14 พฤษภาคม 2550 12:51 น.
นารีมีอำนาจ
มองจันทร์เสี้ยวเดียวดายที่ปลายฟ้า
ยามราตรีเหว่ว้านภาเหงา
ดวงดาราเปล่งแสงเพียงบางเบา
ใจคนเราจะปวดร้าวสักพียงใด
เพียงเสี้ยวจันทร์ท่านจะเห็นบ้างหรือเปล่า
ดาวใกล้ดับช่วยรับฟังฉันได้ไหม
นภาเหงาช่วยโอบกอดพออุ่นใจ
อยู่กับฉันตลอดไปในทุกคืน
เมื่อยามใดหัวใจฉันนั้นเศร้าโศก
ดูทั้งโลกโหดร้ายทำใจฝืน
แม้จันทร์พราวดาวพร่างฟ้านภาชื่น
ทนกล้ำกลืนมองให้สวยก็ป่วยการ
สุดแต่ฟ้าจะเมตตาและกำหนด
จะรันทดน้ำตาไหลใจร้าวฉาน
จะขอยอมทนเจ็บช้ำทรมาน
จะไม่ค้านถ้าชะตาจะพาไป
แต่จะขอประกาศก้องไว้ตรงนี้
จะเดินตามทางชีวีที่วาดไว้
ไปตามฝันให้สำเร็จสมดังใจ
ไม่ให้ใครมาบังคับจับขาเดิน
เพียงเสี้ยวจันทร์ท่านคงเห็นฉันบ้างแล้ว
แสงดาวแวววิบวับดูผิวเผิน
ท้องนภาฟ้ากระจ่างกลางเผนิญ
ขอเผชิญทุกสิ่งอย่างที่ขวางพลัน
ขอขอบคุณจันทร์ดวงดาวพราวฟ้ากว้าง
ชี้หนทางให้เดินต่อทอสิ่งฝัน
จะต้องทนสักเท่าไรก็ช่างมัน
เพราะวันนี้มีพวกท่านเป็นแรงใจ
......................................
26 เมษายน 2550 20:27 น.
นารีมีอำนาจ
ดวงตะวันทอแสงด้วยแรงฝัน
ทุกคืนวันใจโบยบินไม่สิ้นหวัง
ยามราตรีจันทราอยู่ในภวังค์
ส่องสว่างทรงพลังกลางธานี
เหนื่อยบ้างไหมดวงตะวันกับจันทรา
ดวงตะวันมีเมฆาอยู่ยาหยี
ดวงจันทรามีดาราปลอบฤดี
ทำหน้าที่อันมีค่ามานานเนาย์
ดวงตะวัน..เหนื่อยอ่อน..พักผ่อนเถิดหนา
ยังมีจันทราช่วยมาแบ่งเบา
ยามอรุณรุ่งขึ้นจงฟื้นคืนดั่งเก่า
สาดแสงยามเช้าเพื่อทักทายกัน