27 มิถุนายน 2553 01:01 น.
นาราวดี ณ ศรีกาญจน์
เย็นลมพริ้วปลิวละอองน้ำของไหล
ช่ำชื่นใจยามตะวันพลันสิ้นแสง
เป็นจันทร์นวลชวนพิศยามสำแดง
และด้วยแรงศรัทธามั่นยังบ่คลาย
ยกมือประนมแล้วก้มไหว้
พระธาตุใหญ่เชื่อมสัมพันธ์บ่ผันผาย
ไทยลาวจึงรักมั่นบ่เสื่อมคลาย
วัฒนธรรม ภูไท ยังงดงาม
เดินดิ้นไปม่วนใจให้หวนถึง
ที่แห่งหนึ่งในประเทศเขตสยาม
นครพนม เรณู ภูไท ยังเรืองนาม
ในเมื่อยามเหมันต์ การนั้นเอย
ดิ้น เป็นภาษาภูไท แปลว่าเที่ยว
เมื่อคราเก็บตำนานอุรังคธาตุ
และนมัสการพระธาตุพนม
21 มิถุนายน 2553 05:54 น.
นาราวดี ณ ศรีกาญจน์
เหนือนิเวศล้านนาสยามงามนักเจ้า
ปะเวณีม่วนแนบเนาว์บ่เสื่อมสูญ
วัดเวียงเชียงงามเจิดจำรูญ
ดั่งเพิ่มพูนคุณค่าทุกนาที
เดินม๋วนไป๋ในแดนนครพิงค์
ดั่งเมืองมิ่งนคราฟ้าเมืองศรี
ดอนสุเทพเรื่องรองผ่องปฐพี
เวียงเชียงนี้งามนักบ่เสื่อมเลย
คราเที่ยวเวียงนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่
ยามปี๋ใหม่เมือง
21 มิถุนายน 2553 05:45 น.
นาราวดี ณ ศรีกาญจน์
งามเอยงามนักหนา
แรกเริ่มสบพักตร์ติดตรึงตรา
งามนักหนาสาวงามนางรำฟ้อน
ย่างเยื้องชำเลืองเดินดั้งยูงหงส์
เสียงซึงตึงโหน่งงามสาวสลอน
งามกระไรหนาแม่ชวนใจลง
ให้ลุ่มหลงนางช่างฟ้อนละอ่อนเอย
18 มิถุนายน 2553 05:21 น.
นาราวดี ณ ศรีกาญจน์
ถามพระจันทร์กลางหมู่ดาว
ที่พร่างพราวบนฟากฟ้า
เห็นพี่ไหมทุกๆครา
ในเวลาที่ไกลกัน
ยามนี้เป็นเช่นไร
หนาวหัวใจอยู่ไหมนั่น
ทุกครั้งคราที่จากกัน
ฉันคนนั้นคิดถึงคุณ
ฝากพระจันทร์กับหมู่ดาว
กันลมหนาวให้อบอุ่น
เอาความรักอ่อนละมุล
ให้เธอหนุนนอนฝันดี
ฝากลมพัดความห่วงใย
กับเสียงในใจฉันคนนี้
กล่อมเธอให้หลับฝันดี
แทนฉันคนนี้ที่ห่วงใย
อยากให้รู้ว่าคิดถึงมากเลยนะ ความรู้สึกนี้ขอเก็บไว้ในใจก็พอแล้วไม่อยากบอกเค้า
16 มีนาคม 2553 00:54 น.
นาราวดี ณ ศรีกาญจน์
แค่อยากรู้ว่านานเท่าไรแล้ว
ที่รักของเรา มีแต่คำว่าไกลกันออกไปทุกที
ในวันนี้เธอจะยังมีฉันอยู่ในใจเหมือนที่ฉันมีเธออยู่ในหัวใจหรือเปล่า
ความสงสัยมันเริ่มเข้ามาในจิตใจ แต่ไม่อยากถามเพราะกลัวคำตอบ
ของเธอ แต่ขอบคุณที่ทุกวันนี้เรายังไม่เกลียดดกัน บางครั้งมันก้อาจจะดีที่ความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้น
จะได้ถามใจของเราทั้งสอง ว่ายังรักกันอีกหรือเปล่า?