15 ธันวาคม 2546 17:43 น.
น้ำตากับท้องฟ้าสีคราม
แสงสดใสสาดส่องห้องที่ปิด
ข้างในจิตปวดร้าว เหงาสับสน
ความว่างเปล่ารุมเร้าเศร้าพิกล
นั่งทุกข์ทน จนเช้าเหงาตกเย็น
แสงสายัณห์ปิดฉากจากขอบฟ้า
เหมือนเงาเธอที่ลา พร่า ไม่เห็น
ความมืดเข้าครอบงำช้ำลำเค็ญ
ช่างยากเย็น เมื่อไม่เห็นทางที่เดิน
บางทีรักที่ฉันนั้นฝันหา
มันอาจดูไกลตาแลห่างเหิน
จะมีที่ให้พักไหม ใจเหนื่อยเกิน
ที่จะเดินคนเดียวเปล่าเปลี่ยวใจ
อยากจะย้อนกลับอดีตที่คิดหวัง
ไปโอบกอดเธออีกครั้งยังได้ไหม
ตอนนั้นใบหน้าฉันมันเขินอาย
อยากเห็นรักสดใสของใจเธอ
อยากจะอยู่ในฝันครั้นเธอหลับ
วันนี้ได้แค่นับดาวคราวฉันเผลอ
เวลานี้ที่ทำได้เพราะใจเบลอ
ไม่สามารถพบเจอแค่เผลอไป
อยากจะหวนกลับไปในวันก่อน
อยากจะย้อนคืนวันอันสดใส
อยากจะได้เธอคืนมาสู่หัวใจ
จะไม่ยอมให้จากไปไหนอีกเลย
อยากจะย้อนคืนวันอันแสนสุข
ไม่อยากเห็นตัวเองทุกข์ แล้วถูกเฉย
ไม่อยากอยู่คนเดียวเปลี่ยวเหมือนเคย
อยากจะฟังที่เธอเอ่ย เผยความนัย
ยากเหลือเกินที่บังเอิญไม่ลืมรัก
ยากจะถอดใจที่ปักรักนั้นได้
แม้จะเอื้อมมือออกไปไกลเท่าไร
แต่สุดท้ายที่สิ่งที่ได้ ใจด้านชา
มองอาทิตย์อัสดงคล้อยลงต่ำ
ใจเจ็บช้ำ มากมายใกล้ผวา
เหนื่อยเหลือเกินรักนี้ที่คอยลา
ขอหลับตาในนิทราราตรีกาล
ฉันเสาะหาที่ที่ให้ใจพิงพัก
ความเหงาทักทายฉันช่างอ่อนหวาน
หัวใจฉันเจ็บปวดรวดร้าวราน
ความเศร้าพาลเกาะกุมใจไม่รู้ตัว
14 ธันวาคม 2546 20:58 น.
น้ำตากับท้องฟ้าสีคราม
...คิดถึง...
แค่คำนี้มันก็ลึกซึ้งมากรู้ไหม
เธอบอกฉันทุกครั้ง ฉันก็รับฟังด้วยใจ
มีความสุขมากมาย แค่คำพูดง่ายๆที่ให้กัน
แต่ตอนนี้...ก็ได้แต่นั่งเฝ้าครวญ
ได้ยินเสียงลมหวนแล้วชวนให้ฝัน
อยากรู้ว่าคำว่ารักที่เธอให้กัน
เธอให้ความสำคัญกับมันมากน้อยเพียงใด
วันนี้ฉันรู้สึกว่างเปล่า
ความเหงามันรุมเร้าให้หวั่นไหว
อยู่ไหนนะคนดีที่ฉันรักมากมาย
ทำไมเธอช่างใจร้ายกับฉันจัง
ตอนนี้ฉันกำลังคิดมาก
เพราะเธอจากฉันไกลใจหมดหวัง
กลับมาได้ไหมคนดี กลับมาเพื่อเพิ่มพลัง
และบอกว่าเธอยังคิดถึงกันอีกสักครั้ง...ฉันจะคอยฟัง...นะคะ...คนดี
14 ธันวาคม 2546 04:44 น.
น้ำตากับท้องฟ้าสีคราม
...จุดยืนของชีวิต...
อะไรคือ สิ่งที่ลิขิตฝัน
อะไรคือ สิ่งที่ค้นหามานาน
อะไรคือ สิ่งที่ทำให้พาลพบเจอ
...จุดยืนคืออะไร...
หาเท่าไหร่ ก็ไม่แน่ใจเสมอ
หาเท่าไหร่ ก็ได้แต่สิ่งที่พร่าเบลอ
หาเท่าไหร่ ก็ไม่พบเจอสักที
...จุดยืนของฉัน...
มันคืออะไรกัน ที่ฉํนไม่อาจหนี
หรือ...มันคือความว่างเปล่า จากใจเหงาๆที่มี
หรือว่า...ฉันไม่เคยได้เจอความสุขที่แสนดีจากใคร
...จุดยืนของบทกลอน...
มันคงจะเป็นความเจ็บที่แอบซ่อนเอาไว้
มันคงจะเป็นความเยือกเย็นภายในจิตใจ
มันคงจะเป็นความสดใส ที่ใครไม่ต้องการ
...ก็เพิ่งรู้ว่า...
สิ่งที่ผ่านมามันไม่มีค่าแม้ความสงสาร
ทุกสิ่งที่ได้ทำลงไป มันก็ดีแต่ทำให้ใจร้าวราน
สิ่งที่เฝ้าทำอยู่นาน ก็แค่ต้องการใครสักคน
13 ธันวาคม 2546 17:00 น.
น้ำตากับท้องฟ้าสีคราม
ขอโทษนะ
ที่ฉันจากเธอมาอย่างนั้น
ทั้งๆที่เรายังไม่เข้าใจกัน
เธอคงจะเสียใจมากในวันนั้น....ฉันเข้าใจ
ไม่รู้ว่าวันนี้เธอยังจะโกรธกันอยู่หรือเปล่า
ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอจะปวดร้าวสักแค่ไหน
ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดอย่างนั้นออกไป
ยกโทษให้กันได้ไหม...คนดี
๐๐จากไปไม่ต้องกลับมา๐๐
ฉันก็ตอบกลับไปว่า๐๐ ไม่ต้องไล่ก็ได้น่า ไม่ได้คิดหนี๐๐
๐๐ไม่ต้องไล่ก็ได้ ฉันพร้อมจะไปทุกวินาที๐๐
๐๐จากไปได้น่าแค่นี้ ไม่ต้องมาตะคอกใส่กัน๐๐
คำพูดที่ไม่ได้คิด
มันยังติดอยู่ในใจฉัน
วันนี้รู้แล้ว ว่าความผูกพัน
ที่มีให้เธอนั้น ยังไม่จืดจาง
วันนี้จึงอยากจะขอ
ฉันจึงมาง้อ ขอแค่เธออย่าเหินห่าง
ตั้งแต่วันนั้นที่ทะเลาะกัน มันเหมือนมีลาง
ว่าเธอจะเหินห่าง และคิดที่จะทิ้งขว้างกัน
คนดี...คะ
อย่าไปถือสาเลยนะ....เรื่องในวันนั้น
กับความงี่เง่าที่เธอได้เจอมัน
ฉันก็เสียใจไม่แพ้กัน... ให้อภัยฉัน...ได้ไหมเธอ
11 ธันวาคม 2546 14:54 น.
น้ำตากับท้องฟ้าสีคราม
ไม่แน่ใจใจไม่แน่รักแท้หรือ
ที่ได้ฝึกได้ปรือรักหรือหลง
ที่แล้วมาพัดผ่านไปใยลืมลง
ฉันงวยงง เธอก็คงเหมือนใครๆ
จนวันนี้วันที่เธอลี้จาก
เหมือนโดนขวากโดนหนามยามหวั่นไหว
รักมันลึกมันซึ้งกึ่งฝั่งใจ
รักเล่ห์ร้ายเล่ห์เหลี่ยมต้องเจียมตน
รักก่อตัวก่อปลูกผูกสองจิต
รักชวนคิดชวนฝันพลันสับสน
รักที่เธอที่ให้ใจวกวน
เกินอดทนอดกลั้นมันชินชา
แม้นครั้งหน้าครั้งใดใคร่ขอจาก
ใช่ลำบากลำโทษโกรธหรอกหนา
รักแท้ครั้นจากไกลไม่กลับมา
โอ้ ตัวข้าระทมตรมตรอมใจ
รักที่สวยที่เลิศบรรเจิดเอ๋ย
ใยเฉยเมยเฉยชาข้าสงสัย
ใยความรักความดีที่ให้ใคร
เขาผลักไสผลักส่งไม่ลงรอย
รักที่สวยที่งามตามที่หวัง
เขาไม่จริงไม่จังรั้งเราหงอย
เขาหลอกพร่ำหลอกเพ้อชะเง้อคอย
รักเลื่อนลอยเลื่อนลมหลอกงมงาย