2 พฤษภาคม 2551 18:06 น.
นายธนา
ลิ่วลมพัดสะบัดปลิวพลิ้วหญ้าแห้ง
ฟ้าอาบแสงแดงนวลชวนหลงใหล
อาทิตย์ลอยคล้อยต่ำลงรำไร
ก่อนเลือนหายลับไกลไปอีกวัน
ฝูงนกน้ำนานาลงล่าเล่น
เริงลมเย็นย่ำเย็นเป็นสุขสันต์
เพลงขลุ่ยเร้าเคล้าเสียงซอคลอคู่กัน
จึ่งรังสรรค์เพลงบ้านทุ่งดังฟุ้งมา
เสียงป้าเอิ้นเรียกแม่จอแจอยู่
ว่าจับปูมาได้หลายตะกร้า
แบ่งไปทำกับข้าวไหมเล่านา
ตำน้ำปู๋จิ้มผักป่าหน่อไม้ซาง
ไก่ขึ้นคอนนอนหลับลงกับค่ำ
จิ้งหรีดนำเสียงครวญหวนมิสร่าง
เดือนลอยเด่นเพ็ญอร่ามงามมิจาง
ฟ้าสว่างแสงดาวแพรวพราวจัง
ค่ำนี้....ที่บ้านนากลับมาเยี่ยม
คงความสุขเต็มเปี่ยมเหมือนครั้งหลัง
แม้นกระแสเมืองรุกไม่หยุดยั้ง
แต่บ้านนี้ก็ยังคงเหมือนเดิม
เพลงรักบ้านทุ่ง : ฝน ธนสุนทร
29 เมษายน 2551 22:29 น.
นายธนา
แด่ผู้หญิงคนหนึ่ง....
แม้นลมหนาวพัดเร้าสักเท่าใด
แต่หัวใจหนึ่งหญิงยิ่งทนสู้
ถูกตราหน้าว่าต่ำต้อยคำลบหลู่
แต่ใครเลยจะรู้ความเป็นจริง
จากเด็กหญิงบ้านนาหน้าตาสวย
ไม่ร่ำรวยจึงดิ้นรนทำทุกสิ่ง
เข้ากรุงเทพเพื่อหาหลักแหล่งพักพิง
จำทอดทิ้งท้องไร่ไกลแม่ ยาย
ด้วยเรียนน้อยด้อยรู้สู้โลกกว้าง
โอ้น้องนางถูกแมงดาพาไปขาย
อยากกลับบ้านแต่ก็กลัวจะอับอาย
ด้วยเสียหายเกินเกี่ยวจะเยียวยา
กลืนน้ำตาไหลออกให้ชอกช้ำ
ถูกขย้ำลบศักดิ์ศรีอันมีค่า
กลายเป็นหญิงโสเภณีถูกตรีตรา
สนองกาม ตัณหา ชายทั่วไป
เป็นของเล่นของใครในคืนนี้
ไม่อาจจะหลีกหนีวงจรได้
จำก้มหน้าทนทำอย่างช้ำใจ
โอ้ชีวิตหญิงบ้านไกลในเมือง(ห)ลวง
25 เมษายน 2551 13:44 น.
นายธนา
พระอาทิตย์สุขุมชุ่มไอฝน
อวลระคนหอมดินกลิ่นใบหญ้า
รุ้งเจ็ดสีระรี้ระริกอวดลีลา
เขียดคันนาร้องแอบแอบแบบเสียงลม
ทุ่งโคลนคล้ำดำลออรอต้นข้าว
ขอบฟ้าขาวสลับฟ้าสุดตาหน
ดอกบัวปริ่มริมหนองผ่องโกมล
คูณพร่ำหล่นร่วงโรยโปรยกลีบบาง
ปลาผลุบผุดโลดโพนกระโจนน้ำ
นกบินต่ำเลียบลงตรงทุ่งกว้าง
กอกกไหวใบอ้อคล้อยลอยลมพราง
จอกสะร่างข้างตลิ่งอิงแอบลอย
คือเมื่อคืนบ้านนาฝนฟ้าตก
เย็นชื่นอกทั้งใกล้ไกลไร้เศร้าสร้อย
ไม่เสียแรงที่ตั้งตาตั้งหน้าคอย
ให้ฟ้าปล่อยหยาดฝนพ่นพรมพรำ
22 เมษายน 2551 09:05 น.
นายธนา
เอ้อระเหยห่างหายสายผ่อนแผ่ว
ลมเจ้าไปไหนแล้วหรือแผ้วไหว
จึงไม่พัดจัดกระแสแผ่โชยไอ
ให้ชุ่มชื่นหัวใจใดสักครา
ยอดหญ้านิ่งมิทิ้งย้ายส่ายใบทอด
ไผ่ไม่ออดแอดสีดนตรีป่า
กางหันลมไร้แรงหมุนดุลพัดพา
ใบหญ้าคาหงอยเหงาเฝ้าเหี่ยวลง
ดูดอกอ้อรอปลิวพลิ้วสยาย
แมงปอหมายล้อลมสมประสงค์
แต่ลมไร้ผายพัดจัดไพรพง
เพราะยังคงร้างสายไหวเบาบาง
กิ่วกิ่วกิ่วกู่เรียกลมช่วยพรมพัด
เพื่อขจัดแรงร้อนให้อ่อนสร่าง
ให้เย็นรื่นชื่นใจอย่าได้จาง
ไม่อบอ้าวอ้างว้างอยู่อย่างนี้
ลมเจ้าเอ๋ยพัดไปแห่งไหนนา
โปรดเถิดโปรดกลับมายังที่นี่
กลับมาพัดให้ชื่นใจได้สักที
แล้วอย่าลี้หนีหายแห่งใดเลย
5 เมษายน 2551 12:36 น.
นายธนา
ย่างเข้าเดือนเมษาถึงคราร้อน
สายลมอ่อนผ่อนกระแสแผ่ไออบ
ทุ่งซางตอกอข้าวเกี่ยวยังเหลียวครบ
ยอดหญ้าซบหลบแสงแล้งมิคลาย
เจ้าพุทราสง่ากลางข้างก้ามปู
ไม้ประดู่ใบปลิวลิ่วร่วงหาย
ตะแบกยืนฝืนแกร่งมิแห้งตาย
ทองกวาวร่ายผลิดอกออกแทนใบ
พลิ้วแสดแดงแกว่งติงข้างกิ่งก้าน
งามเบ่งบานละลานต้นจนไสว
แลสดสีสีสดใสกลางนาใคร
สวยบาดใจสวยจับตาพาชื่นพลัน
ทองเจ้าเอ๋ยทองกวาวพราวสะพรั่ง
งดงามดั่งพุมทองของสวรรค์
แลอร่ามงามแสดสีสวยทั่วกัน
จึงเผลอหันแลมองเจ้าทองกวาว
พลิ้วลมพัดจัดช่อปลิวลิ่วหล่นร่วง
จากเรือนรวงลอยลงตรงทุ่งข้าว
แสดสะพรั่งวางพื้นดาษดื่นราว
หมู่ดวงดาวประดับฟ้าย่ำราตรี