1 เมษายน 2551 22:54 น.
นายธนา
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา
สิริล้ำบุญญา ธ ผ่องแผ้ว
จริยวัตรสง่าองค์ทรงเพริศแพร้ว
ดุจดวงแก้วแจ่มจรัสชัชวาล
ดังจันทร์ฉายร่ายแสงแจ้งราตรี
อร่ามราชกุมารี จักรีหาญ
ภาษาศิลป์ดนตรีปรีชาชาญ
ธ ทรงงานเพื่อราษฏร์ได้ร่มเย็น
สิรินทรดั่งอาทร พรจากฟ้า
มอบลงมาช่วยไทยไร้ทุกข์เข็ญ
พสกเหล่าเหนือใต้คลายลำเค็ญ
อีสานกลางล้วนเป็นอยู่สุขกัน
สองเมษามาบรรจบสมภพนาถ
ปวงข้าบาทน้อมถวายพรชัยมั่น
ขอพระองค์ทรงสราญทุกวานวัน
สถิตเป็นมิ่งขวัญนิรันดร์เทอญ ฯ
23 มีนาคม 2551 00:40 น.
นายธนา
เรไร ไห้หวน รัญจวนจิต
หริ่งหรีด หวีดหวิด ระงมเสียง
กบเขียด เรียงร้อย ถ้อยสำเนียง
ลมเจรียง หวาดหวิว ลอยลิ่วมา
นกแสก แทรกร้อง ก้องดังอยู่
หดหู่ หัวใจ ไฉนหนา
เสียงครวญ หวนโหย โชยพนา
ใดหนอ ก่อมา ช่างน่ากลัว
เดือนเด่น เดียวดาย ก็หายดับ
หลบลับ เมฆแฝง แสงสลัว
ราตรี ค่ำนี้ จึงมืดมัว
ลมรัว ไผ่ไหว ให้ระทม
หลับตา หาหาย ใจที่สั่น
หวาดหวั่น วังเวง เองขื่นขม
ใจเอย ตระหนก อกระบบ
ยามชม ค่ำที่ ไม่มีเธอ...
19 มีนาคม 2551 21:10 น.
นายธนา
ลมเผย แรงพลิ้ว ปลิวไหว
แกว่งไกว ใบหญ้า ช้าสาย
หญ้าแห้ง แจงทอด ยอดคลาย
ค่อยผาย ค่อยผ่อน อ่อนแรง
กอบแกบ แนบเสียง ลมโชย
ยอดหญ้า พร่ำโหย ร่างแห้ง
เหนื่อยแล้ว อ่อนล้า เกินแกง
ที่แกว่ง ที่กวัด พัดพา
ลมจ๋า พัดซา ได้ไหม
ข้าต้าน ไม่ไหว แล้วหนา
โปรดเถิด ลมช่วย เมตตา
อย่าพัด ให้ข้า หลุดไป
แต่ลม ก็หา ฟังเสียง
พัดเปรี้ยง ยอดหญ้า สั่นไหว
ขาดปลิว ลิ่วลอย ปล่อยใบ
ล่วงไล้ ราบพื้น ดื่นดิน
15 มีนาคม 2551 10:04 น.
นายธนา
ประณตน้อมนมัสการพระพุทธา
อีกบวงสรวงเทพเทวากษัตริย์เจ้า
ไหว้พระเสี้ยวเมืองทรงเมืองปราดเปรื่องท้าว
อัญเชิญเหล่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตไกล
อำนวยพรพัฒน์พิพิธสฤษฏ์ดล
บันดาลผลสิริสุขอสงไขย
ถวายแด่พระแม่หลวงของปวงไทย
ให้พลานามัย ธ ไพบูลย์
พระประชวรล้วนซ่านเศร้าเหล่าพสก
ร้อนรุ่มอกวิตกกังวลมิพ้นสูญ
พร่ำสวดมนต์มงคลคำนำจำรูญ
เพื่อเพิ่มพูนพระบุญญาบารมี
เฝ้าขอพรผ่านฟ้าทั่วหล้าแหล่ง
ให้ปรุงแต่งโอสถทิพยศรี
เพื่อรักษาสมเด็จพระราชินี
ให้คงคู่องค์จักรีนิจนิรันดร์
ขอให้สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระพลานามัย
แข็งแรงสมบูรณ์ และหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ววัน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมของเดชะฯ
ข้าพระพุทธเจ้า นายธนา
12 มีนาคม 2551 20:42 น.
นายธนา
หนุ่มวัยร้อนอ่อนหัดแต่จัดจ้าน
เพิ่งพ้นวัยอนุบาลมาสิบหนาว
เข้าชั้นมอหล่อเหลาหนวดเครายาว
ใส่เสือฟอร์มสีขาวกางเกงกากี
ส่วนสาวน้อยหน้าใสวัยแรกรุ่น
งามละไมอ่อนละมุนดรุณศรี
หนูอยากจะเป็นสาวเสียเต็มที
ระริกระรี้เกินแกงแต่งหน้าตา
ไอ้หนุ่มน้อยขี้มอไซด์เสียงแว๊นแว๊น
อีสาวน้อยก็วิ่งแจ้นแล่นถลา
กระโดดซ้อนท้ายเลยไม่เฉยชา
แล้วมันก็พาบิดไปที่ไหนกัน
จนต่อมาไม่นานเกิดเรื่องคาว
เมื่อแม่สาวมอต้นวัยค้นฝัน
เกิดท้องใหญ่ในคอซองน้องตั้งครรภ์
ยังไม่ทันจะนางสาวอื้อฉาวไป
เป็นบทเรียนวัยคะนองอยากลองรู้
ของหนึ่งคู่เด็กไทยสมัยใหม่
ที่ริอาจปล่อยตัวคิดไวไฟ
ผลสุดท้ายจึงจำใจก้มรับกรรม