25 พฤษภาคม 2547 10:40 น.
น้ำตา_
กุหลาบแดงคือดอกไม้สุดโปรดของเธอ และเธอก็ชื่อโรส
ซึ่งหมายถึงกุหลาบด้วย
ทุกปีสามีของเธอจะส่งดอกกุหลาบผูกโบว์น่ารักให้
แม้กระทั่งปีที่เขาตายจากไป
เธอก็ยังได้รับดอกกุหลาบซึ่งมาส่งที่หน้าบ้าน
การ์ดที่แนบมาเขียนไว้ว่า "ที่รักของผม" เหมือนกับหลาย ๆ
ปีก่อนหน้านี้
แต่ละปีที่เขาส่งดอกกุหลาบให้เธอ เขาจะเขียนว่า
"ปีนี้ผมรักคุณมากกว่าที่ผมเคยรักเมื่อปีก่อน
เพราะความรักของผมเติบโตขึ้นทุกปีที่ผ่านไป"
เธอรู้ว่านี่คือกุหลาบช่อสุดท้ายแล้วที่เธอจะได้รับ
เธอคิดว่าเขาคงสั่งดอกไม้ล่วงหน้าก่อนถึงวันวาเลนไทน์
โดยที่เขาไม่รู้ว่า เขาจะจากไป
เขามักจะทำอะไรเอาไว้ล่วงหน้าเสมอ
เพื่อที่จะได้ไม่พลาดแม้ว่าเขาจะงานยุ่งแค่ไหนก็ตาม
เธอตัดก้านกุหลาบ แล้วจัดมันลงในแจกันสุดพิเศษ
วางไว้ข้างภาพถ่ายใบหน้าเปื้อนยิ้มของสามี
นั่งลงบนเก้าอี้ตัวโปรดของเขา
เนิ่นนานนับชั่วโมง จ้องมองภาพถ่ายของเขา
ที่มีดอกกุหลาบอยู่ด้านข้าง
หนึ่งปีผ่านไป มันยากมากสำหรับการที่ต้องอยู่คนเดียว
โชคชะตาบันดาลให้เธอต้องกลายเป็นคนอ้างว้างเปล่าเปลี่ยว
แล้วกริ่งประตูก็ดังขึ้นเหมือนวันวาเลนไทน์ปีก่อน ๆ
เมื่อเธอเปิดประตูก็พบกุหลาบแดงวางอยู่ที่หน้าประตู
เธอนำมันเข้ามา
ในบ้าน และรู้สึกตกใจกับสิ่งที่ได้รับ
ในที่สุดเธอก็กดโทรศัพท์ไปที่ร้านดอกไม้
เมื่อเจ้าของร้านมารับสาย เธอจึงถามเขาว่า
ทำไมถึงมีคนส่งดอกไม้ให้เธอ
ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวด "ผมทราบว่าสามีของ
คุณจากคุณไปเมื่อปีที่แล้ว" เจ้าของร้านตอบ
"และผมก็รู้ว่าคุณต้องโทรมา
และอยากรู้ว่าใครส่งดอกไม้ไปให้ ดอกไม้ที่คุณ
ได้รับวันนี้ชำระเงินล่วงหน้าเรียบร้อยแล้วครับ
สามีคุณเป็นคนสั่งดอกไม้โดยเตรียมการไว้ล่วงหน้า
ผมยังมีคำสั่งซื้อดอกไม้จากเขาเก็บเอาไว้ในแฟ้มอีก
ผมได้รับคำสั่งให้ส่งดอกไม้ให้คุณทุกปี
ยังมีอีกเรื่องนะครับที่ผมคิดว่าคุณควรจะทราบ
เขาเขียนการ์ดพิเศษเอาไว้ให้คุณใบหนึ่งเมื่อหลายปีที่แล้ว
และเขาต้องการให้ผมส่งการ์ดนี้แก่คุณ
ในปีถัดจากปีที่เขาจากคุณไปแล้ว"
เธอกล่าวขอบคุณเจ้าของร้านดอกไม้แล้ววางโทรศัพท์
น้ำตาไหลอาบแก้ม
นิ้วของเธอสั่นระริกขณะเอื้อมมือไปหยิบการ์ดใบนั้น
บนการ์ดมีลายมือของเขาที่เขียนถึงเธอ
แล้วเธอก็เริ่มอ่านมันอย่างเงียบ ๆ
ในการ์ดเขียนว่า
"หวัดดีจ้ะที่รัก ถึงตอนนี้ผมได้จากคุณไปหนึ่งปีแล้ว
หวังว่ามันคงไม่ทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยเกินไปในการต่อสู้กับปีที่ผ่านมานะ
ผมรู้ว่าคุณคงรู้สึกอ้างว้างและเจ็บปวด
ถ้าเป็นผมก็คงรู้สึกไม่ต่างจากคุณ
ความรักของเราสองคนทำให้ทุกสิ่งในชีวิตดูงดงามไปหมด
ผมรักคุณมากเกินกว่าที่จะบรรยายได้คุณคือภรรยาที่สมบูรณ์แบบ
คุณเป็นทั้งเพื่อนและคนรัก คุณเติมชีวิตผมให้เต็ม
ผมรู้ว่ามันเพิ่งผ่านไปได้แค่ปีเดียวแต่ผมไม่อยากให้คุณตกอยู่ในความเศร้า
ผมอยากให้คุณมีความสุข แม้กระทั่งเวลาที่คุณหลั่งน้ำตา
และนี่คือเหตุผลว่าทำไมผมจะยังคงส่งดอกไม้ให้คุณต่อจากนี้อีกหลายปี
เมื่อคุณได้รับดอกกุหลาบผม
อยากให้คุณนึกถึงความสุขตลอดระยะเวลาที่เราได้รักกัน
ผมรักคุณเสมอ และรู้ว่ามันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป
แต่ที่รัก คุณต้องต่อสู้ต่อไป ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป
ได้โปรดมองหาความสุข
ตลอดวันเวลาที่คุณยังมีชีวิตอยู่ ผมรู้ว่ามันไม่ง่าย
หากหวังว่าคุณคงไปถึงมันได้สักวัน
กุหลาบจะส่งถึงคุณทุกปีและจะหยุดส่งก็ต่อเมื่อคนที่มาส่งดอกไม้เคาะประตูแล้ว
ไม่มีใครมาเปิดรับ
เขาจะมาส่งห้าครั้งในวันนั้นเผื่อว่าคุณจะออกไปธุระข้างนอก
หากครบห้าครั้งแล้วยังมอบดอกกุกลาบให้คุณไม่ได้
เขาจะรู้เองว่าต้องนำดอกไม้ไปยังสถานที่ที่ผมสั่งเอาไว้
ดอกกุหลาบจะวางลงบนที่ที่เราจะได้อยู่ร่วมกัน
อีกครั้งชั่วนิรันดร์"
25 พฤษภาคม 2547 10:33 น.
น้ำตา_
ชายผู้หนึ่งถูกรถชนขณะกำลังข้ามถนน
สลบไป 2 วันเต็ม ๆ จึงได้ฟื้นขึ้นมา
เมื่อลืมตาตื่น ภรรยาเขาอยู่ข้างๆ นั่นเอง เขากุมมือเธอไว้
แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเต็มตื้น
" ที่รักผมมีอะไรจะบอกคุณ คุณอยู่ข้างกายผมเสมอเลย
ตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย
ผมสอบตกแล้วตกอีก
ก็มีคุณอยู่เคียงข้างให้กำลังใจผมสู้ใหม่" เธอบีบมือเขาแน่นขึ้น
ขณะเขาพูดต่อ "เมื่อผมตระเวนสมัครงานตามบริษัทใหญ่ๆ
แล้วก็ไม่เคยถูกเรียกตัว
ก็ยังมีคุณอยู่ข้างกาย คอยตัดโฆษณาสมัครงานให้ผม..."
เขาพูดต่อ " กระทั่งผมเริ่มงานในบริษัทเล็กๆ
จนได้รับผิดชอบงานใหญ่ชิ้นนึง
แต่ที่สุดผมทำมันพังเพราะความเลินเล่อ
คุณก็ยังอยู่เคียงคู่ผมตรงนั้น
แม้เมื่อผมได้งานใหม่หลังจากโดนไล่ออกมาพักใหญ่ๆ
แต่ผมก็ไม่เคยได้เลื่อนตำแหน่ง
ความขยันผมไม่เคยมีใครเห็น ผมอยู่ในตำแหน่งเดิมตั้งแต่วันเริ่มงาน
จนถึงวันนี้ก็ยังมีคุณเคียงข้างผมตลอดมา"
น้ำตาเธอเอ่อเต็มนัยน์ตาฟังสามีเธอพูดต่อ
"แล้วตอนนี้ผมประสบอุบัติเหตุ
ตื่นฟื้นขึ้นมา ก็มีคุณอยู่เคียงข้างผมตรงนี้....ที่รัก
ผมมีบางอย่างที่อยากจะบอกคุณเหลือเกิน..."
เธอโถมตัวลงบนเตียงกอดเขาไว้
สะอื้นฮักด้วยความตื้นตัน แล้วเขาก็พูด........
"ผมคิดดูแล้ว...คุณมันตัวซวยจริงๆ"
หมายเหตุ: นี่เป็นเพียงเรื่องราวสนุก ๆ คลายเครียด
อย่าจริงจังกะชีวิตมากเกินไปนะครับ
25 พฤษภาคม 2547 10:30 น.
น้ำตา_
ทหารหนุ่มแอบหลงรักเจ้าหญิงเลอโฉม
เขาตระหนักถึงความสูงส่งของเธอ
เฉกเช่นเดียวกับที่ตระหนักถึงความต่ำต้อยตน
แต่เขายังรวบรวมความกล้า เดินเสี่ยงตายเข้าไปบอกเธอว่า
รัก
และจะอยู่บนโลกต่อไปโดยไม่มีเธอไม่ได้
เจ้าหญิงผู้เป็นดวงใจตอบเขาว่า
ถ้าสามารถรอคอยอยู่ใต้ระเบียงห้องเธอได้ติดต่อกัน
100 วัน 100 คืน เธอจะเป็นของเขาตลอดไป
ณ ใต้ระเบียง ทหารหนุ่มเฝ้ารอคอยอยู่ตรงนั้น
วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า
โดยไม่ยอมขยับเขยื้อนกายไปไหน
เขารอคอยในสายลมบาดผิว
รอคอยในสายฝนกระหน่ำ
รอคอยในความหนาวเหน็บของหิมะ
วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า
โดยมีเจ้าหญิงของเขาเฝ้าดูอยู่ตลอดเวลา
เธอเห็นหยาดน้ำตาของเขาพรูพรายเป็นสาย
จนกระทั่งในคืนที่ 99
ทหารหนุ่ม หยุดร้องไห้
หยุดรอคอย
หยุดทุกอย่างไว้
แล้วหันหลังเดินจากไป
เรื่องนี้ไม่มีตอนจบ แต่มีบางคำถาม บางคำตอบในใจ
ความรักของเธอกับเขาอาจจะเหมือน นาฬิกาทราย
เมื่อฝ่ายหนึ่งเริ่มหมดรักไปในใจอีกฝ่ายหนึ่งกลับรักขึ้นมาใหม่เต็มเปี่ยม
แต่บางทีทหารหนุ่มอาจตั้งใจแค่แสดงให้เห็นว่าเขารักเธอจริงแท้แค่ไหน
แค่พิสูจน์ให้เห็น แต่ไม่ต้องการ ครอบครองไว้
หรือบางทีเขาอาจเสียใจ
ต้องตัดใจจากไปเพราะรักเขาถูกทำร้ายย่ำยี
หรือบางทีเป็นเจ้าหญิงเองที่เสียใจ
เพราะไม่เคยมีใครรักเธอได้อีกถึงเพียงนี้...
ความรัก เป็นสิ่งที่ออกแบบไม่ได้
ความรัก เป็นเรื่องที่บังคับใจกันไม่ได้
ความรัก ที่บริสุทธิ์ คือ การให้...
ให้โดยที่ไม่หวังว่าจะได้อะไรตอบแทน
.........แต่ในความเป็นจริงแล้ว
ผู้ที่ให้มักจะหวังอยู่ลึกๆ
ที่จะได้ความรักเป็นสิ่งตอบแทน..เสมอ
และเมื่อเค้าได้ ความรัก กลับมาแล้ว
มีเพียงน้อยคนนักที่จะสามารถให้ในลักษณะนี้ได้ตลอดไป
ความอดทนอยู่คู่กับความรักไม่ได้
แต่ความเข้าใจต่างหากที่ควรเคียงคู่กันไป
ถูกต้องที่ เวลา เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ทุกอย่าง
โดยเฉพาะความรัก
การประคองให้รักกันได้ตลอดไป
เป็นสิ่งที่ยากกว่าการจะทำอย่างใรให้รักกัน
เจ้าหญิงไม่ผิด และ ทหารผู้นี้ก็ไม่ผิด
เพียงแต่เวลาของ ความรัก ของสองคนนี้...
ไม่เท่ากันเท่านั้นเอง
เราจะรู้ค่าของสิ่งของสิ่งหนึ่ง เมื่อเราได้รู้ว่า
เรา...
ได้เสียมันไปแล้ว
24 พฤษภาคม 2547 11:07 น.
น้ำตา_
ไอ้ทิ หรือพ่อกะทิ ชายหนุ่มโผงผางผู้กำพร้าพ่อแม่
อยู่ตัวคนเดียว พูดจริงทำจริง ขยันขันแข็งเอางานเอาการ
เสร็จจากงานนาก็มารับจ้างขี่ควายส่งคนเข้าซอย
ทุกคนในหมู่บ้านล้วนรักและเอ็นดูไอ้ทิ
ยกเว้นผู้ใหญ่ปลั่ง เพราะผู้ใหญ่ปลั่งมีลูกสาวสวย
ที่ดันมาหลงรักไอ้ทิด้วยเช่นกัน
แม่แป้ง
ลูกสาวคนเดียวของผู้ใหญ่ปลั่งสาวสวยประจำหมู่บ้าน
นางเจอกับไอ้ทิในวันลอยกระทง
ทั้งคู่ขี่ควายสัญญากันต่อหน้าพระจันทร์
ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอุปสรรคขวางกั้นเพียงใด
ทั้งคู่ก็จะขอเอาความรักแท้ที่จริงใจฝ่าฟันข้ามไป
แล้วไอ้ทิก็รวบรวมเงินทองเท่าที่เก็บสะสมมาได้
ไปบ้านผู้ใหญ่ปลั่งเพื่อสู่ขอแม่แป้ง
ซึ่งผู้ใหญ่ก็ต้อนรับมันอย่างดี ด้วยชายฉกรรจ์ 6 นาย
พร้อมอาวุธครบมือ ไอ้ทิไม่ว่ากระไร
ได้แต่พาร่างอันสะบักสะบอมกลับไปบ้านนอนหยอดน้ำข้าวต้มหลายวัน
ด้วยใจยังตั้งมั่นว่า วันหน้าจะมาขอใหม่
ขอไปจนกว่าผู้ใหญ่จะใจอ่อน
ในที่สุดผู้ใหญ่ปลั่งก็ปิดหนทางความรักของไอ้ทิ ด้วยการคลุมถุง
จัดงานแต่งงานให้ลูกสาวกับปลัดหนุ่มจากบางกอก
ไอ้ทิรู้ข่าวจึงรีบวิ่งทุรนทุรายหมายจะมาทำลายพิธี
ซึ่งผู้ใหญ่ปลั่งก็รู้ดีว่าไอ้ทิต้องกระทำแบบนี้
จึงขุดหลุมพรางดักรอเอาไว้ แม่แป้งแอบได้ยินแผนร้าย
ก็แอบหนี หมายจะมาห้ามคนรักไม่ให้หลงกล
เหตุการณ์ต่อไปนี้ไม่มีบันทึกเป็นลายลักษณ์
ได้แต่ปะติดปะต่อมาจากคำบอกเล่าของชาวบ้านแบบปากต่อปากว่า
... คืนนั้นเป็นคืนเดือนแรม
แม่แป้งแอบวิ่งฝ่าความมืดออกมาดักหน้าไอ้ทิ
ไอ้ทิเห็นแม่แป้งวิ่งมาก็ดีใจ รีบวิ่งไปหา
แม่แป้งเห็นไอ้ทิรีบวิ่งมา ก็รีบวิ่งเข้าไปหาให้เร็วยิ่งขึ้นไปอีก
ฉับพลัน...
ร่างแม่แป้งก็ร่วงหล่นลงไปในหลุมพรางของผู้ใหญ่ปลั่ง
ต่อหน้าต่อตาไอ้ทิทันที
อารามตกใจ ไอ้ทิรีบกระโดดตามลงไปเพื่อช่วยเหลือ
อารามดีใจ สมุนชายฉกรรจ์ 6 นายของผู้ใหญ่ปลั่ง
รีบเข้ามาโกยดินฝังกลบ
เพราะคิดว่าก้นหลุมมีเพียงไอ้ทิผู้เดียวที่อยู่ในนั้น
... รุ่งเช้า ผู้ใหญ่ปลั่งเดินยิ้มมาขุดหลุมเพื่อดูผล
ภาพเบื้องล่างพบไอ้ทิตระกองกอดทับร่างแม่แป้งลูกสาวของตน
นอนตายคู่กันอย่างมีความสุข
เมื่อยิ้มถูกเปลี่ยนไปเป็นน้ำตา
ผู้ใหญ่ปลั่งสั่งลูกสมุนสร้างเจดีย์คลุมครอบปิดหลุมนั้นไว้
เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจคนทั่วไปว่า
อย่าคิดทำร้ายหรือทำลายความรักของใครอีกเลย
สถานที่ตั้งเจดีย์นั้นไม่มีใครรู้แน่นอน
จะมีก็แต่เพียงอนุสรณ์แห่งความรักที่กระทำสืบทอดกันมา
จนเป็นประเพณีทุกแรมหกค่ำเดือนหก
ชาวบ้านที่ศรัทธาในความรักของไอ้ทิกับแม่แป้งจะตื่นตั้งแต่มืด
เข้าครัวเพื่อทำขนมที่หอมหวาน ปรุงจากแป้งและกะทิ
บรรจงแคะจากพิมพ์ แล้วนำมาวางคว่ำหน้าซ้อนกัน
เป็นสัญลักษณ์ว่า จะได้อยู่ร่วมกันตลอดไป
ขนมนี้เรียกขานกันในนาม ขนมแห่งความรัก หรือเรียกย่อๆ
ว่า " ขนม ค.ร.ก."...
24 พฤษภาคม 2547 11:05 น.
น้ำตา_
คิดถึงเสมอ
สมบูรณ์ เป็นอีกคนหนึ่งที่พกรูปถ่ายของภรรยาติดกระเป๋าสตางค์ไว้เสมอ..
แม้ว่าภรรยาของเขาจะเสียชีวิตไปนานหลายปีแล้วก็ตาม
ทุกครั้งที่สมบูรณ์ประสบกับปัญหา สมบูรณ์จะหยิบภาพถ่ายออกมาดู
และเขาก็ผ่านพ้นปัญหานั้นไปได้เสมอ ไม่ว่าสมบูรณ์จะเจอ
อุปสรรคมากมายขนาดไหน บางครั้งเมื่อเขานึกท้อแท้ เขาก็จะรีบ
เปิดกระเป๋าสตางค์ และหยิบรูปถ่ายภรรยาออกมาดูทุกครั้งไป.......
โดยเฉพาะเมื่อครั้งที่เศรษฐกิจไทยก้าวสู่ยุคฟองสบู่แตก
สมบูรณ์แทบสิ้นหวัง เขาแทบสิ้นเนื้อประดาตัว
แต่เขาก็ผ่านจุดต่ำสุดนั้นมาได้...
วันนี้ สมบูรณ์ก้าวสู่ความสำเร็จ จนได้รับรางวัลบุคคลสู้ชีวิตแห่งปี
และได้ขึ้นรับรางวัลอันทรงเกียรตินี้... สมบูรณ์กล่าวว่า...
เคล็ดลับที่ทำให้ผมผ่านอุปสรรคอันเลวร้ายต่าง ๆมาได้ก็
เพราะผมพกภาพถ่ายของภรรยาผมติดตัวไว้ตลอดเวลา...
สิ้นเสียงกล่าวของสมบูรณ์...
เสียงปรบมือกึกก้องไปทั่วห้องจัดเลี้ยงมอบรางวัล...
โดยเฉพาะบรรดาคุณหญิงคุณนายที่มาร่วมงาน
ต่างพากันสะกิดสามีของตัวเอง พร้อมกับคำกระแหนะกระแหน ว่า
ทำไมไม่เอาตัวอย่งาสมบูรณ์บ้าง
เมื่องานเลี้ยงเลิกรา..
สมบูรณ์กลับถึงบ้าน เขาควักรูปถ่ายของภรรยาออกมาดูอีก
แล้วรำพึงรำพันกับภาพถ่ายว่า...
"ทุกครั้งที่รู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง.... ก็มีภาพถ่ายของเธอนี่แหละ
ที่ทำให้ได้ระลึกอยู่เสมอว่า... ไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่าตอนที่อยู่กับเธออีกแล้ว"
5555555