29 มีนาคม 2546 02:24 น.
น้ำ
กายกลกาล ขนานมิติ มีมิติมากมาย
ไร้ตัวไร้ตนไร้ดลวิชา(ใจ)
สนุกหนักหนามีเรื่องมากให้เพลินนา
ดูหนังฟังเพลงบรรเลงเกมขำขาน
วิญญาณกลกาล ขนานมิติ มีมิติมากมาย
ไร้ตัวไร้ตนคอยดลวิชา(ใจ)
เจ้าตัวอักสรร้อยเรียงขบวรว่า
วิจิตรครบถ้วนล้วนมีคุณค่า
ปัญญากลกาล ขนานมิติ มีมิติมากมาย
ไร้ตัวไร้ตนคอยปลุกดลวิชา(ใจ)
หาเทียบเปรียบใดใจสอนใจ(ครู)
สูงส่งใฝ่หาภูมิปัญญาชาติไทย
29 มีนาคม 2546 00:12 น.
น้ำ
ณ.กาลขนานมิติ มิเคยรู้ ว่ามีใจอยู่
บ้างถอนใจ ก็ระบาย ไว้พรายพรู
และศรัทธาตน รู้ได้ ก็ยังสู้
พอตรองดู บ้างเหงา ก็ใจเขาใจเรา(รู้)
ใจข้อย ใจใคร ใจเหมือนกัน
ฝันอาจแบ่งปัน เผื่อใคร ได้เดาดู
ฝันสอนใจ ฝันเพ้อไป ฝันงามหรู
ข้อยจักลอง ปฏิบัติดู ก็เผื่อเป็นจริง
แลน้อยคน ก็น้อยความคิด ความหมาย
ได้ละบาย คำ(ไม่)ขำบ้าง ใจจึงสวย
ร้อยคำคม มารวม จึงจะช่วย
หนึ่งใจด้วย พ้นครรลอง ความตรอมตรม
ณ.กาลขนานมิติ ยังมีมิติ มากมาย
เพื่อผ่อนร้าย ชูความดี ครั้งบุราณมา(กวี..กลกลอน)
ใช้อักษร คารมดี มีวิธีมา
หากว่าเรา เปิดใจ รับฟังความดี
28 มีนาคม 2546 07:13 น.
น้ำ
รถเก๋งคันงาม สามวา มารับน้องคนดี (โอ้โหรถหรู)
ตามรับทุกที เลิกงาน มาส่งบ้าน
วันเสาร์วัน หยุดชวน น้องดูหนัง
โทรคุยกัน ทั้งวัน แสนดีใจ (พี่ก็ดีใจนิ..นิมีสุข)
วันหนึ่งหายหน้า ถามน้องว่า เขาไปไหน (ตาแดงแดง)
น้องเขาว่า มีใหม่จร น้ำตานองตกใน (สามวันเน่)
เขาไม่รับ ไม่โทรศัพท์ ไม่เมล์ลืมกัน (พี่นิ..เจ็บที่ใจจัง)
น้องว่าขอลืมวัน ตั้งใจ ทำงานดีดี
เอาอีกแล้วเรา ต้องรับน้อง ตอนเลิกงาน (น้ำมันเติมที100อิ)
รถคันสั่น เก่าเต่าคลาน กว่าถึงบ้านที (เกือบเข็น)
วันหยุดแล ทุกวันช่วยเขา กวาดถูบ้านถี่ (ผัดผักบุ่งไฟแดงกินกันอร่อยนิ)
โทรตู้คุยที ทุกกลางวัน น้องทำงานง่วน (โทรทีบาท....ตั้ง3ปีนะ)
วันนี้วันเกิดน้อง พี่ก็ฉลอง อวยชัยดีใจ (ร้องเพลง..สุรชัย3ช่า)
พาไปเดินสวน ชมดอกลำดวน นกร้องครวญ (จู๋จี๋คู่สวนกะทรวงสาสุข)
แผนพี่ย้าวยาว ขอน้องคนดี แต่งงานกาน (2บ้านค่าเช่าเดี๋ยวแพง)
นายเรียกตื่น ฝันกลางวัน เร่งทำงาน พี่เป็นงี๋ทุกวัน (แอบนอนอิอิ)
27 มีนาคม 2546 23:18 น.
น้ำ
รูปกวีงามสู่ใจงาม
ลายเส้นอักษร วรรณวิ จิตร ดลลิขิต
เป็นเชิงนิต(โลกนิติ) วงศ์หงส์ สงค์อักษร
จะพรอดพล่ำ คำนำ ล่ำคำกลอน
ผ่อนทุกข์ร้อน ภัยลน ด้นดลจาร
เสียงสำเนียง เสนาะเพราะ สำนวนกวี
เช่นทำนอง ดลตรีฟ้อน อัปสรสาร
ผัสสะ นอกทบใน ให้จำขาน
แลสอนใจ ใฝ่ธรรม จำกลครู(ครูม้า)
เปรียบอากาศ โสตรู้กลิ่น สินาสิก
เผื่อจริต วงศ์วรรณ ชั้นเชิงพรู(ครูอัล)
ใจปิติ สุขเย็น เพียรอยู่
นทผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
รสหวานคำ ร้อยหวานถ้อย ล้ำฉ่ำทรวง
บ้างคำผวน คำพ้อง คำคล้องจอง
เป็นร้อยกรอง ร้อยแก้ว แพร้วคำ
อัถรส ผิว์อร่อยลิ้น คลายสิ้นคร่ำ(ครวญ)
ผิวกายสัมผัส รูปเย็นร้อน อ่อนแข็งเคร่ง.........(ตึงไหว,ครูยุภา)
ผัสสะใน ลงสู่ใจ ได้รับรู้
สุขสดใส สุขฤทัย สุขพร่างพรู
น้อมมิตรอยู่ นทครูกวี นบปราชญ์กลอนเอย
27 มีนาคม 2546 08:59 น.
น้ำ
ขวัญแก้ว
พบแก้ว นบแก้ว จอมแก้ว
แววแวว แพรวแพรว แพร้วแพร้ว
ยิ้มแย้ม ยิ้มเย็น ยิ้มเพลินแล้ว
ใจแก้ว เพลินยิ้น พริ้มใจ
นทแก้ว มิตรแก้ว กัลยาแก้ว
พบแล้ว แก้วขวัญ ขวัญแก้วใน
นิมิตรแก้ว แวววับ วับแววใจ
น้อมใน แพร้วเย็น ฤทัยเพ็ญ
ดั่งเกล็ดแก้ว กลางนภา เวทมนตรา
ดลอุรา ดลทั่วนา ดลให้เย็น
เด่นกลางใจ เด่นภายใน เด่นเดือนเพ็ญ
สุขแย้มเย็น เพ็ญแย้มยิ้ม พริ้มทรงทรวง