31 พฤษภาคม 2550 16:09 น.
นายธนา
เพ็ญเดือนแจ่มแอร่มฟ้าราตรีนี้
รัศมีงามกระจ่างสว่างไสว
สถิตตรงดำรงกลางเป็นหัวใจ
เคียงข้างดาวอันสุกใสส่องสกาว
กำดอกไม้ธูปเทียนพร้อมน้อมบูชา
ถวายองค์ศาสดาสัมมาเจ้า
เนื่องในวันเพ็ญวิสาข์มาถึงคราว
ชำระใจให้ผ่องขาวบำเพ็ญบุญ
สร้างกุศลเวียนเทียนรอบศาสน์สถาน
โบสถ์วิหารพระปฏิมาพาใจอุ่น
ทักษิณาวรรตรำลึกถึงพุทธคุณ
สร้างผลบุญให้ผลกรรมชำระไป
รอบที่หนึ่งจึ่งบูชาศาสดาพุทธ
ด้วยจิตอันบริสุทธิ์และเลื่อมใส
รอบที่สองเทิดพระธรรมนำใส่ใจ
เพื่อหวังให้หลุดพ้นกิเลสมาร
รอบที่สามน้อมรำลึกคุณพระสงฆ์
ผู้ธำรงศาสนาพาสืบสาน
รักษาธรรมนำเทิดไว้ในห้วงกาล
ให้สืบนานสร้างศรัทธาประชาชน
เวียนเทียนครบสามรอบศาสน์สถาน
นมัสการพุทธบูชามหากุศล
แล้วกราบไหว้ขอพรมิ่งมงคล
ด้วยเหลือล้นศรัทธาพุทธคุณ...
30 พฤษภาคม 2550 19:07 น.
นายธนา
เทียนเล่มน้อยถูกจุดลุกไสว
เปลวส่องใสส่องแสงนวลสว่าง
ไล่มืดหมองที่ครองให้เบาบาง
แล้วกระจ่างท่ามกลางความมืดมัว
..................................................
เทียนเล่มน้อยเจ้างามสดใส
เปลวสั่นไหวแสงไฟสลัว
ลมเจ้าเอ๋ยอย่ามานะข้ากลัว
อย่ายวนยั่วให้เทียนต้องดับวาย
.................................................
เทียนเล่มน้อยน้ำตาเจ้าไหล
ไฟหนอไฟเผาไหม้ให้จางหาย
อีกไม่นานเจ้าคงสิ้นกาย
และเลือนหายเหลือไว้เพียงน้ำตา
...............................................
เทียนเล่มน้อยอย่าเพิ่งดับได้ไหม
อย่าเพิ่งมอดไปนะเจ้าเทียนจ๋า
รอเทียนดอกใหม่กำลังจะมา
คงอีกไม่ช้านะเจ้าเทียนเอย...
29 พฤษภาคม 2550 17:41 น.
นายธนา
.......สิริโฉมเพริศพริ้ง.......แพรวพรรณ
ผุดผ่องดั่งเพ็ญจันทร์.........แอร่มฟ้า
ราวนวลแม่นางสวรรค์......แบ่งภาค ลงมา
งามเนื้อน้องงามหน้า.........นางฟ้าหรือไร
.......งามคิดงามจิตรู้..........ปัญญา
งามยิ่งงามเสน่หา..............เพียบพร้อม
งามมาดมั่นลีลา.................เยื้องย่าง วางตัว
งามซึ้งชวนใจน้อม............ยอมเจ้านวลนาง
.......ดั่งดาวประดับฟ้า........จักรวาล
งามยิ่งล้ำประหนึ่งปาน.......วาดไว้
เจิดจรัสท่ามกลางกาล........ลือแม่ ลืองาม
งามยิ่งงามแท้ไซร้.............สมแล้วนางงาม
27 พฤษภาคม 2550 09:11 น.
นายธนา
หอมอบอวลชวนฝันจนหวั่นไหว
หอมดอกแก้วชื่นใจไอกลิ่นหอม
หอมดอกเจ้ายามใดได้ดมดอม
แก้วช่างหอมหอมหวนชวนชื่นใจ
...........................................
เจ้าดอกแก้วแผ้วผ่านกาลจวนบานแล้ว
แย้มกลีบแววแก้วขาวสกาวไสว
ส่งกลิ่นอวลหอมเหนือมวลดอกไม้ใด
หอมจับใจเมื่อสายลมพรมพัดมา
............................................
แก้วเจ้าเอ๋ยเจ้าเพิ่งเผยแย้มดอกกลีบ
อย่าเร่งรีบเบ่งบานก่อนกาลหนา
เจ้าจงคลี่กลีบสยายในเวลา
บานช้าช้าทีละน้อยค่อยค่อยบาน
............................................
อาจมีสีมีแสงกลั่นแกล้งเจ้า
อย่าได้หลงมัวเมาเจ้าจงต้าน
หากต้องพบประสบไปในภัยพาล
เจ้าจงหาญใช้ใจเจ้าเข้าข่มใจ
............................................
หากแม้นมีหมู่ภมรมาอ่อนยั่ว
จงครองตัวมั่นไว้ไม่เอนไหว
แก้วเจ้าจงทะนงหยิ่งอย่าเผลอใจ
อย่าให้ใครเด็ดเจ้าไปก่อนวัยควร
...........................................
ณ ในร่มพฤกษาท้าไสว
เหล่าดอกไม้ต่างอาศัยในร่มสวน
หนึ่งต้นแก้วขึ้นแทรกไว้กลางไม้มวล
ชูช่อชวนชื่นชมมาดมดอม
...........................................
ดอกเอ๋ยดอกแก้วบานแล้วหนอ
บานคอยรอผู้ใดได้กลิ่นหอม
กลิ่นประทับจับใจใครดมดอม
คงต้องน้อมยอมให้แก้วแน่แล้วเอย...
25 พฤษภาคม 2550 21:30 น.
นายธนา
เป็นหนุ่มลุ่มน้ำน่านบ้านท่าเหนือ
เพิ่งแตกเนื้อหนุ่มมาห้าหกหนาว
รูปไม่หล่อพ่อไม่รวยแถมอู้ลาว
จะมีใครไหนเล่ามาจนใจ
พอพูดไทยสำเนียงก็เน้อเหน่อ
ดูสิเออน่าอายขายหน้าไหม
สนทนาพาทีไม่ทันใคร
พูดอะไรซื่อซื่อสื่อออกมา
พ่อกับแม่ทำสวนและนาไร่
ปลูกข้าวผักผลไม้ไว้ขายค้า
ส่วนยายทำไม้กวาดอยู่กับตา
ปู่กับย่าขายลางสาดตลาดเย็น
หนุ่มเมืองท่าน้ำเหนืออุตรดิตถ์
ใช้ชีวิตพอเพียงเลี่ยงทุกเข็ญ
พอมีอยู่พอกินใช่ไม่ลำเค็ญ
ครอบครัวเป็นแสนสุขทุกวานวัน
เคยบนไว้กับพระแท่นศิลาอาสน์
ว่าตอนนี้ยังขาดคู่ขยัน
หากพระท่านดลให้สมใจพลัน
มีลิเกสามวันจัดแก้บน
หนุ่มเมืองนี้ไม่หลอกใครนะใจซื่อ
ถ้าชอบคือจะมีความสุขล้น
ไม่เจ้าชู้หรอกหนาอย่างกังวล
จะจีบใครสักคนยังอ๊ายอาย
แม่น้ำน่านยังคงผ่านชโลมไหล
กระแสใสบริสุทธิ์ไม่ขาดสาย
ใจหนุ่มเหนือเหลือสะอาดสมชาติชาย
จะมีใครไหนหมายมาร่วมทาง
ลูกพระยาพิชัยไร้คนรัก
อยากมีนักใครสักคนมาเคียงข้าง
หนุ่มอุตรดิตถ์คนนี้ยังอ้างว้าง
มีใครบ้างสนใจไหนบอกที