21 ธันวาคม 2548 05:29 น.
น้ำ
๏หนาว กายเกินกว่าให้ หนาวจิต
ลม เสียดผิวเช่นพิษ- ผ่าวแก้ม
หม่ ขวัญหมั่นตามติด ธัมถูกสุขแล
รัก แน่แท้ต่างแย้ม ยับยั้งใจเสมอ๚
๏หนาว กายวายชีพไซร้ ทนไหว
ลม รักปักอกใคร ทุกข์แท้
หม่ ผ้าอุ่นแต่ใน ทรวงแตกร้าวแล
รัก สบรักจริงแล้ หลากล้นสุขสรร๚
๏หนาว แล้วนวลนิ่มน้อง หนาวไหม
ลม แทรกซอนถึงใน อกแล้ว
หม่ สุขทุกข์มากไฉน หายหด
รัก ประจักษ์ใจแพร้ว เพริศพริ้งดั่งสวรรค์๚
๏หนาวเนื้อ หนาวเนื้อเมื่อ...หมายหอมแก้มเฮย
ลม วกใจวกตรอม...วิตกว้าง
หม่ ไหมแพรไหมถนอม...นวลนิ่มน้องนา
รัก ห่วงหวงห่วงร้าง...โลกลี้สวรรค์หาย๚
๏หนาว เนื้อเมื่อหม่เนื้อ หายหนาว
ลม รักหม่อกสาว แรกแย้ม
หม่ คำพร่ำพรอดคราว นัดพบกันนา
รัก จึ่งเจียมสงวนเนื้อ เผื่อไว้คู่สมร๚
20 ธันวาคม 2548 21:50 น.
น้ำ
๏มหาชนกชาดก๏
๑มหาสมุทรสุดว้าง วังเวง ใจเฮย
ปลาใหญ่ไล่ข่มเหง ดุร้าย
ดิ่งลึกนึกหวาดเกรง เป็นเหยื่อมันนา
ดาวดิ้นสิ้นชีพคล้าย สัตว์น้อยลอยสินธุ์๚
(จากวรรคทองว่ายเวิ้งวรรณศิลป์คุณหมอโมโน)
๒เวียนวนว่ายวัฏว้าง วิตกไหว
เวิ้งทุกข์ทอดยาวไกล ใหญ่กว้าง
ไฉนเรารั้งแรงไส ส่งว่ายอยู่นา
จำจ่วงโหยเคว้งคว้าง ทุกข์ท้นทนฝืน๚
(เทวดา)
๓นั่นใครไม่เห็นฝั่งฟ้า ฝืนเพียรอยู่เอย
ประโยชน์ใดไขเขียน จักพ้น
ความตายต่างแน่เนียน จมสมุทรตายนา
เพียงมนุษย์น้อยด้อยค้น แข่งข้ามไฉนถึง๚
(ดูกรเทวดา)
๔ไม่ถึงไม่หยุดยั้ง อุสาหะ
ล้างโลกโศกโลภะ ไป่สิ้น
น้อมเพ่งวิริยะ บุญมาก แสนนา
ไร้ฝั่งตั้งหทัยถวิล ว่ายพ้นสังสาร๚
๕ตายติตนไป่ได้ สามโลก ชมนา
เพียรสุดผลโบยโบก บั่นได้
มิเสร็จมิพ้นโศก ลำบากอยู่นอ
สถิตเทพเสถียรสถานไซร้ ต่างรู้เห็นหนอ๚
18 ธันวาคม 2548 23:17 น.
น้ำ
สุดเอ่ยอ้างพรรณาฟ้า น้ำใจทาอาบเอิบ เปิดโลกหล้าบังอบาย มิวายหวลครวญหา ดุจดั่งตาต้องแสง แสดงแก้วเก้าแก่นหล้า หลากสวรรค์๚
๏นนทบุรีสวัสดิ์ฟ้า ฟากบ้าน บ่อนเฮย
นัดด่วนภัตตราคาร ครึกครื้น
พงหลีชื่อนมนาน หารอร่อย มากนา
ดินแตกแห้งหาชื้น เยี่ยมแย้มยลกัน๚
๏พัลวันรถติดต้อย อนุสาวรี
หลายหลากตำรวจมี จับจ้อง
เข้าออกเอ่ยทางที ถามอยู่ ไหนนอ
แม้นทั่นจับผมร้อง ว่าแล้วหลงทาง๚
๏ถิ่นท่าทางไม่คุ้น ค้นหา ถึงพ่อ
หมายหมู่มิตรกัลยา อยู่ผู้
เขินจิตแต่ตั่งตา ฝันใฝ่ ดีเฮย
อายต่อครูไป่รู้ ฟากฟ้างามไฉน๚
๏ดุจอโยธยาเกริกแก้ว ลอยสวรรค์
มวลเทพประชุมกัน เจิดหล้า
เป็นบุญวาสหนาฉัน ได้สพ
สว่างรัศมีเบิกฟ้า ฝึกฟื้นใจจินต์๚
17 ธันวาคม 2548 22:26 น.
น้ำ
เพชรจากหิโตปเทศ
"คนโง่ตุหรัดตุเหร่ไป แต่คนฉลาดท่องเที่ยวไป"
๏ตุหรัดตุเหร่แล้ โง่งม
เลือกท่องเที่ยวสุขสม ฉลาดได้
พบคนพบดาษดม มากกลิ่น เหม็นนา
พบปราชญ์พบหอมให้ กลิ่นล้วนควรหอม๚
ปัญญาของท่านพุทธทาสล้ำเลิศที่สุด เมื่อท่านเขียน ว่า :-
"น้ำที่มีค่าที่สุด คือ เหงื่อ"
๏น้ำใดไหลซ่านล้วน สู่ดิน
น้ำเหงื่อเอื่อก่อสิน ทรัพย์นั้น
คำยอไป่ยลยิน ทั่นเอ่ย อวยนา
คำติควรค่าคั้น กลั่นรู้สิ่งสอน๚
17 ธันวาคม 2548 07:35 น.
น้ำ
สวัสดีวันเสาร์ครับ....อิจฉาทั่นที่ได้หยุดงานครับขอบอก..อยากไปดูด้วยตาและฟังเสียงด้วยหูตัวเป็นๆของอาจารย์ที่นัดพบกันมากเลยครับ...
และขอแปะโคลงยามสายแล้วครับ
งามเงื้อนเยือนสลักเงาอักษร ขจรศาสตร์บวรศิลป์ สืบดลจินต์เจิดสนาน สนองครองกาลสุขศรี๚
๏เช้าตรู่ลุกตื่นแล้ว แพร้วจินต์
เงาอักษรบวรศิลป์ สืบสร้อง
ใคร่กำหนัดโคลงยิน เสียงสั่ง สอนนา
คำปราชญ์วาดสิ่งเว้า ว่ายเวิ้งโคลงฉันท์๚
๏เพลงเสนาะเพราะอ่านเอื้อน ทำนอง
ฟังกล่อมใจเรืองรอง ขณะนั้น
กำหนดกฏคล้องจอง สูงส่งสลับนา
ขานจิตไขใจคั้น ครึกครื้นรื่นสาร๚
๏ยากดีมีจนล้วน หมายสุข
เฝ้ากอดงานเจ่าจุก หม่นใหม้
โคลงเพียงบทบั่นบุก หาอ่าน อิ่มนอ
เกิดจิตกระจ่างไซร้ สงบได้เสพสวรรค์๚