8 กรกฎาคม 2555 00:23 น.
นายหมอดี(แท้)
ฟังว่า....บัลลังก์เจ้ายุทธจักรนั้น....หอมหวลยิ่งนัก...
...เหตุที่เป็นดั่งนี้...ฟังว่า หากผู้ใดได้ครอบครองมัน...
...ก็คือการสำเร็จสุดยอดวิชาเส้าหลิน....นามเหยียบหิมะไร้รอย...นั่นเอง..
...สุดยอดวิชานี้ฟังว่า...หากผู้ใดฝึกสำเร็จแล้ว...มันคือ...ยอดคนที่ในรอบ100ปียากจะพบพาน...
...
เมื่อเป็นดั่งนี้...การระดมลิ่วล้อในยุทธจักรจึงเกิดขึ้น...
...การปะทะในกำลังภายในของสองผู้ยิ่งใหญ่....ในแผ่นดิน..
...จอมยุทธฉะเลิ้ม และจอมยุทธ ซูเทพ...
....เป็นกลยุทธ์ ลวง ใน ลวง...
ฉะเลิ้ม...มุ่งจี้จุดตุลาการดำ..เพียงเพื่อหันปลายกระบี่สู่จุดตาย ซูเทพ
ซูเทพ แสร้งพิทักษ์ตุลาการดำ เพียงเพื่อหันปลายกระบี่สู่จุดตาย
ของฉะเลิ้มเช่นกัน...
...หากผู้ใดทำได้...นั่นคือสำเร็จสุดยอดวิชาเหยียบหิมะไร้รอยแล้ว...
...งานนี้...ฟังว่า...หากฝีมือทัดเทียมกันแล้ว..ผลสุดท้าย มันทั้งคู่อาจพิการแน่นอน....
26 มิถุนายน 2555 22:13 น.
นายหมอดี(แท้)
...ฟังครูบาอาจารย์...พูดถึง ปชต.ของไทย...
..ในภาพรวม 80 ปี...เราได้แค่"รูปแบบ"แต่ยังขาด"เนื้อหา"
ในความคิดส่วนตน....
พุทธบูชา และ ธรรมราชา...ยังคงเป็น"เนื้อหา"ของวัฒนธรรมไทย
...ซึ่งมันไปเป็นเนื้อหาของระบบ ปชต.ด้วยเช่นกัน...
...ดังนั้น"อำนาจ"ที่ผ่านมา จึงถูกจำกัดแค่...รูปแบบ...เพื่อการได้มา
...ซึ่งอำนาจนั้นๆ....โดยไม่สามารถสอดแทรกเนื้อหาลงไป...เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ...โดยเนื้อหาได้เลย....
หมายความว่า รูปแบบ เช่น การเลือกตั้ง...แค่นี้ก็เพียงพอต่อการได้มาซึ่งอำนาจแล้ว....โดยใช้กลยุทธ์ เช่น การซื้อเสียง การโฆษณาชวนเชื่อ...
...และเมื่อมองฮิตเลอร์...ตะแกก็ใช้รูปแบบการเลือกตั้ง ในระบบเผด็จการเหมือนกัน...ทั้งๆที่ไม่ต้องใช้รูปแบบการเลือกตั้งก็สามารถทำได้...
จึงน่าจะเรียกเป็นเผด็จการประชาธิปไตย...ก็ได้...
..ในไทย...เมื่อฝ่ายได้เสียงข้างมาก ก็ถูกตราหน้าว่าเป็น เผด็จการรัฐสภาไป....
...เมื่อเรามองตนเอง...โดยการมองย้อนอดีต...
...ศาสนา...เราเต็มใจรับพุทธศาสนาจากอินเดีย...อันนี้ไร้ข้อโต้แย้ง เพราะพุทธศาสนาเป็นของดีจริงๆ
..การเมือง...เราไปรับระบอบ ปชต.จากอังกฤษ....อันนี้ ดูๆไปแล้ว...เรายังไปได้ไม่ถึงประเทศต้นแบบ....เพราะทหาร....มีหลายครั้งที่เขาไม่ชอบ...เขาก็ทำการปฏิวัติเสียทีหนึ่ง..แต่ก็ราวๆ22ทีมาแล้วในรอบ80ปีที่ผ่านมา....
สังคม....เราเป็นพหุสังคม...เพราะถ้าจำไม่ผิด ชาติพันธ์ของเรามีราวๆ57 ชาติพันธ์ได้มั๊ง...
...เมื่อแอ๊ด คาราบาวมาถามว่า คุณเป็นคนไทยหรือเปล่า...ก็ยากที่จะตอบได้...เพราะเราเอง เราก็ยังไม่รู้เลยว่า ชาติพันธ์ของเรา เป็น"คนไท"หรือไม่ หรือ เป็น จีน พม่า กระเหรี่ยง มูเซอร์ไปโน่นก็ได้...
...เพราะดินแดนเราอยู่เป็นดินแดน"เสียม"ซึ่งมีหลายชาติพันธ์อาศัยอยู่...
พอรวมเป็นประเทศเดียว จึงเรียกว่าเป็นประเทศไทยไปแทนชื่อเสียมเดิมของดินแดน...เราเอาชาติพันธ์มาเรียกชื่อประเทศ....ซึ่งไม่รู้ว่าดีไหม เพราะชื่อเดิมเป็นชื่อดินแดน....น่าจะดีกว่า...เพราะ57ชาติพันธ์อยู่ในดินแดนเสียม ทุกๆคนรู้ว่าเป็นชาวเสียม ได้ใจกว่าเยอะ....
..แต่พอเอาชาติพันธ์มาเรียก ว่าเป็นคนไท เป็นดินแดนไทย...อันนี้มีปัญหาแล้ว.....เพราะอีก56ชาติพันธ์จะสับสนได้ว่า ตูเป็นคนไทหรือเปล่าวะ.....ด้วยเหตุนี้ส่วนหนึ่ง...จึงทำให้ ปชต.ของเราไปไม่ถึงไหน....
...เพราะเจ้าดินแดน ก็ผลัดเปลี่ยนราชวงศ์กันไปมา ใครใหญ่ก็ใช้ชาติพันธ์ต้นตระกูลตัวเองมาใช้เรียก...ทีนี้ชาติพันธ์ที่ไม่ได้ใหญ่ก็กบฏเอา...หมุนเวียนกันอยู่อย่างนี้700ปีผ่านมา.....
....พอมาเป็น ปชต. ด้วยความผูกพันในชาติพันธ์...ก็แปรเปลี่ยนมาเป็นเรียก พรรค เรียกพวก...แทนชาติพันธ์ มียุคหนึ่งเรียกการปกครองว่าเป็นสิงห์ดำ สิงห์แดง....
....มันพัฒนากลายเป็นเสื้อแดง เสื้อเหลือง เสื้อหลากสี...นี่เพราะไปยึดติดกับชาติพันธ์จนฝังเป็นดีเอ็นเอทางวัฒนธรรมทางการเมืองนั่นเอง....
...เลิกเรียกพรรค เรียกสีแทนชาติพันธ์ และกลับไปเรียกเป็นดินแดนแทนซะ...ปชต.จะได้เติบโต โดยไม่ต้องมาทะเลาะกัน ก้าวเข้าสู่เนื้อหาของมันจริงๆเสียที...หรือคุณว่าไง?....
30 พฤษภาคม 2555 07:49 น.
นายหมอดี(แท้)
คือ พอเห็นเขาฉลาดแกมโกง ได้ครองอำนาจรัฐ
ก็ใสข้อหาต่างๆให้เขา...จนไปเอาทหารมาล้มเขา.....
...นี่ก็เป็นธรรมดาของ การเมือง การปกครอง
เรียกเป็น เพื่อบรรลุเป้าหมาย ไม่คำนึงถึงวิธีที่ใช้
แต่พอทหารกลับกรมกอง ตัวเองที่อิงทหารได้อำนาจรัฐ ก็กลัว....
..เพราะคนทำกับข้าว ก็ได้อำนาจรัฐ..น้องเขย ก็ได้อำนาจรัฐ
(ดีที่ล้มน้องเขยได้ ตัวเองเลยได้อำนาจรัฐ"เสียที รอมานาน)
ทีนี้ พอตัวเองยุบสภา แต่ก็แพ้น้องสาวเขาอีก.....
..นี่ขนาดพี่ไม่อยู่ ...ยังแพ้.....
...ถ้าพี่กลับมาได้...อนาคตมืดมนแน่ๆตู....
..อย่ากระนั้นเลย...ดิ้นเฮือกสุดท้าย เพื่อรักษาชีวิตการเมือง....
..เจ็บใจ....พรรคฯโดนรังแก ข้าจะเผา..แก...ให้มันวอดวาย
จะตายให้เขาลือชาย ว่านามชื่อกู...ผู้แพ้สิบทิศ ผู้แพ้สิบทิศ....
นี่...เป็นที่มาของกิเลศ อำนาจ ต้องพยายามได้มา ต้องพยายามรักษา...
...เพราะแพ้ไม่ได้..ขนาดน้อง ยังสู้ไม่ได้ เจอพี่เหลือต่ำสิบแน่นอน...
..จึงต้องสู้...ทั้งในและนอกสภา.....(เป็นเรื่องธรรมดาๆ)( ใครที่เป็นแนวร่วม...เสื้อสีต่างๆ..
...ออกมาแล้ว จะต้องได้สมญานามใหม่คือ) กทก.ฮา
(นานๆออกมาที....กระตุกต่อมพวกรักชาติ) ....
....แต่ที่ประหลาด อเมซซิ่งก็คือ...หัวหน้าปฏิวัติ..ล้มระบบ ปชต.
แล้วดันถูกใครไม่รู้ เลือกเข้ามาในระบบ ปช.ต แล้วมาแก้ไข...สิ่งที่ตัวเองทำไปแล้ว ด้วย พรบ.ปองดอกฟ้า....ทั้งๆที่รัฐธรรมนูญ ม.309 ก็คุ้มคณะตัวเองไว้แล้ว...จึงทำให้คู่แข่งขัน มองออกว่า ทำเพื่อคนอื่น....และคนอื่นนั้น คือ คนที่เขากลัวยิ่งกว่าเห็นพระยายม...ฮา
30 มกราคม 2555 11:50 น.
นายหมอดี(แท้)
ปฏิทินมายาบอก 211212 คือ วันที่21 เดือนธันวาคม ปี2012(พศ.2556)
เป็นวันสิ้นโลก....ด้วยเหตุอันใดไม่รู้
...มานึกๆดูก็แปลกๆเกี่ยวกับตัวเลข 12นี้ ดูพิกลๆอยู่
...กล่าวคือ มีกลุ่มคนที่เป็นนักวิชาการ...แสดงความเห็นว่า กฏกติกาของสังคม ต้องยืนอยู่บนพื้นฐานมีโจทย์ มีจำเลย....
...ดังนั้นมาตรากฏหมายอาญาเกี่ยวกับราชวงศ์ จึงสมควรให้"ตัวแทน
"เช่น สำนักพระราชวังเป็นคนรับเรื่องและชงเรื่องลงโทษ....
...แต่มิใช่ให้ฝ่ายปกครองหรือฝ่ายการเมือง...มาใช้เป็นเครื่องมือ กำจัดคู่แข่งหรือศัตรู...ซึ่งจะทำให้ราชวงศ์มัวหมองได้....เพราะอ้างความจงรักภักดีเป็นเกราะป้องกันตัว...
....ทางฝ่ายคู่แข่ง...ของรัฐบาลเพื่อไทย...คือ ปชป.และว่านเครือ...ก็ออกมาโจมตี...แต่ไปสร้างกระแสล้มเจ้าไปโน่น...
...ทางฝ่ายรัฐบาลเพื่อไทยก็ออกมาแก้...ว่าไม่แก้กฏหมายนี้....
....แต่การใช้โฆษณาชวนเชื่อก็ยังโหมไฟให้ลุกลามอยู่....
...คนพวกนี้...เพียงเพื่อหวังในอำนาจรัฐ...ยอมทำทุกอย่าง...
...เพื่อบรรลุเป้าหมาย...ไม่คำนึงถึงวิธีที่ใช้...ว่ามันจะแตกความสามัคคีกันอย่างไร...พวกเขาไม่สนใจ...หวังเป้าหมายโค่นล้มคู่แข่งให้ตกจากอำนาจไป
...ก็พอใจแล้ว....
....นี่เล่นการเมืองกันแบบนี้ พวกบัวใต้น้ำก็จะตกเป็นเครื่องมือ...เหมือน นศ.โดนฆ่าเมื่อปี2519โน่น...ประวัติศาสตร์วงล้อความชั่วร้ายกำลังอาจจะหมุนวนมาเกิดอีก....ก็ขอพระสยามเทวาธิราช..โปรดดลบันดาลให้ทุกฝ่าย..เพลาๆความรักชาติศาสตร์กษัตริย์โดยส่วนลึกเพื่อทำลายคู่แข่งขันทางการเมืองนั้น...ให้รู้จักบาปบุญคุณโทษหูตาสว่างเสียที...เล่นการเมืองแบบมีคุณธรรม จงบังเกิดกับทุกๆฝ่ายเถิด...
26 ตุลาคม 2554 09:38 น.
นายหมอดี(แท้)
ปัจจัยแรกคือพายุเข้าไทย 5 ลูก
ปัจจัยสองคือทุกเขื่อนน้ำเต็มเกิน100%
ปัจจัยสามปริมาณน้ำมากเป็น16เท่าของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ คือ ป่าสัก 1000ล้าน ลบ. ปริมาณน้ำ 16000 ล้าน ลบ.
ปัจจัยสี่ ธรรมชาติน้ำไหลจากที่สูงลงที่ต่ำ
ปัจจัยห้า น้ำแยกเป็นสามตอน แต่ละตอนมาตามท่าคือลำน้ำ กับมาตามทุ่งคือนอกลำน้ำ
ปัจจัยหกน้ำที่แยกเป็นสามตอนคือ ตอนแรกเป็นทัพหน้า 4000ล้าน ลบ.กำลังเข้าโจมตีกรุงเทพฯตอนนี้อยู่ที่ปทุมฯและนนท์
ปัจจัยเจ็ด ทัพหลวง6000ล้าน ลบ.กำลังลงจากอยุทธยามากรุงเทพฯคาดว่าไม่เกินอาทิตย์นับจาก26ตค.54นี้
ปัจจัยเจ็ด กองทัพเสิมอีก6000ล้าน ลบ.จากเหนือกำลังตามมาน่าจะทิ้งระยะไม่เกินเดือนถึงกรุงเทพฯ
ปัจจัยแปด กทม.ระบายน้ำไปออก ไปตก ได้ประมาณ400 ล้าน ลบ.ซึ่ง ไม่ทัน
ปัจจัยเก้า น้ำทัพหน้า กลางหลังน่าจะเข้าถล่มกรุงเทพฯไม่น่าเกิน25 พย.54 เรียบ
จากเก้าปัจจัย ผนวกกับน้ำทะเลหนุน ฝนปกติ ร่องความกดอากาศของฝนใหม่ และที่สำคัญคือ ทั้ง ศปภ.และ กทม.ทำผิดทฤษฎี คือไป กั้นน้ำ แทนที่จะปล่อยน้ำ เหตุนี้ กทม.จึงต้องรับเต็มๆและถ้าบริหารไม่เป็น คน10ล้านคนจะตื่นตระหนก อาหารจะขาดแคลน เกิดการปล้นสะดมภ์ฯลฯเรียกว่า มหาภัยพิบัติ ไม่ใช่เกิดจากน้ำแต่เป็นคน10ล้านก่อจลาจล ไร้วินัย บ้านเมืองน่าจะแย่ในครานี้ ขอบารมีคุณพระศรีรัตนตรัยช่วยปัดเป่าทุกขภัยนี้ด้วยเทอญ