20 มกราคม 2547 01:08 น.

นกน้อย

น้ำ

ดอกรักบานในใจ
หวานละไม อุ่นไอ เต็มอกฉัน
ปรารถนา ฝากรัก คำจำนัน 
ยามหลับนั้น ละเมอ เพ้อทุกคลา

ฝันสลัวเลือนลางบอก
คล้ายสายหมอก มัวหม่น ยังค้นหา
แลมิเห็น หนใด แม่แก้วตา
ดุจภุมรา หาเกษร วอนคู่เชย

จวบเจียนจนฟ้าสาง
ใจครวญคราง วิเวก ว้างอกเอ๋ย
นอนเหน็บหนาว น้ำค้าง ยิ่งนักเลย
เมื่อไรเอย จึงพบ ประสพกัน

ความรักเราชะลอย
เพียงนกน้อย หลงถิ่น บินหาฝัน
โอ้นกเจ้า คงร้าว หนาวจาบัน
สิ้นชีพพลัน สิ้นทุกข์ จากใจ				
20 มกราคม 2547 00:14 น.

ไหว้ครู

น้ำ

๑
๏ สิบหกม.ค.โห่ร้อง              เวลาดี
เป็นฤกษ์กราบครูที่             ผ่องแผ้ว
ท้องฟ้าดื่นดาวมี                  รวมหมู่ มานา
เดือนเด่นเช่นใจแพล้ว       กราบแก้วครูกวี  ๚
๒
๏ขานคุณขานเล่าอ้าง           คุณครู
ขานเสนะไพเราะพรู           ท่านให้
ฉันท์ลักษณ์งามเลิศหรู        ดลแบบ
ครูสั่งสอนแน่ไซร้                มิได้มีเอง ๚ 
๓
๏น้อมเก็บดาวฝั่งฟ้า             ฝึกคำ  
อ้างโอษฐ์จันทร์ลำนำ            แด่ผู้
นวลแสงส่องกล่อมจำ            วรรณบท
เพ็ญพจน์พรพร่ำรู้               เรื่องร้อยกรองไทย  ๚
๔
๏เก็บดาวระยิบระยับฟ้า         มาเขียน
เก็บหมอกหม่นไหมเวียน       วาดเว้า
เก็บน้ำหยาดฟ้าเพียร            พรหมฉ่ำ
เก็บมิได้ดุจเฝ้า                     ใฝ่รู้คำครู ๚ะ๛ :				
15 มกราคม 2547 23:30 น.

ชิงช้า

น้ำ

เดินมาหาเพื่อนเล่น
เธอเห็นเจ้าโก๊กเพื่อนฉันไหม
ทุกวันเล่นกันไป
มาเร็วไวอย่าช้าเล่นดีกว่า

ต้นมะม่วง หน้าบ้าน ต้นสูงใหญ่
ออกลูกให้ ทุกปี ดีหนักหนา
ได้ปีนเล่น ขึ้นลง ยามเย็นมา
ส่งเสียงจ้า เจื้อยแจ้ว แล้วตะโพน

มีชิงช้า เชือกแขวน จากกิ่งไม้
ขอแรงให้ เธอไกว ขึ้นห้อยโหน
ชอบที่ได้ ล่องลอย เมื่อถูกโยน
แกว่งเอนโอน อ่อนคืน ที่เดิมพลัน

ไกวลอยล่อง ขึ้นสูง แล้วคืนสู่
มิเคยรู้ ทุกข์ใด ในใจฉัน
มาร่วมเล่น ชิงช้า กันสักวัน
ดุจใฝ่ฝัน สุขสรร สนุกกันเอย				
13 มกราคม 2547 07:37 น.

งาน

น้ำ

ยามตะวัน ครั้นอรุณ อุ่นใจวาว
ทุกคนก้าว เยื้องย่าง ต่างวิถี
ตามแบบอัน มั่นคง คุณความดี 
เป็นสุขศรี สรรสร้าง ทางพากเพียร

งานหมุนเวียน วันแล้ว ก็วันเล่า 
ทุกข์สุขเร้า ร่ำไป ฝักใฝ่เขียน
จดถ้อยร้อย จารึก เป็นบทเรียน
กานท์ก่อเวียน ใจกระจ่าง ต่างอารมย์

ยลเย็นเห็น อารมณ์ ข่มตัวตน 
ได้ขุดค้น ความคิด ผิดหมักหมม
รู้ใฝ่ฝึก ละวาง สิ่งหลงตรม
บ้างชื่นชม บรรเทา จนเบาบาง

ทุกข์มากมาย หายลับ ลดถดถอย
จิตฟุ้งฝอย ฝันกลับ สลับวางว่าง
แลเลือนราง แล้วเกิด ใสกระจ่าง
หายอ้างว้าง อบอุ่น ละมุมละไม				
7 มกราคม 2547 17:47 น.

บนลานอโศก(เนารัตน์พงษ์ไพบูลย์)ลอกโดย

น้ำ

http://www.geocities.com/thailiterature/np2.htm
บนลานอโศก เนาวรัตน์พงษ์ไพบูลย์

หยาดน้ำแก้วเกาะกลิ้งกิ่งอโศก
โลกทั้งโลกลอยระหว่างความว่างเปล่า
มีความรื่นร่มเย็นแผ่เป็นเงา
ลมแผ่วเบาบอกลำนำคำกวี

เราพบกันฝันไกลในความรัก
เริ่มรู้จักซึ้งใจในทุกที่
มีแต่เรามิมีใครในที่นี้
ใบไม้สีสดสวยโบกอวยชัย

อยากให้รู้ว่ารักสักเท่าฟ้า
หมดภาษาจะพิสูจน์พูดรักได้
เต็มอยู่ในความว่างกว้างและไกล
คือหัวใจสองดวงห่วงหากัน

หลับตาเถิดที่รักเพื่อพักผ่อน
ฟังเพลงกลอนพี่กล่อมถนอมขวัญ
ใจระงับรับใจในจำนรรจ์
ต่างแพรพันผูกใจห่มให้นอน

โอ้ดอกเอ๋ยดอกโศกตกจากต้น
เปียกน้ำฝนปนทรายปลายเกษร
โศกสำนึกหนาวกมลคนสัญจร
นกขมิ้นเหลืองอ่อนจะร่อนลง

เมตตาแล้วแก้วตาอย่าทิ้งทอด
ช่วยให้รอดอย่าปล่อยบินลอยหลง
จะหุบปีกหุบปากฝากใจปลง
จะเกาะกรงแก้วกมลไปจนตาย

งามเอยงามนัก
แฉล้มพักตร์ผ่องเหมือนเมื่อเดือนฉาย
งามตาค้อนคมเยื้องชำเลืองชาย
ลักยิ้มอายแอบยิ้มงามนิ่มนวล

จะห่างไกลไปนิดก็คิดถึง
ครั้นดื้อดึงโดยใจก็ไห้หวน
ถนอมงามห้ามใจควรไม่ควร
ให้ปั่นป่วนไปทุกยามนะความรัก

ผีเสื้อทิพย์พริบพร้อยลอยแตะแต้ม
เผยอแย้มยิ้มละไมใจประจักษ์
ทุกกิ่งก้านมิ่งไม้เหมือนทายทัก
ร้อยสลักใจเราให้เฝ้ารอ

ฝันถึงดอกบัวแดงแฝงผึ้งภู่
คล้ายพี่อยู่เป็นเพื่อนในเรือนหอ
ชื่นเสน่ห์เกษรอ่อนละออ
โอ้ละหนอหนาวนักเอารักอิง

ในห้วงความคิดถึงซึ่งเงียบเหงา
ใจสองเราเลื่อนลอยอย่างอ้อยอิ่ง
คอยคืนวันฝันเห็นจะเป็นจริง
โลกหยุดนิ่งแนบสนิทในนิทรา

ร่มอโศกสดใสในความฝัน
ร่มนิรันดร์ลานสวาทปรารถนา
ร่มลำธารสีเทาเจ้าพระยา
และร่มอาณาจักร.....ความรักเรา				
Calendar
Lovings  น้ำ เลิฟ 2 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟน้ำ
Lovings  น้ำ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟน้ำ
Lovings  น้ำ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงน้ำ