23 มิถุนายน 2556 20:23 น.
หน้อย เตวง
ละอ่อนน้อยสบบงวิ่งเล่นลับลี้**กัน ตั้งแต่หัวค่ำ
เล่นไล่กัน บ่ฮู้จักเหนื่อยอ่อนอันใด ...........
เสียงนับเลข ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑.....
ยังดังขึ้นอยู่เป็นระยะ คงจะผลัดกันเป็น ผลัดกันซ่อน
คนใหญ่นั่งยะการอยู่บนบ้านชั้นสอง เตรียมการ
งานอะหยั๋งบ้างอย่างคนเดียว เสียงนับงานแต่ละชิ้น
ก็ดังขึ้น ๑ ๒ ๓ ๔ ๕...........
ละอ่อนน้อย ยังเล่นกันอยู่ เริ่มค่ำแล้ว.....ข่าววิทยุที่เปิดทิ้งไว้หน้าบ้าน
มันบอกกรอกใส่หูไว้ว่า พายุ จะเข้า ๑ - ๒ วันนี้..... แม่อุ๊ยตาบ่ลืมเลย
ที่จะไปกาดซื้อเตียนเล่มละ ๓ บาทเอาไว้บนตู้กับข้าว...........
ละอ่อนยังคงวิ่งเล่นลับลี้ เสียงเริ่มดังขึ้น ๆๆๆ มาเป็นระยะ
เสียงใข๋หัว เอิ้ก ๆ ของละอ่อน มันทำหื้ออุ๊ยตามีความสุข
อยากจะบอกบ่ถูก
คนใหญ่เริ่มหิวข้าว ละทิ้งการงานไว้บนบ้าน ลงบันใดมาลุ่ม***บ้าน
นึกขึ้นได้ ซื้อผักปั๋งไว้ห้องครัว ลวดขึ้นไปบนบ้านแหมกำหนึ่ง
ไปเอาจิ้นส้ม****อัน ๕ บาท อัน ๕ บาทแต้ ๆ สมชื่อมันนะ.......
สักกำ.....ก็ได้แกงจิ้นส้มใส่ยอกผักปั๋ง ๑ ถ้วย...................
กินแล้วก็ขึ้นมายะการต่อไป..........................................
ละอ่อน.....ยังเล่นกันอยู่ เสียงดังขึ้นมาบนบ้านของคนใหญ่นี้
สักกำ.....เสียงเป่าเค้ก ดังขึ้นมา แฮปปี้เบริด...เดย์...ทู....ยู
แฮปปี้เบริด...เดย์...ทู....ยู
แฮปปี้เบริด..............เดย์...ทู...........ยู
เสียงหัวเราะดังขึ้นอีกครั้งหลังจากเป่าเค้กเสร็จสิ้นลง..........
ผู้ใหญ่คิด "คงมีใครสักคนที่เกิดในวันนี้ ก๋า "
ย้อนคิดไปวัยละอ่อนแหมครั้ง มันก็คงม๋วนชื่นแบบนี้.....
เป็นละอ่อน อยากเป็นผู้ใหญ่
บ้างครั้งผู้ใหญ่ ก็อยากกลับไปละอ่อนแหมครั้งเหมือนกัน.....
*เด็กน้อย **ซ่อนหา ***ข้างล่าง ****แหนม
17 กรกฎาคม 2555 11:49 น.
หน้อย เตวง
สภาพของสำนักงานเทศบาลแห่งหนึ่งในตัวเมืองยังคงวุ่นวาย เอกสารทั้งกองคลัง กองสวัสดิการชุมชน ไหนจะหนังสือเข้า ออกอีก ...นี้มันวันจันทร์แท้ ๆๆ สุชาติ เด่นขจร รองปลัดฯหนุ่มคนนี้ ยังต้องจัดการเอกสารทั้งหลายนั้นด้วยตัวเอง เพราะปลัดเทศบาลนั้นยังว่างอยู่มาหลายเดือนแล้ว ทางกรมก็ยังไม่ส่งผู้ใดมา ทั้งสำนักงานต่าง ๆ ก็ลงความเห็นว่า รองฯปลัดหนุ่มผู้นี้อาจได้เลื่อนขึ้นเป็นปลัด.....
รองฯสุชาติค่ะ หนังสือด่วนเข้ามาค่ะ เสียงเจ้าหน้าที่ธุรการสาวกล่าวขึ้นมา พร้อมกับส่งหนังสือทางราชการ ที่ประทับตราด่วนมาก
จากไหนเหรอ ราตรี รองฯปลัดหนุ่มหันมาถามทันที
จากศาลากลางจังหวัดค่ะ
เขาจึงรีบอ่านทันที คำสั่งให้ นายสุชาติ เด่นขจร ย้ายไปดำรงตำแหน่งปลัดตำบลเวียงพรม อำเภอหนึ่งในจังหวัดเชียงราย
จะว่าไปแล้วนับเป็นข่าวดีและข่าวร้ายสำหรับเขามาก ข่าวดีก็คือเขาได้เลื่อนขึ้นเป็นปลัด แต่ข่าวร้ายนี้สิ เขาต้องออกจากเทศบาลนครที่เจริญยิ่ง ...ไปอยู่ภูธรบ้านนอก
ผมมากราบลาท่านนายกครับ
เออ คุณสุชาติ ผมขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ หวังว่าคงได้เจอกันอีกนะครับ เสียงของท่านนายกเทศมนตรีนคร ผู้ภูมิฐานกล่าวขึ้น พร้อมกับรอยยิ้ม
ครับผม ลาละครับ
ข้าราชการฝ่ายการเมืองและข้าราชการฝ่ายประจำมันก็ต่างกันตรงนี้แหละ สุชาติหวนคิดไปถึงตอนนั้น...ตอนที่สังคมกำลังจะสิ้นความหวัง เขาและข้าราชการหลาย ๆ คนต้องถูกสอบสวนเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่นเรื่องที่งี่เง่ามากเลยทีเดียว รวมไปถึงปลัดคนนั้นต้องถูกย้ายไป เพราะว่าไปขัดผลประโยชน์กับผู้มีอิทธิพลเข้า........เรื่องผลประโยชน์แท้ ๆ .....
ผมก็ไม่ต่างจากปลัดวันชัยเท่าไร คุณว่าไหม สุชาติพูดขึ้นพร้อมกับถอดหายใจ มองไปยังหน้าสำนักงานเทศบาลนคร...
อืม ...ก็ถือว่าพาดเคราะห์ไปก็แล้วกัน ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้นมา
พาดเคราะห์ ..... จริง ๆ อย่างที่คุณพูดสุชาติยิ้ม และก็เดินขึ้นรถไป
หลายเดือนต่อมาชีวิตของปลัดสุชาติได้ไปใช้ชีวิตอยู่ในชนบท ได้เรียนรู้คำว่าประชาชนจริง ๆ จากตำบลเวียงพรมนี้ ถือว่าเป็น อบต.ที่กำลังจะเจริญขึ้น ส่วนผู้บริหารฝ่ายการเมืองนั้นก็มาจากกำนันเก่าที่ได้เสียสละจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง มาเป็นผู้บริหาร อบต. ไม่มีเรื่องที่ต้องปวดหัวเหมือนในตัวเมือง
ชายคนนั้นที่สุชาติเคยเจอสมัยอยู่เทศบาลนคร ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งหนึ่งที่ อบต.นี้ สอบถามไปมาจึงรู้ว่าชายคนนี้มาหานายก อบต. ที่ห้องทำงาน สุชาติหวนกลับไปถึงเหตุการณ์นั้นอีกครั้ง ชายคนนี้แหละที่จะเป็นผู้รับเหมางานก่อสร้างต่าง ๆ ที่เคยทำมา เขาจะดีกับผู้บริหารทุกคนรวมทั้งตัวเขาด้วยในสมัยนั้น แต่จะชั่วต่อประชาชนทุกคนที่ยอมจ่ายภาษีให้กับทางรัฐ ถนนเส้นนั้นสุชาติยังจำได้เสมอว่า มันชำรุดก่อนกำหนดเสียจริง ๆ
โครงการถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ......... ป้ายมันบอกว่าอย่างนี้จริง ๆ แต่ไม่ไผ่มันมาจากไหนว่ะ ...
11 กรกฎาคม 2555 22:01 น.
หน้อย เตวง
เสียงที่ดังสนั่นไปทั่วขอบเขตคุ้มเจ้าหลวง ยังดังขึ้นเป็นระยะ ประกอบกับเสียงดังลั่นของปืน ผู้คนต่างก็วิ่งชุลมุนไปมา พวกเจ้านายต่างก็พากันหนีอย่างวุ่นวาย
เจ้าหลวงอยู่ไหน ....หนานผาตวาดถาม
ข้าเจ้าบ่ฮู้ ข้าเจ้าบ่หันหญิงรับใช้ร้องบอก
เฮาต้องคุ้มครองเจ้าหลวงหนานผารีบพาข้ารับใช้ผู้ชายวิ่งไปด้านหลังคุ้มทันที
บรรยากาศแห่งสงครามกลางเวียง ยังดำเนินต่อไป หนานผาพาข้ารับใช้ไปศาลากลาง เพื่อจะขอเปิดเอาอาวุธปืน ไปต่อสู้รบกับพวกก่อความวุ่นวาย หากว่าไม่มีปืนก็ไม่รู้จะต่อสู้อย่างไรถึงจะเอาชนะได้ ขณะจะหาทางเข้าศาลากลางนั้น ก็ต้องอ่อนใจอย่างหมดแรง
ตายละ ปืนอยู่ชั้นบน ต้องรีบไปบอกเจ้าหน้าที่ทางการ หนานผาจึงบอกให้ข้ารับใช้รอรับคำสั่งอยู่ข้างกำแพงศาลากลาง
อีกสักครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ หนานผาออกมาด้วยความผิดหวัง
สูเจ้า จงฟังข้ารีบไปรักษาครอบครัวของเจ้า พวกเงี้ยวจะบ่ฆ่า หากบอกว่าเป็นคนเมือง กลับไปได้แล้ว
พวกข้าใช้ก็รีบเดินทางไปทันที สิ่งที่หนานผาต้องเผชิญขณะเข้าไปบนศาลากลางนั้นคือ พวกคณะผู้ก่อการได้ยึดอาวุธปืนไว้หมดแล้ว ได้จัดการตัดสายโทรเลขการติดต่อสื่อสารต่าง ๆ ได้ดับลงในขณะไว้หมดแล้ว หนานผาผู้เป็นคนเมือง ผู้ไม่รู้ถึงการกระทำเช่นนั้นของพวกเงี้ยว ที่กระทำการเช่นนี้ ทำไมเพราะเหตุอันใด จึงต้องก่อเหตุ ???
ด้วยความเหนื่อยล้า หนานผาจึงได้หลบซ่อนไปอยู่ที่ในวิหารวัดหลวง เพื่อสวดและภาวนาขอให้เหตุการณ์มันจบลงด้วยดี และก็เหมือนว่าคำขอนั้นศักดิ์สิทธิ์นักแล เหตุการณ์ผ่านไปมีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายเกิดขึ้นพร้อมกัน คณะผู้ก่อการในครั้งนี้ถูกจับในข้อหากบฏเงี้ยวเมืองแพร่ พระยาไชยบูรณ์ข้าหลวงต่างพระเนตรพระกรรณถูกฆ่าตาย และเจ้าเมืองได้ลี้ภัยไปเมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว
สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ หนานผา ผู้อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นหวนขบคิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ
เป็นเพราะเรื่องนั้น ๆ แน่ ผลประโยชน์การค้าไม้สัก
พวกต่างชาติมันมาค้าขาย มันเอาไม้บ้านเมืองเฮาไป มันก็เฮาสตางค์หื้อ ราคาก็งามดี เฮาก็ได้ผลประโยชน์ร่วมกัน ... คำพูดนี้ยังจำขึ้นได้สำหรับหนานผา
สายลมพัดเข้ามาอย่างเย็น สายแม่น้ำยมยังคงไหลต่อไป บุหรี่ขี้โยยังปล่อยควันออกมาเป็นสาย ชายคนนั้นยังคงรำลึกและเสียใจที่พวกชาติตะวันตกมาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ของชาวบ้านชาวเมืองไป และเท่านั้นยังไม่พอยังเป็นผู้สนับสนุนการก่อเหตุในวันนั้น แต่ทางหลวงก็หาทำการใดได้...
เสียงโซ่ตรวนดังขึ้นเป็นระยะ กฏบเงี้ยวเกือบทั้งคณะต้องเดินทางไปรับโทษที่กรุงเทพฯ...