11 ธันวาคม 2546 17:50 น.
นาวี นาวา
เพราะว่าฉันรักเธอ
จึงเข้าใจเธอเสมอในวันนี้
สิ่งที่เธอทำแม้ฉันไม่ชอบมันก็ตามที
แต่เป็นสิ่งที่เธอต้องการก็ตามใจ
เพราะว่าฉันรักเธอ
จึงยอมเก้อยอมหวั่นไหว
ยอมให้เธอบอกรักใครต่อใคร
ยอมเก็บความรู้สึกไว้ตลอดมา
เพราะว่าฉันรักเธอ
แม้ถูกมองว่าเซอร์เซอร์ไม่มีค่า
แม้ว่าเธอไม่คิดถึงสักเวลา
แม้ว่าเธอไม่มองมาก็ตามใจ
เพราะว่าฉันรักเธอ
เข้าใจเธอเสมอจึงหวั่นไหว
ยอมเสียน้ำตาแม้รู้ว่าไม่มีค่าใดใด
ยอมเป็นฝ่ายไปเพราะรู้ว่ายังไงเธอก็ไม่มอง
เพราะว่าฉันรักเธอ
เข้าใจเสมอจึงมิอาจเป็นเจ้าของ
ไม่มีสิทธิแม้แต่ไปจับจอง
ในเมื่อเธอมีเจ้าของคนครองใจ
เพราะว่าฉันรักเธอ
จึงยอมเก้อยอมให้ใจหม่นไหม้
ยอมให้เธอมีเขาและใครใคร
และยอมเป็นฝ่ายไปแต่โดยดี
11 ธันวาคม 2546 17:38 น.
นาวี นาวา
อย่ากังวลกับความห่างไกล
เพราะถ้าหากหัวใจเธอเชื่อมั่น
เธอจะยังมีฉันทุกคืนวัน
ที่เดินพร้อมไปกับความผูกพันของหัวใจ
แล้วเธอก็จะรู้ว่าที่นี่
ยังมีรอยยิ้มที่ยังคงหวานไหว
รอความเชื่อมั่นบนหนทางไกล
เพื่อให้สองใจได้ผูกพัน
อย่ากังวลกับรักที่ฉันมี
หากคิดว่าห่างแบบนี้แล้วใจจะเปลี่ยนผัน
เพราะความเชื่อมั่นที่ฉันมีเธอและเธอมีต่อกัน
มันทำให้ใจของฉันคงมั่นที่คนดี
แล้วเธอละเจ้าของหัวใจ
จะเชื่อมั่นอยู่ไหมกับใจคนคนนี้
ห่างไกลกันนักกลัวรักร้าวตามนาที
ที่ทุกวันนี้ก็เปลี่ยนแปลงทุกเวลา
จะไม่ขอร้องให้เธอมาเชื่อใจ
หากความเป็นไปเธอเองรู้ดีว่า
คนแบบฉันไม่มีวันเชื่อใจได้สักครั้งครา
ก็ขอให้เธอบอกลาแล้วจงก้าวจากฉันไป
หากรักที่มี.....ที่ผ่านมา
มันไม่มีค่าให้หวั่นไหว
และหากว่าผิดที่ฉัน....ที่ต้องอยู่ห่างไกล
ก็แล้วแต่เธอตัดสินใจก็แล้วกัน
11 ธันวาคม 2546 17:25 น.
นาวี นาวา
เธอจะกลับมาอีกครั้งจะได้ไหม
อยากจะบอกว่า...ไม่มีใครแทนที่เธอเลยตรงนี้
หากจะบอกว่า...เธอคือลมหายใจที่ฉันมี
อยากจะขอ...เพียงเสี้ยวนาที..ให้คนดีหวนคืนมา
เหมือนโลกไร้แสงสว่างเมื่อเธอไป
ความมืดมิดโอบคลุมหัวใจอย่างช้าช้า
กลัวความอ้างว้าง...หวั่นความหวั่นไหวเจ้าน้ำตา
ไม่อยากตื่นลืมตา...แล้วรับรู้ว่าไม่มีเธอ
กลับมาอีกครั้ง...จะได้ไหม
ไม่อยากให้ความหม่นไหม้....บาดหัวใจจนไหวเพ้อ
ไม่อยากให้รอยยิ้มที่เคยเห็น...เป็นเพียงภาพฝันละเมอ
ยังรอคอยเธอเสมอ...คอยรอด้วยความผูกพัน
เหมือนกับว่าโลกนี้มันมืดมิด
เมื้อไร้คนใกล้ชิดร่วมทางฝัน
ขอเพียงมีมือเธอมากุมไว้...ไม่ว่าจะยากแค่ไหนก็ร่วมใจกันฝ่าฟัน
และจะมีเพียงเธอเท่านั้น...ที่มีอิทธฺพลต่อฉันต่อหัวใจ
ขอเพียงแค่นี้.....จะได้หรือเปล่า
อยากทวงถามความเป็นเราเหมือนครั้งไหนไหน
เหมือนที่เคยบอกว่าไม่มีเธอเหมือนโลกนี้ไม่มีอะไร
และฉันเอง...คงเดินต่อไปไม่ได้เช่นกัน
กลับมานะ...กลับมาฉันขอร้อง
ฉันอยากให้เราสองคงรักมั่น
มีมือเธอจูงมือฉันร่วมฝ่าฟัน
เหมือนทุกคืนทุกวันที่ผ่านมา
11 ธันวาคม 2546 17:05 น.
นาวี นาวา
เดินคนเดียวบนถนนที่อ้างว้าง
ไม่มีใครเดินร่วมทาง.....ช่างหวั่นไหว
ฟ้าที่นี่ไม่มีดาว.....บอกทางใด
ไม่มีเลยไม่มีใครบอกเส้นทาง
ฟ้าจ๋าฟ้าเหตุใดฟ้าไร้ดาวหนอ
ทดแล้วท้อหม่นไหม้ใจอ้าวว้าง
เจ็บปวดช้ำเท่าไหร่ในร่างบาง
ไร้แสงไฟส่องทางหนทางไป
เธออยู่ไหนใกล้หรือไกลจากตรงนี้
ช่วยฉันทีบอกทางสว่างไสว
มืดเหลือเกินมองไม่เห็นเส้นทางใด
เดินคนเดียว...ช่างหม่นไหม้ใจร้าวราน
หนาวน้ำค้างพร่าพรมลมพลิ้วโบก
เพลงลมโศกกระจายไอจนแผ่ซ่าน
หนวาเหลือเกินไม่มีแรงจะต้านทาน
ไม่มีใครเจือจานความอุ่นไอ
11 ธันวาคม 2546 16:55 น.
นาวี นาวา
เหนื่อยไหมที่ทุ่มเทเพื่อเขา
แล้วมีเพียงความว่างเปล่ากลับมาหา
ทุกครั้งที่เธอเจ็บ.....จนมิอาจเก็บซ่อนเจ้าน้ำตา
ฉันเองก็ปวดปร่าไม่น้อยไปกว่าเธอเช่นกัน
อยากเป็นคนที่คอยดูแล
คอยห่วงคอยเทคแคร์ทุกความเป็นไปของความฝัน
อยากบอกว่ายังอยู่ตรงนี้.....เหมือนทุกครั้งทุกทีที่เคยผูกพัน
เธอยังคงมีฉันที่ร่วมฝ่าฟันไปกับเธอ
กลับมาเถอะนะ...ถ้ายังสับสน
ที่ตรงนี้ยังมีคนที่พร้อมจะเคียงข้างเสมอ
ทุกนาทีที่อ่อนแอ....ฉันยังคงมีรักแท้ให้กับเธอ
และยังคงเคียงข้างเสมอ....แม้ในฐานะเพื่อนของเธอเท่านั้น
ฉันยังคงยืนอยู่......ที่เก่า
แม้จะเงียบเหงาแต่ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนผัน
เมื่อมั่นใจแล้วว่า.....เธอคือคนเดียวที่อยากผูกพัน
และยังคงเป็นภาพฝัน...ที่ฉันมีในหัวใจ
กลับมาเถอะ....ถ้าเธอยังไหวหวั่น
หรือสับสนเกินฝ่าฟันข้ามไปไหว
กลับมาที่นี่...สร้างแรงใจที่มี...แล้วค่อยไป
ฉันยังอยู่คอยห่วงใย....และจะเป็นแรงใจให้กับเธอ