30 มีนาคม 2546 00:58 น.
น้ำ
โอ้กานดาแม่ข้า หนใด ใจเอย
เจ้าจากพี่ไปใจ เดี่ยวผ่าย
พลิ้วลมร่มทิวไผ่ ไป่ไสว ใบโบก
สัจจะหัวใจพักตร์ จักท้วง หทัย...ฯ
กระแตกระต่ายใต้ เงาจันทร์ เจ้าเอย
หมายใฝ่ฟ้าสูงส่ง ห่อนรู้
หิ่งห้อยค่อยน้อยแสง แข่งคู่ ดวงแข
กายใกล้ร้าวรานแน่ ไป่สู้ รวี...ฯ
โอ้อกเอ๋ยอกข้า กลกาล วานวัน
ครั้งก่อนดลกลอนกานท์ จันทร์จาก
ดาวดวงเด่นเห็นแวว ใสสด วิวแวว
ขอเพ็ญเดือนเต็มแก้ว ใจข้า หวังปองฯ
29 มีนาคม 2546 20:53 น.
น้ำ
น้องยา
รักเอยรักหวานนักรัก น้องยา
แสนคำหวานร้อยมาเรียง แก้วตา
ดอกเอยดอกซ่อนกลิ่นถิ่น เจ้านา
ซ่อนใจข้าไว้แห่งหนไหน แล้คา
รักเอยรักมิเคยจักเจ้า ใจข้า
รักซ่อนแลซ้อนคำหวาน แก้วตา
เจ้าจากลาจะลาจาก โรยรา
จักมิขอไรแล้วสิ ไห้ยืน
เดือนเอยดาวเอยช่วยข้า ดลที
สุรีย์เอยจรัสแสงแรง ดลคืน
มวลหมู่จักรดารา ดลใจหวน
ดอกเอยดอกพิกุลซ่อน หล่นใด
จันทร์เพ็ญเด่นเดือนเต็ม รัศมีเย็น
ลอยนวลชวนดลเพ็ญใจ เห็นใส
หมู่ดาวพราวแพร้วแลแล้ว แก้วเย็น
รอจันทร์เย็นเพ็ญใจทาสิ นี้รอ
29 มีนาคม 2546 15:56 น.
น้ำ
ทางด่วนล้วนรีบ
แรงรถรถแรงเร่งบึ่ง ให้ถึง
ที่หมายปรายทางถ้อง เดินทาง
จำแรงแทงเร่งบนทางด่วน ท้าทาง
ผองเพื่อนล้วนเร็วแล่นเลน แรงด่วน
แล้วฟ้าหลั่งฝนพรำร่ำ เนืองนอง
แรงรถแล่นแผ่นทะน้ำ ท้นทวน
ลมพัดเพิ่มแรงฟองน้ำ ฝ่ามวล
ลมหวนทวนลมม้วนสวน ละออง
พรายหวนหมุนหมอกม่านฟุ้ง ขจาย
พ้นพร่างพุ่งผ่องทั่วคาย รอบเร้า
แรงรุ่งทะปะเข้าทลาย ฟ้องเศร้า
เร่งเสียดเบียดฝ่าเคล้าเจ้า จะร่ำ
จิตรเที่ยงจับจ้องพวง มาลัย
ไม่หมายไม่ละไปเรียด แล่นเล่น
จำแจ้นเลนด่วนล้วนรีบ ตะลาน
ใจจำจารใจจลเข้า ใจจริง
29 มีนาคม 2546 07:50 น.
น้ำ
เดินเล่น
ชวนน้องยา มาเดินชม สวนรื่นรมย์
บิดแขนขา คลายทมเมื่อย คลายเหนื่อยมล
พักผ่อนให้ ร่มอารมณ์ พรายลมพรม
ชวนเชยลม อ่อนผ่อน พัดวีแวว
ต้นไม้ต่าง ต่างนานา มีหลายพันธ์
ดอกพ้อจัน สัตตบรรณ ฉ่ำใจวาว
เดินไปโยก ม้ากระโดก โหกสองห่าง
แท่นอีกทาง ม้าหมุนวน ดลหัวใจ
มาออกท่า เอ็กเซอร์ไซร์ ค่อยดัดตัวอ่อน
เอ็นขาสอง ในนอก เอวอกเอนไป
แล้วสัมผัส ห้วงความสุข กาลนานดัย
สดชื่นบาน หายใจลม หทัยเบา
ชวนดูปลา ฝูงคร้าฟว่าย วนเป็นหมู่
โปรยเม็ดพรู ฝูงปลาวน อิ่มใจเนา
แลสายลม เบาไกว กล่อมคนดีเฝ้า
มีกำลังเบา กายบรรณ ใจชื่น บานฤดี
29 มีนาคม 2546 02:24 น.
น้ำ
กายกลกาล ขนานมิติ มีมิติมากมาย
ไร้ตัวไร้ตนไร้ดลวิชา(ใจ)
สนุกหนักหนามีเรื่องมากให้เพลินนา
ดูหนังฟังเพลงบรรเลงเกมขำขาน
วิญญาณกลกาล ขนานมิติ มีมิติมากมาย
ไร้ตัวไร้ตนคอยดลวิชา(ใจ)
เจ้าตัวอักสรร้อยเรียงขบวรว่า
วิจิตรครบถ้วนล้วนมีคุณค่า
ปัญญากลกาล ขนานมิติ มีมิติมากมาย
ไร้ตัวไร้ตนคอยปลุกดลวิชา(ใจ)
หาเทียบเปรียบใดใจสอนใจ(ครู)
สูงส่งใฝ่หาภูมิปัญญาชาติไทย