25 มิถุนายน 2550 06:53 น.
นายธนา
ย้อนเวลากลับไปหลายปีก่อน
ครั้งยังนอนในเปลฟังเห่กล่อม
แม่คอยปัดริ้นไรไม่ให้ตอม
พ่อเฝ้าหอมเฝ้ากอดจนแก้มชา
จนวันนี้ผ่านมายี่สิบเอ็ดหนาว
หลากเรื่องราวเวียนผ่านการศึกษา
ได้เติบใหญ่เรียนรู้พรูปัญญา
ตามคำสอนสั่งมาว่าตั้งใจ
หวังสานฝันของพ่อและของแม่
ไม่ย้อมแพ้แม้เหน็ดเหนื่อยยังสู้ไหว
เพราะมีพ่อและมีแม่เป็นแรงใจ
ให้มุ่งมั่นต่อไปที่ใจรอ
ถึงหนทางว่างเปล่าเส้นทางเปลี่ยว
จะแลเหลียวหาใครที่ไหนหนอ
พอหันหลังกลับไปยังมีพ่อ
แม่ก็รอคอยมอบปลอบหัวใจ
อาจมีบ้างบางครั้งรู้สึกท้อ
แต่เห็นเหงื่อของพ่อท้อไม่ได้
แม่ก็เหนื่อยทำงานอยู่เรื่อยไป
เพื่อส่งเงินมาให้ใช้ให้ได้เรียน
ขอสัญญาว่าจะไม่เหลวไหล
จะตั้งใจศึกษาพาอ่านเขียน
มุมานะมุ่งใจใฝ่การเรียน
ด้วยพรากเพียรสานฝันกตัญญู
จากบ้านมาเพื่อตามหาเส้นทางฝัน
และเชื่อมั่นต้องทำได้ให้เลิศหรู
บอกหัวใจอยู่ทุกวันว่าต้องสู้
พ่อและแม่คอยดูรู้คำนึง
อยากกลับบ้านไปหาจวนจะแย่
ก็ได้แต่โทรไปคลายคิดถึง
ได้ยินเสียงพร่ำพูดก็สุดซึ้ง
เปรียบประหนึ่งแรงใจให้ก้าวไป
มองหนทางข้างหน้าใกล้มาแล้ว
ด้วยแน่แนวสัญญาว่าทำได้
อีกไม่นานลูกจะต้องถึงเส้นชัย
ให้พ่อแม่ได้ดีใจกันสักที
เขียนฝันไว้ข้างฝา : รัชนก ศรีโลพันธ์
23 มิถุนายน 2550 00:31 น.
นายธนา
เอม อก...คิดถึง...เมื่อคิดถึง
ใจคอยเฝ้ารำพึงคำนึงหา
ถึงยอดหวงของดวงชีวา
รักหนักหนาเกินกล่าวเล่าความนัย
............................................
แม้นมิได้เคียงคู่อยู่เคียงข้าง
แต่ใจนี้มิเคยห่างร้างไปไหน
ยังคงมั่นรักพี่ยอดดวงใจ
จะเหลวไหลสักครั้งยังไม่มี
............................................
เอม อก...คิดถึง...แสนคิดถึง
ด้วยหวานซึ้งตรึงใจไม่หายหนี
เหลือหลงรักมากนักนะคนดี
ทั้งชีพพลีให้ได้แม้นต้องการ
............................................
ถึงห่างกายใช่ห่างใจอย่าไหวหวั่น
เรารักกันมั่นไว้ในความหวาน
เพียงเชื่อใจไม่มีใครมาแผ้วพาน
ฤๅระรานให้ชอกช้ำลำบากใจ
.............................................
ส่งความคิดถึงปลิวไปในอากาศ
คิดถึงพี่ใจจะขาดแล้วรู้ไหม
ฝากหอมแก้มผ่านสายลมพรมพาไป
บรรจงจูบแก้มใสของแก้วตา
.............................................
เอม อก...คิดถึง...กว่าคิดถึง
เกินกว่าชายคนหนึ่งคำนึงหา
คิดถึงพี่มากมายหลายเวลา
เฝ้าพร่ำเพ้อละเมอหาทุกนาที
อสงไขย : เดอะซิส
21 มิถุนายน 2550 19:53 น.
นายธนา
ปทุมาดาษดื่นเหนือพื้นน้ำ
สะพรั่งงามแย้มพริ้มอิ่มเกสร
กลีบสลวยสวยชวนมวลภมร
ให้บินร่อนลดเลี้ยวเทียวมาชม
บัวเบ่งบานบอบบางอยู่กลางหนอง
ให้แลมองชมพูดูงามสม
คล้อยเอนไหวส่ายก้านต้านสายลม
ตูมพนมดอกน้อยยังคอยบาน
เห็นบัวงามให้ตามคิดถึงคำสอน
ของเอกองค์ชินวรผู้แตกฉาน
สมเด็จพระพุทธองค์ผู้ทรงญาณ
ผู้เบิกบานหยั่งรู้อยู่ทุกครา
พระแบ่งบัวออกเป็นเช่นสี่เหล่า
แล้วเปรียบเข้ามนุษย์ให้ศึกษา
แทนดอกบัวให้เป็นเช่นปัญญา
นำธรรมามาสอนกร่อนจิตใจ
งามดอกบัวบานสะพรั่งอยู่กลางหนอง
จงเพ่งมองลงไปในน้ำใส
เห็นถึงหง่าวถึงกอที่ก่อไว้
แล้วทรงใช้ปัญญาพาเรื่องราว
ว่าบัวหนึ่งอยู่ในตมก้นธารา
เปรียบเป็นคนไรปัญญาแสนโง่เขลา
สอนเท่าไหร่ไม่รับไม่จับเอา
ต้องเปลื่อยเน่าลงไปอยู่ในดิน
บัวเหล่าสองเติบโตอยู่ในน้ำ
หากมีใครชี้นำคงแปรผิน
อาจโผล่พ้นพื้นน้ำงามรวยริน
และส่งกลิ่นชวนฝันวันต่อมา
บัวเหล่าสามคือบัวงามเสมอน้ำ
เปรียบดั่งคนฟังความรู้ภาษา
อธิบายเข้าใจใช้ปัญญา
อีกไม่ช้าก็เบ่งบานซาบซ่านใจ
และสุดท้ายคือบัวเหล่าที่สี่
บัวดอกนี้พ้นน้ำงามสดใส
คลี่กลีบออกดอกบานสะท้านใจ
ด้วยแจ่มใสแจ้งรู้พรูปัญญา
17 มิถุนายน 2550 20:24 น.
นายธนา
คิดถึง...พี่หน่อยหนอใจของพี่
คิดถึง...คนดีนะรู้บ้างไหม
คิดถึง...เหลือล้นเหลือล้ำกว่าใคร
คิดถึง...ดวงใจของพี่เสียจริง
ถึงตัวอยู่ไกลแต่ใจอยู่ใกล้
เจ้าจงมั่นใจพี่ไม่ทอดทิ้ง
รักใครแน่รักแท้แน่จริง
รักเจ้าเหนือยิ่งกว่าสิ่งใดใด
รักมาก...เกินกว่าจะหาคำเปรียบ
รักมาก...เกินเทียบจะเปรียบสิ่งไหน
รักมาก...เหลือล้นเสียจนหมดใจ
รักมาก...ไปไหมสงสัยรักเกิน....
เพลงคิดถึงพี่ไหม : จักรพรรณ อาบครบุรี
15 มิถุนายน 2550 20:15 น.
นายธนา
หงส์เหินหนแห่งหาวพราวพิลาส
ยุรยาตรย่างเยื้องเบื้องเวหา
เริงระบำรำร้องก้องนภา
ลอยถลาเล่นลมสมลำพอง
ชาติสง่าสูงส่งแห่งวงศ์เกียรติ
งามละเมียดดั่งพญาปักษาผอง
เชิดทะนงสมองค์ของหงส์ทอง
ใครต่างซ้องสรรเสริญกันเยินยอ
ชื่นชมโฉมลักษณากายาหงส์
โอดสะองเพริศพริ้งเสียจริงหนอ
อยากจะโยนบ่วงทองไปคล้องคอ
แล้วชะลอหงส์เหินมาเดินดิน
แม้นหมายปองจับจองเจ้าหงส์ฟ้า
แต่ก็ไกลเกินคว้ามาสู่ถิ่น
คงต้องปล่อยเจ้าลอยไปในทางบิน
ให้โผผินตามใจเถิดหงส์เอย
เพลงหงส์ฟ้า : แอน มิตรชัย