดงค์
ผักที่ปลุก   ถูกแดด   นั้นแผดเผา
ล้วนเหี่ยวเฉา   เน่าตาย   กลายเป็นผง
เหลือแม่ไก่   ลูกติด   คิดแล้วปลง
จำต้องส่ง   ลงหม้อ  พอทำบุญ

ฝ่ายแม่ไก่   ได้ยิน   สองยายตา
คิดสนองเจตนา   ทดแทนคุณ
น้ำตาไหล   เรียกลูก   มากกหนุน
แจ้งข่าวบุญ   เจตนา   กล่าวลาตาย
ว่าลูกเอย   เจ้าเคย   อยู่กับแม่
นับตั้งแต่   ตัวแม่   ฝักเป็นไข่
ต่อแต่นี้   พรุ่งนี้   เป็นต้นไป
แม่ต้องตาย   ให้ตายาย   นั้นแกงกิน

ฝ่ายลูกไก่   ทั้งหมด   มีเจ็ดตัว
ตามืดมัว   เมื่อแม่   จะแดดิ้น
จะอยู่ใย   ไร้แม่   ดุจแพภินน์*
จึงทั้งสิ้น   กระโดดลง   เข้าดงไฟ

อานิสงส์   ข้อนี้   ที่ชี้ชัด
เป็นเครื่องวัด   กตัญญู   คู่ลูกไก่
หลังกระโดด   ตามแม่   เข้ากองไฟ
จึงเป็นดาว   ลูกไก่   บนท้องฟ้า

ถ้าความดี   คนดี   ที่ทำไว้
หลังจากตาย   กลับกลาย   เป็นดารา*
หวังทุกคน   สร้างกุศล   คนละครา
บนท้องฟ้า   คงแพรวพราว   ดาวคนละดวง

*เนา ภาษาขอม แปลว่าอยู่
* ภินน์ ภาษาบาลี แปลว่าแตก
* ดารา ภาษาบาลี แปลว่าดาว				
2 เมษายน 2547 14:31 น.

บทเรียนสุดท้าย

น้ำตาซาตาน

เขาคือชาย....ผู้ชาย....ที่แสนดี
หยิบโน่นที....นี่ที....เขายื่นให้
เอาใจเก่ง....ร้องเพลง....เอาอกใจ
มีเท่าไร....เขาให้....ฉันเปรมปรีด์

คนโน่นถาม....คนนี้....เซ้าซี้ให้
เขาเป็นใคร....ไหนไหน....ช่วยบอกที
จากคบหา....กันมา....ก็แรมปี
ฉันยินดี....บอกไป....เขาใช่เลย

ฉันรักเขา....เขาเล่า....ก็รักฉัน
ถึงวันนั้น....เขากล่าว....เราเฉลย
เรารักกัน....ผ่านวัน....ก็ล่วงเลย
เขาจึงเอ่ย....ขอสาว....เรายินดี

นึกถึงแม่....เคยกล่าว....เฝ้าตักเตือน
อย่าแชเชือน....ปล่อยใจ....ใฝ่ผิดที่
คิดเข้าข้าง....ตัวเอง....เกรงไม่ดี
คงไม่มี....ใครรู้....อยู่สองคน

วันเวลา....ล่วงเลย....เขาเคยดี
มาบัดนี้....เปลี่ยนไป....ในบัดดล
เขามีใหม่....กับใคร....ใครอีกคน
ฉันทุกข์ทน....ร่ำไห้....เขาไม่แคร์

ไม่นานมา....ยินว่า....เขาเสียชีวิต
ไม่คาดคิด....ฉันเอง....สุดท้อแท้
โรคเอดส์ร้าย....กลายกล้ำ....ทำสิ้นแด
เชื้อร้ายแพร่....ถึงฉัน....มันเลวจริง !
				
1 เมษายน 2547 22:27 น.

ถึง..เวลา

น้ำตาซาตาน


เสียงสะอื้นร่ำไห้หัวใจหวั่น
ทุกคืนวันยินเสียงไม่ขาดสาย
เป็นเสียงร้องร่ำไห้ดั่งใจวาย
เธอเป็นใครใยร่ำไห้ทุกค่ำคืน!?!

มิอาจทนกังขาให้ข้องจิต
จึงออกติดตามเสียงเพียงนึกฝืน
แม้กลัวข่มกลัวไว้ในค่ำคืน
อิงแอบยืนมองดูเพื่อรู้ความ
สาวน้อยชุดขาวผมยาวสยาย
นั่งร้องไห้ข้างบันไดใคร่ไต่ถาม
จ้องมองดูใคร่รู้ในเนื้อความ
ก่อนเอ่ยถาม เธอจ๋า..เป็นอะไร

เธอเงยหน้าแหงนดูผู้มาเยือน
ดวงตาเปื้อนน้ำตาที่เอ่อไหล
ยิ่งมองดูยิ่งเกิดความอาลัย
ใครหนอใครทำร้ายได้ลงคอ
มิทันได้เอ่ยตอบข้อสอบถาม
เธอคนงามไม่พล่ามให้ใจท้อ
เดินดิ่งหายภายในบ้านไม่รีรอ
สุดจะขอร้องต่อให้กลับมา

ความเงียบงันพลันเข้ากระเซ้าให้
ไม่มีใครหวิวใจสุดไขว่คว้า
เสียงโหยหวนเห่าหอนตะลอนมา
ขนแข้งขาชูชันสั่นทั้งตัว
จึงเหลือบมองจ้องไปภายในบ้าน
ได้พบพานเธอนั้นนั่งโผล่หัว
หน้าหมองคล้ำผมเผ้ายาวสลัว
ที่ข้างตัวมีใครอีกหลายคน

เอะใจใครเหล่านั้นช่างคุ้นหน้า
นั่นคุณน้า คุณป้า และตาสน
หญิงผมยาวที่นั่งเศร้าอีกคน
คือฤมลแฟนเราที่เฝ้าจอง
คิดขยับเข้าไปภายในบ้าน
ให้สะท้านจิตใจในเจ้าของ
ไม่ทราบใครจับไว้ได้แต่ป้อง
จนเสียงร้องมิอาจเอื้อนแต่อย่างใด

ชายร่างใหญ่ฉุดไปอย่างผลุนผลัน
ในมือนั้นมัดนิ่งไม่ติงไหว
จึงร้องถามหมายความว่ากระไร
เหตุไฉนจับเราไปไหนบอกที

.................................................

ยอมย่างเท้าก้าวไปด้วยใจเศร้า
สุดปวดร้าวเขาเล่าอย่างถ้วนถี่
เจ้าตายแล้วครบสามวันพอดี
ในบัญชีบอกเล่าเจ้าต้องไป				
31 มีนาคม 2547 23:47 น.

ถึง..เวลา

น้ำตาซาตาน


เสียงสะอื้นร่ำไห้หัวใจหวั่น
ทุกคืนวันยินเสียงไม่ขาดสาย
เป็นเสียงร้องร่ำไห้ดั่งใจวาย
เธอเป็นใครใยร่ำไห้ทุกค่ำคืน!?!

มิอาจทนกังขาให้ข้องจิต
จึงออกติดตามเสียงเพียงนึกฝืน
แม้กลัวข่มกลัวไว้ในค่ำคืน
อิงแอบยืนมองดูเพื่อรู้ความ
สาวน้อยชุดขาวผมยาวสยาย
นั่งร้องไห้ข้างบันไดใคร่ไต่ถาม
จ้องมองดูใคร่รู้ในเนื้อความ
ก่อนเอ่ยถาม เธอจ๋า..เป็นอะไร

เธอเงยหน้าแหงนดูผู้มาเยือน
ดวงตาเปื้อนน้ำตาที่เอ่อไหล
ยิ่งมองดูยิ่งเกิดความอาลัย
ใครหนอใครทำร้ายได้ลงคอ
มิทันได้เอ่ยตอบข้อสอบถาม
เธอคนงามไม่พล่ามให้ใจท้อ
เดินดิ่งหายภายในบ้านไม่รีรอ
สุดจะขอร้องต่อให้กลับมา

ความเงียบงันพลันเข้ากระเซ้าให้
ไม่มีใครหวิวใจสุดไขว่คว้า
เสียงโหยหวนเห่าหอนตะลอนมา
ขนแข้งขาชูชันสั่นทั้งตัว
จึงเหลือบมองจ้องไปภายในบ้าน
ได้พบพานเธอนั้นนั่งโผล่หัว
หน้าหมองคล้ำผมเผ้ายาวสลัว
ที่ข้างตัวมีใครอีกหลายคน

เอะใจใครเหล่านั้นช่างคุ้นหน้า
นั่นคุณน้า คุณป้า และตาสน
หญิงผมยาวที่นั่งเศร้าอีกคน
คือฤมลแฟนเราที่เฝ้าจอง
คิดขยับเข้าไปภายในบ้าน
ให้สะท้านจิตใจในเจ้าของ
ไม่ทราบใครจับไว้ได้แต่ป้อง
จนเสียงร้องมิอาจเอื้อนแต่อย่างใด

ชายร่างใหญ่ฉุดไปอย่างผลุนผลัน
ในมือนั้นมัดนิ่งไม่ติงไหว
จึงร้องถามหมายความว่ากระไร
เหตุไฉนจับเราไปไหนบอกที

.................................................

ยอมย่างเท้าก้าวไปด้วยใจเศร้า
สุดปวดร้าวเขาเล่าอย่างถ้วนถี่
เจ้าตายแล้วครบสามวันพอดี
ในบัญชีบอกเล่าเจ้าต้องไป				
30 มีนาคม 2547 01:18 น.

กำพร้า

น้ำตาซาตาน

พ่อนั่งบนโซฟา.......ถัดนั้นมาเป็นแม่ผม
พี่สาวนั่งตัวกลม.......สีแดงผมของพี่ชาย

พ่อชอบสอนผมว่า.......จะไปมาให้กราบไหว้
จะเป็นพ่อหรือพี่ชาย.......ก็ต้องไหว้ทุกๆคน
แล้วยังสอนอีกว่า.......โตขึ้นมาอย่าซุกซน
พ่อแม่และทุกคน.......หวังตนเป็นคนดี
อนาคตในข้างหน้า.......ต้องสง่าเป็นราศี
เป็นหมอให้พ่อที.......ให้สมที่พ่อตั้งใจ

ฝ่ายแม่ไม่น้อยหน้า.......สั่งสอนมาผมรับไว้
แกสอนจนขึ้นใจ.......ขอสะใภ้ให้แม่ดีดี
ต้องเป็นหญิงสวยสง่า.......หน้าตาต้องเข้าที
ถ้าเป็นลูกคนมั่งมี.......อย่ารอรีรีบคว้าไว
จะคบใครให้ดูหน้า.......อย่าสร้างปัญหาให้วุ่นวาย
สิ่งไม่ดีอย่ากล้ำกลาย.......ในบั้นปลายจะทุกข์ทน

เสียงท่านยังแว่วก้อง.......ดั่งเสียงร้องมาปะปน
ตอนนี้ไม่เหลือสักคน.......ติดตามผลที่ตั้งใจ
ผมอยู่บ้านสงเคราะห์.......ประจวบเหมาะเขารับไว้
ด้วยเกิดเหตุมีเภทภัย.......ไม่เหลือใคร ไม่เหลือเลย.				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟน้ำตาซาตาน
Lovings  น้ำตาซาตาน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟน้ำตาซาตาน
Lovings  น้ำตาซาตาน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟน้ำตาซาตาน
Lovings  น้ำตาซาตาน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงน้ำตาซาตาน