27 สิงหาคม 2555 22:58 น.
หน้อย เตวง
เมื่อยามรักใฝ่ห้อง หัวใจ
หญิงหนึ่งบุรุษใคร่ แอบอ้าง
แม้นรู้รักไกลใกล้ อกนี้ เจียมตน
โอ้ภมรตอมกลิ่นน้อง มากล้นชิงนาง.....
10 สิงหาคม 2555 00:24 น.
หน้อย เตวง
หลับตาลงสู่ภวังค์ความมืดมิด
ปิดกั้นจิตสงบใจในความหมอง
ชอกช้ำรักจากผู้ใฝ่ฝันปอง
โอ้นวลน้องจากไกลมิกลับคืน
เปิดเปลือกตาดวงใจยังคงหลับ
ขาหักเอ็นขาดร่างขัดขืน
ดวงใจล้มฟาดไม่หยัดยืน
แต่ตัวยังยืนเหน่อมอง
ในความเศร้าความร้าวความรันทด
เหมือนม้าพยศเหยีบย่ำท้อง
ทุ่งหัวใจแหลกเหลวปลิวละออง
ลอยสู่ท้องนภา
มองดวงจันทร์สลับกับที่มืด
เปรียบเทียบคืนและวันอันฝันหา
แสงจันทร์ต้องจิตร้าวกายา
ความมืดจงพาข้าจากไป
จะขอเป็นความมืดจนสิ้นจิต
บังอาทิตย์บดจันทร์ป่นเทียนไข
จะขอเป็นแก้วร้าวร้าวสุดใจ
ที่ขว้างออกไปสุดกำลัง
พุ่งตรงสู่ปรายโค้งขอบฟ้า
กระแทกพสุธากลับหลัง
หมุนขว้างตรงข้ามจากกัน
ทะเลฝั่งภูผาฉันและเธอ....
ประพันธ์โดย ก้ำ เมืองปัว
6 สิงหาคม 2555 12:03 น.
หน้อย เตวง
นั่งนับเดือนนับดาวพราวบนฟ้า
รอเวลาหลุดล่วงตกฟากเขา
จะวิ่งไปจับคว้าด้วยมือเรา
หวังเป็นเจ้าครอบครองก้อนดาวนั้น
แต่เวลาเมินนานกาลความคิด
จึงรู้พิจปริศนาน่าขบขัน
ว่าที่จริงดวงดาวต้องแสงจันทร์
ส่องเห็นพลันแสงดาวพราวจันทรา
โอ้บ้านเมืองแท้จริงใครคือเจ้า
หรือว่าเราตาสีและตาสา
อาจจะเป็นผู้ดีมีราคา
หรือผู้ว่าฯนายกไม่สงสัย
อันตำแหน่งยศลาภนั้นคือดาว
เปรียบสูเจ้าทั้งหลายได้อาศัย
แต่ตัวข้าประชาชนคนทั่วไป
คือแสงไฟจากจันทร์นิรันดร....