6 มีนาคม 2548 16:42 น.
นุสรณ์
ไม่ใช้ตัวแสดงแทนไม่ใช้สลิง
ทุกบทล้วนเอาตัวจริงเข้าว่า
สุขทุกข์ร้าวรวดเจ็บปวดน้ำตา
ฟันหลุดปากเลือดอาบทาเข้าใจ
ทุกบทที่ก้าวย่างทางชีวิต
ถูกผิดยากกลับมาแก้ไขได้
เหยียบให้เต็มฝ่าเท้าแล้วก้าวไป
ให้มั่นใจที่ทำไป ให้มั่นใจ
สมควรเลือกเองแหล่ะชีวิต
ใช่ยืมมือใครลิขิตขีดเขี่ยให้
one take only ที่เป็นไป
ดีร้ายเป็นตายอย่างไร เลือกเอง ฯ
6 มีนาคม 2548 16:08 น.
นุสรณ์
แยบยลจริงหนอก่อเป็นรูป
ดิน น้ำ ไฟ ลม สรูปอุปาทานขันธ์
เกิดดับสันตติเชื่อมเชื่อทุกเมื่อวัน
เกินกำหนดรู้ทัน อนิจจา ฯ
5 มีนาคม 2548 13:36 น.
นุสรณ์
เหมือนว่าเราเคยเหงาร่วมกัน
ณ โมงยามสั้นสั้นของวันก่อน
แบ่งความเหงาเล่าความฝันกันก่อนนอน
ให้หัวใจที่ไหวอ่อนได้มั่นใจ
และวันที่ต้องเหงาเพียงลำพัง
ไร้คนฟังเป็นแต่บ่นกับคนใบ้
ร้อยพันคำที่ข้นขลักจากข้างใน
ต้องระเหิดระหายไปในสายลม
แหล่ะวันแล้ววันเล่า
ที่ความเหงาเพียงลำพังได้สั่งสม
ตกผลึกความเข้าใจในอารมณ์
แท้ความสุขล้วนสั่งสมจากหัวใจฯ
5 มีนาคม 2548 13:23 น.
นุสรณ์
ใช่ว่าหยุดฝัน......ก็แค่วันที่ท้อใจ
เป็นแต่เพียงความหวั่นไหวใจดวงหนึ่ง
อาจยังไม่ลึกซึ้งพอต่อขวากหนาม
อาจมีบ้างเดินเหยียบเฉียดนิยาม
ชีวิตความเป็นไปใยยากเย็น
สู้จนท้อรอจนล้าน้ำตาฝัน
แววตาร้าวก้าวเท้าย่ำทางไม่เห็น
หยุดไขว่คว้าหาที่สุดหยุดตระเวน
อยากหยุดเป็นอย่างนี้-กับที่-สักวัน
สักวันคงแข็งแรงแกร่งขึ้นได้
สักวันคงยันกายท้าทายฝัน
สักวันคงจะยิ่งใหญ่ในสักวัน
ขอพักทางวางความฝันสักวันพอ
ชีวิตความเป็นไปแท้ก็แค่นี้
ถูกเพื่อชี้ทางลิขิตผิดเพื่อก่อ
ร่างเพื่อวาดฝันเพื่อใฝ่ถักใยทอ
หยุดเมื่อท้อรอวันเมื่อมั่นใจ
ก็แค่ก้อนเนื้อในกายคนหนึ่ง
อาจมีวึ้งมีหวั่นหวาดวาดหวั่นไหว
มีเขลาขลาดกับที่เห็นที่เป็นไป
มีสะอื้นขื่นร่ำไห้ไม่สมความ
แท้ในความรู้สึกลึกๆแล้ว
เป็นแค่แผ่วแรงผลักดันฝันก้าวข้าม
รอเวลาให้ขบแตกแยกนิยาม
หยุดเวลาถกความถามใจตัวฯ