11 กันยายน 2550 07:42 น.
นายธนา
แม้นหนทางห่างไกลไปข้างหน้า
เจือน้ำตาท้อถอยคอยความหวัง
ด้วยสองเท้าก้าวเดินไปใจก็ยัง
มีพลังแข็งกล้าพากันไป
ถึงขวากหนามหยามเหยียดเสียดคำคน
ในกมลหารังเกียจเดียดฉันท์ไม่
เอาน้ำเหงื่อเจือน้ำตารักษาใจ
ล้มลุกใหม่ใช่จะหมิ่นสิ้นหนทาง
ถึงยามเหงาเศร้าเพียงใดใจต้องสู้
ผิดเป็นครูรู้เรียนแก้แพ้มีบ้าง
ดาวดวงน้อยถึงฟ้ามืดใช่จืดจาง
ยังสว่างระยับไปในราตรี
อุปสรรคขวากหนามมาคร้ามกีด
ใจคือมีดฟันฝ่าอย่าหลีกหนี
สองมือยังพยุงพาชีวามี
ซึ่งศักดิ์ศรีในตนไม่หม่นใจ
เดินทางไปใจอย่าท้อขอแค่สู้
แม้นอดสูไร้สว่างทางสดใส
เทียนเล่มน้อยคือพลังกำลังใจ
ให้ก้าวไปด้วยความรู้คู่กับตน
ไปต่อเติมความฝันอันยิ่งใหญ่
ถึงลำบากยากแค่ไหนอย่าได้สน
ความสำเร็จให้ได้มาสมค่าคน
สู้ดั้นด้นค้นหาคำ กำลังใจ
อย่ายอมแพ้ : อ้อม สุนิสา
31 สิงหาคม 2550 18:34 น.
นายธนา
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
ไทยนี้นะมีชื่อ นรคืออิสรา
โบราณ พชนพา สุระกู้ ธ กอปไท
เกริกเกียรติ์ปิตุรงค์ ธ อ่าองค์ทุระหาย
ร้อนลุ่มพระดับคลาย ทุหฤษฎ์สิขเย็น
ควร ฤ จะเข่นฆ่า นรสา ณ ใต้เข็ญ
แบ่งแยกทวีเป็น ปฐพีนิมึงกู
ปังปัง ! ทุอาวุธ ปะทะเลือดสพรั่งพรู
ไทยไทมิใช่ผู้ กรร้ายทลายชน
แตกแยกสมัคคี จลมีจลาจล
นานาประชาหม่น กมลาผวากลัว
สงสาร ธ เอกองค์ พระจะทรงสิหมองมัว
ทวยราษฎร์ บ่ ลืมตัว มุทุสู้กะกู้ชัย
รู้รักสมัคคี อนหนี ณ ที่ใด
ไทยรวมพลังไทย จรสู้กะกู้ดิน
รวมชาตินะเป็นหนึ่ง มนพึงจะรวมสิ้น
รวมกอผิรวมจิน ตนไซร้ดุจใผ่งาม
ธาราทว่าน้อย ปะทะด้อยอักคิลาม
หนึ่งเดียวสมัญญ์นาม สมพลพลไท
ร่มเย็นบ่เข็ญทุกข์ นรสุขเกษมสมัย
สามัคคีซะทีไทย ระดะเด่นเป็น ขวานทอง
ไผ่รวมกอ : รวมศิลปินอาร์สยาม
29 สิงหาคม 2550 20:48 น.
นายธนา
โอ้สยามงามพิไลก่อนได้ชื่อ
สยาม คือเมืองยิ้มพริ้มพิสัย
แย้มโอษฐ์วาดชาตินานาประทับใจ
ตราตรึงให้ใครเห็นชื่นมื่นไพบูลย์
กาลต่อมาพากลับกลายหายรอยยิ้ม
ที่ปลื้มปริ่มก็ละลายหายสาบสูญ
อัตคัดคนขัดสนจนเพิ่มพูน
เพราะมากมูลด้วยหนี้สินทั้งถิ่นไทย
ค่าเงินบาทลอยตัวพามัวหมอง
อีกข้าวของขึ้นราคาเป็นว่าใหญ่
ทั้งฝนแล้งแข่งน้ำท่วมอ่วมฤทัย
หม่นหมองใจไร่นาพาล่มจม
รัฐบาลการเมืองเรื่องสมมุติ
โกงกินทรุดชาวประชาพาขื่นขม
นำมันแพง ใต้เข่นฆ่าน่าอกตรม
เพราะเงื่อนปมเหตุไทยไร้สามัคคี
เมื่อไหร่หนอ ? ขอฝากถาม สยาม เอ๋ย
จักได้เคยเป็นเช่นตอนเมื่อก่อนนี้
โจรใต้ชั่ว คอรัปชั่นนั้นไม่มี
ประชาชีสมานฉันท์กันทั่วไทย
โปรดเถิดหนาช่วยเยียวยาสยามนี้
ให้คงอยู่คู่ปฐพีอีกสมัย
รักษานาม สยามเมืองยิ้ม อิ่มเอมใจ
มิควรให้เปลี่ยนเป็นนาม สยามซึม
สยามเมืองยิ้ม : สมชาย ใหญ่
27 สิงหาคม 2550 19:52 น.
นายธนา
เอ้อระเหย...ลอยมา ลอยมาแล้วก็ลอยไป
ลอยวน...มาข้างข้าง อยู่ทางนี้ไม่ใกล้ไม่ไกล
พวงเอ๋ย...เจ้าพวงมาลี เจ้าจะลอยลี้หนีไปแห่งไหน
ใครเล่า...ที่เจ้าเฝ้ารอ หมายไปคล้องคอรูปหล่อคนใด
ลอยไป...แล้วก็ลอยวน ที่ข้างถนนบนทางเส้นใหญ่
แดดอ่อน...ยันร้อนระอุ ยังคงมุ่งมุสู้ไหวสู้ไหว
นี่หนอ...นะชีวิตคน ที่ต้องดิ้นรนต่อสู้กันไป
ไม่ได้...เกิดบนกองทอง มีพ่อพี่น้องมากองไว้ให้
สมบัติ...อยู่ที่ดิ้นรน ชีวิตต้องค้นสู้ทนเข้าไว้
ดอกเอ๋ย...เจ้าดอกจำปี สอดร้อยมาลีเป็นพวงมาลัย
หอมยิ่ง..จริงดอกมะลิ บานแล้วแพร่งผลิชูชื่นสดใส
ลอยวน...ที่ตรงสี่แยก โอ้เด็กน้อยแบกเห็นเป็นพวงใหญ่
รถชะลอ...รีบออเข้าหา พี่คะพี่ขาช่วยซื้อได้ไหม
สองพวง...ไปเลยนะพี่ แล้วหนูคนนี้จะกลับบ้านได้
ไฟแดง..ใกล้จะหมดแล้ว เถอะนะพี่แก้วช่วยซื้อเก็บไว้
พ่อช่อมะกอกพ่อดอกลำไย เหมาหมดได้ไหมหนอพี่ชายเอย
ก่อนมะลิบาน : ไทม์
22 สิงหาคม 2550 23:50 น.
นายธนา
เดือนดาวราวลับฟ้า ราตรี
โอ้ค่ำของคืนนี้ เปี่ยมเศร้า
เงาเมฆหม่นบังสี เดือนส่อง แสงมัว
ใจยิ่งกลัวจากเจ้า จากแล้วจากเลย
ใดเอยเหงาเท่าน้อง ขาดเรียม
ใครเล่าจักเศร้าเทียม เทียบข้า
หากไร้พี่คงเปี่ยม อกแน่ น้ำตา
ร้องร่ำช้ำนองหน้า อ่าแก้มแต้มกาย
เรียมเอ๋ยอย่าเพิ่งท้อ กลัวไป ก่อนเลย
จงเชื่อมั่นเถอะใน รักแท้
รักแล้วแน่วคงใจ จักไม่ ผันแปร
ขอพี่จงอย่าแพ้ อย่าท้อก็พอ
จักมอบใจหนึ่งนี้ เป็นแรง กำลัง
และยังมิเปลี่ยนแปลง เชื่อได้
สัญญาหาได้แกล้ง หลอกพี่ อย่างใด
รักนั่นจักคงไว้ เคียงข้างตลอดนาน
เราสองครองคู่ข้าง เคียงกัน
รักร่วมเรียมนิรันทร์ ชั่วฟ้า
คำพูดใช่เปรยปั้น ปรุงแต่ง แกล้งมา
คือสื่อจากใจข้า บ่งรู้ความนัย
จับมือถือมั่นไว้ เคียงครอง
รักพี่พี่รักน้อง ต่างรู้
ยืนยันว่าเราสอง ปองร่วม ชีวา
รักกว่ารักยอดชู้ หนึ่งนี้คนเดียว
ขอเป็นคนของเธอ : โบ สุนิตา