12 มิถุนายน 2552 07:45 น.
นายบอม
ด้วยแรงกายสองขาที่พาก้าว
ด้วยมือเปล่าสองมือที่จับถือ
ความคิดแรงใจใฝ่ฝึกปรือ
สิ่งใดหรือเราทำได้ด้วยกายเรา
ทำเพื่อตัวทำเพื่อคนทำเพื่อชาติ
ด้วยโอกาสสร้างสิ่งที่สร้างสรรค์
แลกเปลี่ยนร่วมแรงและแบ่งปัน
ฝันอันนั้นเป็นได้ด้วยกายเรา
ทำคนเดียวเทียวทำได้สิ่งหนึ่ง
ถ้าอีกหนึ่งคนช่วยด้วยดีไหม
ร่วมกันทำเป็นกลุ่มช่วยกันไป
การณ์สิ่งใดก็ทำได้ด้วยกลุ่มเรา
7 มิถุนายน 2552 08:49 น.
นายบอม
วันไกลบ้าน
ออกเดินทางมาเรียนด้วยเพียรพาก
เดินออกจากบ้านเกิดจิตคิดหวั่นไหว
เพื่อเข้าสู่เมืองฟ้าอมรไทย
ออกเดินไปสู่รั้วเขียวเขียวกลางกรุง
เป็นวันแรกที่จำพรากไปจากบ้าน
คิดถึงวันวานวานที่เคยอยู่
ในวันนี้จักต้องจากหันมาดู
บ้านที่อยู่มองมาข้าหวั่นใจ
ด้วยถิ่นใหม่ไกลจากบ้านที่เกิด
ถิ่นกำเนิดบ้านพ่อแม่ของฉัน
จะไปเรียนเพียรศึกษาไม่นานวัน
รอวันนั้นฉันกลับมาหาบ้านเรา
นั่งคิดถึงวันแรกที่จากบ้าน
น้ำตาพาลหลั่งรินลงมาได้
คิดแล้วเศร้าเราจากพ่อแม่ไป
แล้วใจมันสั่นกลั่นเป็นน้ำตา
ย้อนอดีตวันที่ออกจากบ้านมาเรียนในรั้วเขียวเมื่อเดือนพฤษภาคม 2538
7 มิถุนายน 2552 01:27 น.
นายบอม
อยากขอถาม....ถามท่านที่.....มีความรัก
ท่านประจักษ์....พักตร์พบ...กับสิ่งไหน
เพราะเหตุว่า...ตัวผมเอง...นั้นคิดไป
รักเช่นไร...ผมคิดได้...เพียงผูกพัน
รักเช่นใด...ใครวานบอก...ตัวผมที
นิยามที่.....มีมานาน...อ่านไม่ไหว
อ่านหนึ่งรอบ...สองสามสี่...มิเข้าใจ
รักนั้นไซร้...ไม่มีคำ...จำกัดความ
เขาว่ารัก...นั้นเป็น...เช่นการให้
ให้เช่นไร.....ใครบอกกล่าว...เล่าแถลง
รักที่ให้...ให้สิ่งใด.....ช่วยชี้แจง
โปรดแสดง...ให้ข้าเห็น...เช่นถ้อยความ
เปรียบรักอย่าง...สิ่งคู่...อยู่เคียงข้าง
มิจืดจาง...ร้างรา....พาชวนฝัน
แต่ข้าเห็น.....คู่ร้าง...ในบางวัน
ใยรักพลัน...ล่มสลาย...หายกับตา
หากเปรียบรัก...ดุจประหนึ่ง...ความพันผูก
เป็นห่วงผูก....โซ่คล้อง....ครองความรัก
ให้คนสอง....ครองใจ.....ให้ประจักษ์
อยู่ด้วยรัก...จักร้อยเรียง...เคียงคู่กัน
หากเพียงว่า...ข้ามองรัก...มิมีอยู่
เพียงคำรู้...แทนคำมอง...ด้วยความฝัน
เป็นคำหวาน...ปานเพียงคำ...นับร้อยพัน
แทนผูกพัน...คำนี้....ที่เข้าใจ
หากเพียงรอ...กูรูกล่าว....เล่าแถลง
โปรดสำแดง....ให้ข้าเห็น....เป็นความหมาย
นิยามรัก...เฉกเช่นใด...ให้ข้าคลาย
ด้วยสงสัย...ใครวานช่วย...บอกข้าที
6 มิถุนายน 2552 15:20 น.
นายบอม
เพื่อน...เราคิดไปเองหรือเปล่า
คำว่าเพื่อนเพื่อนเราเรานั้นคิด
แต่เขาคิดว่าเป็นเพื่อนเราหรือเปล่า
คำว่าเพื่อนบอกเล่าเรื่องของเรา
เราว่าเราเป็นคนชิดคิดใกล้เคียง
เพียงแต่เราได้ฉุกคิดสักนิดหน่อย
เพื่อนน้อยๆในวันนั้นที่ฉันเห็น
กลับเติบใหญ่ผ่านเวลากลับกลายเป็น
ผู้ใหญ่เช่นที่เห็นอยู่ดูเมื่อวาน
ได้เติบใหญ่ได้เห็นโลกที่โศกเศร้า
โลกใบเก่าฟ้ากระจ่างที่เคยเห็น
เปลี่ยนกลับกลายลายเมฆหมอกพยับเป็น
ไม่ใสเช่นวันวานผ่านเพลา
นิยามเพื่อนเปลี่ยนวับและกลับหาย
เปลี่ยนกลับกลายมลายเป็นแค่ใครหนา
ให้เวลาไปคิดและพิจารณา
อย่ายึดว่าเขาคือเพื่อนไม่เปลี่ยนแปลง
ด้วยน้ำใจในวันวานยังคงอยู่
เราก็รู้เขาก็รู้ดูก็เห็น
มิตรภาพยังมีเเละยังเป็น
แต่มีเส้นความพอดีที่รู้กัน
เพราะมีเหตุและปัจ-จัยต่างๆ
ชี้นำทางความคิดให้แตกเห็น
เราคิดอย่างเขาคิดอย่างต่างกันเป็น
เพื่อนนั้นเห็นเช่นนั้นฉันว่าไร
ณ ที่จุดจุดหนึ่งจึงได้พบ
มิตรภาพจบที่กึ่งกลางระหว่างฉัน
จุดหว่างกลางฉันและเขาเราและกัน
เพื่อนคนนั้นยังเป็นเช่นเพื่อนเกลอ
จากเพียงนี้มิตรภาพคำว่าเพื่อน
แค่มีเพื่อนมีคนที่รู้จัก
เพียงนี้ฉันก็เพียงดีใจนัก
ได้รู้จักพบมิตรที่แสนดี
6 มิถุนายน 2552 15:19 น.
นายบอม
เพียงสนุกสนุกคิดจิตแจ่มใส
นึกนึกเพียงสุขใจใครจะรู้
เราเป็นสุขเลยสนุกให้โลกดู
อยากให้รู้สุขเพียงใดใจสบาย
มองไปรอบรอบกายก็เป็นสุข
เราเลยลุกมาดูโลกที่สดใส
โลกยามเช้าโลกยามบ่ายสบายใจ
เหลียวมองไปเห็นใครยิ้มเรายิ้มตาม