24 สิงหาคม 2548 17:50 น.
นายหมึกซึม
รู้แก่ใจ เป็นยังไง ก็ไม่รัก
ไม่รู้จัก เจียมตัว หัวสมอง
ยังจะเชิด ชูหน้าตา หวังหาปอง
หวังจับจอง ข้างเดียว เปลี่ยวฤทัย
รู้แก่ใจ เป็นอย่างไร ก็ไม่รัก
สุดจะหัก ห้ามดวงจิต คิดไฉน
ได้แต่มอง ฝันละเมอ เพ้อไปไกล
แต่หัวใจ ให้เขาไป ไมรู้ตัว
หลังจากนี้ จะไม่จำ กล้ำรู้สึก
จะไม่นึก ถึงตัวเขา เราปวดหัว
คงจะทำ ได้แค่นี้ แค่เจียมตัว
อย่าไปมัว จมรักเขา อยู่ฝ่ายเดียว
15 สิงหาคม 2548 16:46 น.
นายหมึกซึม
รู้สึกไหม หัวใจ ใคร่ครวญรู้
ความคิดถึง ยังคงอยู่ จะรู้ไหม
ส่งไปทาง สายตา ออกหาใจ
บอกออกไป ออกจากใจ ให้รู้ดี
เธอจะยัง จะรักใคร ไม่เคยว่า
เธอจะมา คิดถึงใคร ในทุกที่
ความห่วงใย ห้วงฝัน พลันทวี
สิทธิ์ที่มี ที่คิดถึง ตรึงโฉมตรู
ความรู้สึก ที่มีให้ บอกได้ยาก
มากว่ามาก หรือแค่ไหน ก็ไม่รู้
มีบางสิ่ง อยากจะให้ ไตร่ตรองดู
เพียงเห็นเธอ ยังยืนอยู่ ก็มั่นใจ
ฉันกล้าก้าว กล้าหวัง ยังกล้าฝัน
หากเพียงแต่ เธอนั้น ยังยิ้มให้
อยากบอกว่า เธอเป็นเพื่อน ของหัวใจ
นานแค่ไหน ไกลกี่ฝัน ฉันจะรอ
15 สิงหาคม 2548 16:01 น.
นายหมึกซึม
นั่งเหม่อมอง ลอดช่อง ของหน้าต่าง
ใจอ้างว้าง ลอยไป ยังปลายฟ้า
ที่ปลายทาง สุดท้าย สุดสายตา
คิดถึงเธอ ทุกเวลา ที่ห่างไกล
ความรักเรา เริ่มตอนไหน ไม่เคยรู้
หวังจะปู ชมพูพราว คราวสุขสันต์
หรือเวลา ที่เรานี้ คิดถึงกัน
เหมือนดั่งฝัน กลั่นจากใจ ในวันวาน
แค่ไม่รู้ ว่าจะเดิน ดำเนินผิด
ไม่เคยคิด จึงปล่อยใจ ให้เลยผ่าน
สร้างความรัก ต่อราก จากวันวาน
ชั่วกัปกาล ไม่สักนิด คิดถึงกัน
ไม่รู้จะ ทรมาน อีกนานไหม
บทละคร ของหัวใจ ในตอนนั้น
อวสาน ตอนที่เรา กุมมือกัน
ที่เฝ้าฝัน เหมือนตอนจบ ในนิยาย
31 กรกฎาคม 2548 14:52 น.
นายหมึกซึม
เธอคือดาว วาววับ จับฟากฟ้า
ฉันดั่งหญ้า ต่ำต้อย ด้อยราศี
เธอคือจันทร์ ส่องกระจ่าง กลางราตรี
ตัวฉันนี้ แค่กระต่าย เฝ้าหมายจันทร์
เธอดั่งเครื่อง บินน้อย ลอยบนฟ้า
ฉันดั่งหมา น้อนน้อย คอยนั่งฝัน
เธอเปรียบเหมือน นักล่า คอยฆ่าฟัน
ตัวฉันนั้น แค่เป้าหมาย ให้เธอยิง
เธอคือน้ำ จับกระเจี๊ยบ ที่แสนหวาน
ฉันไม่ใช่ ก้อนน้ำตาล เป็นน้ำขิง
เธฮมีความ อิสรา เช่นม้าลิง
ฉันเหมือนปลิง ดีแต่เลือด เชือดแต่ใจ
เธอคือน้ำ สายใหญ่ ในโลกกว้าง
ฉันดั่งราง ขังน้ำฝน สนใจไหม
เธอมีหลาย ชายคนอยู่ เป็นคู่ใจ
ตัวฉันใย ไม่มีใคร ไร้คู่เคียง
31 กรกฎาคม 2548 13:45 น.
นายหมึกซึม
จากชีวิต นักเรียน วัยแรกรุ่น
ยังหอมกรุ่น กลิ่นเอ็นดู จากผู้สอน
จากบ้านนอก เข้ามาสู่ อยู่นคร
ฟังพร่ำสอน อีกชี้แจง แถลงการณ์
จากบ้านนอก สู่เหย้า เข้าศึกษา
เก็บความรู้ หาวิชา ศึกษาสาร
นำความรู้ เข้าสมอง อยู่สองนาน
คงถึงกาล กลับบ้านเรา เข้าหาชน
นำความรู้ ที่เราได้ ภายในนั้น
เลือกเอาที่ สร้างสรรค์ พลันน่าสน
มาพัฒนา ทั้งชีวิต จิตใจคน
ให้เลิศล้น มีความคิด ไม่ผิดไป
ให้รู้ว่า บ้านนอกนี้ มีดีบ้าง
อย่าเอาอย่าง คนนคร นอนเฉไฉ
ความรู้เด็ก บ้านนอก ออกไฉไล
เด็กกรุงใหญ่ หาจริงใจ ไม่ค่อยมี