๏ใฝ่ฝึกใจให้ฉลาด เฉลียวสติตาและรูปสีมิ ต่อเต้าเสียงกระทบรูหู ชอบจิตผัสสะใดเกิดเร้า เร่งรู้เท่าทันฯ
๑เขียนไขบทกลอนกลให้สวยให้งามอ่านแล้วรสใจความตามใฝ่ตามฝันก้อนเมฆโปรยฝนฟ้าระหวาดระหวั่นวานคุณฉันทรลักษณ์อย่าซัดอย่าเซ๒รักบทกวีที่นี้กระวีกระวาดใช่พิฆาตเขียนคำหันหักหันเหใจคิดไปสาระพันสาระเพใช่รวนเรรู้สึกปานไฟปานฟืนฯ๓เหมือนช่างเขียนภาพสีให้สดให้สวยแดงเขียวเหลืองส้มด้วยไม่ขัดไม่ขืนจะคบใครจริงจังให้ยาวให้ยืนอย่าไปฝืนจนมิตรเบื่อหนีเบื่อหน่าย๔นกร้องจิ๊บเจี๊ยบจิ๊บกระจอกกระจิบแม่ลูกเรียกควิบควิบตอบรับตอบขานตื่นแต่เช้าแข็งแรงเบิกอรุณเบิกบานสมเป็นคนอาจหาญขยับขยันฯ
ข้าขอประณตน้อม สักการบรูพคณาจารย์ กรอปผู้ (ฯเกิดประโยชน์ศึกษา)ข้าวตอกดอกมะเขือสาร สร้อยกาพท์หญ้าแพรกดอกเข็มรู้ ท่านครู้มีคุณฯเสียงโคลงคำย้ำเห่ ช้าเสนอเอเอกโทโทษเกลอ เก่ากี้ (ห่างหาย)รักมายมากกลอนเธอ งามงด (คนสวย)ไม่อาจอดจดจี้ น่าลี้ห่างหันฯเก็บเด็ดดอกไม้สด แซมผม นุชฮาใจจิตลอยลับลม อดีตนั้นหมื่นแสนฝากคำชม เชยชื่นมามะหอมอื่นสั้น ชีพสิ้นสลายหายฯพิศพรรณปลาว่ายเคล้า คลึงกันถวิลสุดาดวงจันทร์ แจ่มหน้ามัตสยาย่อมพัวพัน พิศวาสควรฤพรากน้องช้า ชวดเคล้าคลึงชม ฯ (เห่ชมปลา )
๑มิตรรักฉันท์(ฉัน)ใฝ่ฟื้น ฟูคำ กาพท์เฮยใครใคร่รู้จดจำ อ่านได้ใครเกลียดอักษรทำ คนป่า นาพ่อใครเยอะกวีไซร้ แน่แท้ คนดงฯ๒มามะสรนุกให้ หอมวลีเฮยแสนดอกดวงสร้อยศรี สดไซร้ล้านล้านบาทคงมี พองบ ประมาณถามฝากหนี้สินให้ ลูกเต้า สืบสาน(ส่งดอก)ฯ๓ยามเยาว์เห็นโลกล้วน แสนสนุกเปนหนุ่มสาวหลงสุข ค่ำเช้ากลางฅนเริ่มเห็นทุกข์ สุขคู่ กันนอตกแก่จึงรู้เค้า ว่าล้วนอนิจจัง ฯ( สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ)๔ขลังร่ายมนต์กาพท์กี้ กังวาน กังสดารเฮยเหงง่ หงาง่ ระฆังขาน โสตซ้องคำหวานหว่านกล้าวาน มานะ มาอ่านฮาเขียวขุ่นร้องทุ่งท้อง รวงกวีศรีสวัสดิ์ฯ(พิพัฒนาสถาพรมงคลชัยทุกๆท่านเอย)