27 พฤศจิกายน 2553 09:57 น.
น้ำ
๑ชาวประชาสุขบ้าง บางสมัย ไทยเอย
น้ำชุ่มดินฉ่ำไป ทั่วหน้า
มาปีนี่น้ำไหล หลามบ่า
น้ำจากป่าเขาข้า รบาดพื้นภูสยาม ฯ
๒คนไทยกล้าแกร่งสู้ เศิกกษัย
เริงร่านชาญสมรสมัย สมรรถโน้น
น้ำนองล่มบ้านใจ เศร้าโศก
ปอนเปียกชุ่มโชคโพ้น เพิกแพ้พังหนี ฯ
๓ข้าวของหมอนม่านต้อง แตกสลาย
อิสระเสรีกจาย กจัดลี้
นาล่มจมหายกลาย ทะเลเจิ่ง
ตาเบิ่งบ่หลับพี้ พี่น้องต้องกรรม ฯ
๔บารมีพระปกเกล้า แก้ทุกข์
สามัคคีในยุกต์ ยากเค้น
ดั่งคลองลัดโพธิ์สุข สมประเสริฐ
ร่วมมัดขจัดรกเร้น เรียบร้อยรอยทาง ฯ
24 พฤศจิกายน 2553 19:22 น.
น้ำ
๑ยามเย็นเย็นเดินเล่นบนสนามหญ้า
คลายร้อนในกายาไม่หมักหมม
เดินทอดน่องเหยียดแขนขาคลายระทม
ขยับขยายปอดสูดลมยาวสบาย
๒นักฟุตบอลเตะลูกบอลกลมกลิ้ง
บ้างนักวิ่งจ็อกกิ้งขยับขยาย
อ้วนอย่างผมเดินดุ่มแบบเจ้านาย
ลืมโลกแสนวุ่นวายสักครู่ยาม
๓มาสิมาไกวแกว่งชิงช้าเล่น
ไม้กระดกหกเช่นเด็กไต่ถาม
ของเล่นในสวนสนุกน่าติดตาม
ผ่านโมงยามเร็วไวให้ฉงน
๔ถามไถ่หาความสุขอยู่หนไหน
สุขทางกายสุขทางใจใคร่ค้น
ยามเดินเล่นมีสติใจไม่วกวน
รู้สึกตัวไม่หลงตนกันเอย
22 พฤศจิกายน 2553 19:02 น.
น้ำ
๑๏พาราไดซ์ เบิทร์โบย บินถิ่นสวรรค์
หอมดอกโมก ไหวหวั่น ใจไม่หาย
เขียวขจี วลีกลอน หนอนเอียงอาย
แมลงเต่าทอง เกาะใบไม้ ร้องรำ๚
๒๏ยั่วเย้าเร้า อักษร เสียงไพเราะ
ฉันทลักษณ์ จังหวะ เคาะไขขำ
ลืมโลกวุ่น รอบกาย กฏแห่งกรรม
ผีเสื้อทำ ท่าบิน ลิ้มรสเกษร๚
๓๏นอนหญ้าฟาง ร่างเบา สบายยิ่งนัก
หลับตาพัก งานหนัก ลงเสียก่อน
หนอนผีเสื้อ ตัวอ้วน ล้วนชอบนอน
ดอกแก้วหอม กำจร กำจายจินต์๚
๔๏วาทวจี วิถี กลอนกาพท์แก้ว
ขับขานแจ้ว ปราชญ์นับ เป็นทรัพย์สิน
ร่ายลิลิต สะกดใจ โบกโบยบิน
เสพศรีศิลป์ วัจน คละคลุ้งคำ๚