9 เมษายน 2546 07:50 น.
น้ำ
แจ้งใจแลใจแจ้ง มิแล้ง มิหนาย
ให้สรวน สำราญ ด้วยจินต์ทุกท่านทุกตน
ทุกยลทุกยิน อีกไฟที่ร้อนในอก สิไฟฟ้าสว่างแสง เปรี่ยมพลังแรง ให้แสงให้สี
ดีในใจ
ไข้ใจหายไขใจหวนทวนสำนึก
นิตรึกดูรู้ใจแจ้งแจ้งใจตน
จะผ่อนรน
ผ่อนพัก
หลักใจ
ในจินต์
กานท์
9 เมษายน 2546 07:46 น.
น้ำ
ทุกข์กายถ่ายสู่ใจ ใจดู
ใจสู้ทุกข์ ทุกข์อยู่สู้ใจ
มิถอย ถอยไร ใจไรมิถอย
จักแจ้ง มิรู้จักมืด จักจืดมิรู้จักขม
ใจเขาใจเราเนาตรง
หลงจักมิรู้แจ้ง
หายหลงรู้จักหลง
จำจารใจลงโคลงใจ
ใจใช้ธรรมชาติหลงดิ่งตรงไป ใจคอยดู
เขาไกร ทะเล ไพร ไหว นิ่ง อิงอุ่นใจ
จึงถอนหลงคงเหลือหลง
ให้หลงคงเหลือ ใจดู
9 เมษายน 2546 04:01 น.
น้ำ
นกเอยนก พิราบเจ้าบิน ในถิ่นเคย
รักคู่ชู้ จังเลยหากิน บินแล้วผินลง
ตรงนี้มีคน
ให้เม็ดข้าวเม็ด ป่นเป็นวันดี จนอิ่มใจเรา
แต่เจ้าเดินขึ้น ขึ้นขึ้นลงลง เขย่งเตเตง
เท้าเจ้ามีหนึ่ง
มิเห็นเจ้าร้อน มิเป็นเห็นไร มิบ่นท้อใจ
ยังคาบหนอนหนม กลับรวงรังยัง เลี้ยงลูกอีกสอง
สบายสบาย
คนเห็นเป็นข้า ร้องหวนครวญใจ ว่าใครช่างทำ
นกคงระกำ ช้ำวิญญาไพร แต่นกในใจ
มิบ่นท้อใครเอย
9 เมษายน 2546 00:07 น.
น้ำ
ดอกแก้วหอมเย็นเป็นไอสู่ใจ
ต้นสูงส่งระหงไสวแผ่ก้านบรรณใบ
ลมโชยรวยลื่นชื่นหทัยยิ้มละมัย
หน้าบ้านชายคาร่มพรมพร่ำกลิ่นลม
ป้าหมอของหลานวัยรอนรวี
เอนกคุณบารมีเลี้ยงพี่ร่วม
ยี่สิบหกคนล้วนกำพร้าเขาลืม
ใจแม่ยืมแผ่ไออุ่นขุนใจทุกใจ
หลอมหทัยละลายสยายคุณ
จวบจนวันวัยคล้อยลอยนัย
แปดสามสมัยฤดียังศรีไสว
ลูกได้เบ่งผลิดอกออกหอมใจ
ลูกเยี่ยมเยียนเวียนไหว้รวมบำรุง
ป้าหมอบางวันบ่นอย่ายุ่งกวนใจ
จะนอนอ่านกลอนไกวแย้มประไพ
ไว้ไรไรรอรอจะจรจากเจ้าไปลางลาเอย
8 เมษายน 2546 04:21 น.
น้ำ
นาสายเส้นยาวราวฝันปันใคร
คันนายาวไกลให้เร่งเกรงเดิน
เมินใจจากเมืองสู่เขินนาเพลิน
จับปูเนินนาเก็บดองเค็มไว้กัน
สูบน้ำทั้งวันแล้วยังไม่เต็ม
อกคงเข็นเป็นไฉนใครแกล้ง
เดินแล่นล่องคันนามองแหล่ง
จนเจือแจ้งจึงรู้ว่ารูเจ้าปู
พ่อสอนให้เอาดินอุดรูปูนั้น
แล้วหมั่นเดินตรวจรอบรอบคู(นา)
จึงสูบน้ำล้นท้นพอเพียงเต็มดู
สุขใจอยู่ใต้เงากล้วยช่วยกัน
นาเขียวอ่อนนอนใต้ต้นมะขาม
จนยามสายบายเย็นมิจำหมาย
จะกี่อื่นหมื่นแสนมิแคลนคลาย
ชีพแม้นวายวอนเจ้าลูกชาวนา ยังคอยเธอ