31 มกราคม 2554 05:17 น.
น้ำ
๑โลกมณีนี้หนึ่ง สรรพสัตว์
กรรมกฏเวี้ยนเวียนวัฏ ก่อไว้
รุงรังหยักเยื่อหัตถ์ ธัมท่อง
ลอยล่องทุกข์ทิศไร้ เร่งได้ไฉนถึง๚
๒ใจลืมกายแกร่งกี้ เกิดกรรม
ลืมว่าต่างเสพธัม ว่ายวี้
คนและสัตว์ล้วนจำ ใจจด
พุทธพจนนำชี้ ชดใช้เวรเขา๚
๓ข้าวหนึ่งน้ำหนึ่งให้ อิ่มเอม
กลอนหนึ่งคำปรีเปรม ยั่วเย้า
เลี้ยงกายจิตให้เกษม สำเร็จ
สมปรารถนาเจ้า ไม่ทุกข์เกินฉันท์ ๚
๔โลกหล้าแดนเจิดจ้า พุทธมนต์
เสียงสวดเสียงธัมคน เพ่งเพี้ยง
รู้แหละหลงเรียนทน แท้เถิด
ธัมเกิดดับดุจเที้ยน ส่องสิ้นทุกข์หล๚
29 มกราคม 2554 04:51 น.
น้ำ
๏๑บ้านนี้มีรักรู้ อักษร สารนา
บ้างครุ่นคิดบทกลอน อ่านเอื้อน
เสาวรสรื่นรอน ลืมวัฏ เวี้ยนฮา
ยิ้มยั่วเพื่อนเพื่อนเยื้อน อยู่ดี้หรือไฉน
๏๒มาสิมาร่ายล้วน สำนวนเขียน
สัมผัสวลีเพียร คิดค้น
รสรอยหมึกลิ้มเรียน มณีรส
เกิดใสสดใจพ้น แผกเศร้าทั้งหลาย๚
๏๓คำเก่าเล่าไว้ลูก รู้รอย
โคลงเก่าเก็บบนดอย ประดิษฐ์ไว้
อาศัยอยู่กินพลอย สรนุก
สร้อยสุขสโมสรไซร้ ท่านให้เสพถึง๚
๏๔บางคิดจิตใคร่แล้ว ครวญความ
ปีใหม่ได้สมตาม จิตต้อง
ไร้โรคโศกคุกคาม ถึงท่าน
สุขศกโสฬสพร้อง เพริดพริ้งมิตรฉันท์๚นินิ