5 ธันวาคม 2551 19:01 น.
นายธนา
วะวาบวาวสุกสะพรั่งสว่างไสว
แช่มโชติช่วงชมวิไลทั้งไทยผอง
นวลระยิบกระพริบบ้างกระจ่างมอง
คือแสงเทียนสีทองส่องท้าดาว
บรรจงจุดเทียนน้อยร้อยหมื่นเล่ม
ให้สาดเต็มส่องสว่างถึงกลางหาว
ให้มวลเทพเทวา ณ ฟ้าพราว
ทราบเรื่องราวยินดีร่วมปรีดา
วโรกาสเฉลิมฉลองใจของราษฎร์
พระชนม์ยาตรแปดสิบเอ็ดพระชันษา
เหล่าข้าน้อมหลอมดวงใจทั่วไทยนา
ด้วยภักดีมิ่งฟ้า...ภูมิพล
ขอพระองค์ทรงเกษมเปรมปรีดิ์สันต์
สถิตเป็นมิ่งขวัญตราบไกลหน
เป็นหลักชาติหลักใจไทยทุกคน
ขอพระชนม์พระองค์มิ่งยิ่งพระเจริญ
จุดเทียนชัยไสวสว่างทั้งแผ่นผืน
กว่าแสนหมื่นตื้นตันสรรเสริญ
อีกล้านร้อยถ้อยพรกลอนอัญเชิญ
น้อมเกล้าเทินถวายให้ใจประชา..
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะฯ
ข้าพระพุทธเจ้า นายธนา
15 พฤศจิกายน 2551 10:38 น.
นายธนา
ดนตรีโหมประโคมลั่นสนั่นฟ้า
ทวยเทวาร่ายรำฟ้อนอย่างอ่อนหวาน
โปรยข้าวตอกดอกไม้ให้ตระการ
อธิษฐานรับเจ้าฟ้าสู่สุราลัย
ณ ห้วงหาวชาวสวรรค์คงครื้นเครง
กล่อมบรรเลงเพลงไพเราะเสนาะใส
เปรมปรีดาที่นางฟ้ากลับขึ้นไป
สู่สวรรคาลัยทิพย์เบื้องบน
ส่วน ณ ที่เมืองมนุษย์สุดเศร้าโศก
วิปโยคนองน้ำตาทั้งหล้าหน
เมื่อเจ้าฟ้าเสด็จพรากจากปวงชน
ไห้อาลัยเหลือล้นร่ำรำพัน
เหล่าข้าน้อมหลอมดวงจิตพิษฐาน
ส่งเสด็จพระวิญญาณสู่สวรรค์
ขอพระองค์ทรงเกษมสุขทุกวานวัน
ณ ดินแดนแห่งนั้นนิรันดร์เทอญ
น้อมส่งเสด็จ..
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา
กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ สู่สวรรคาลัย
ข้าพระพุทธเจ้า
นายธนา..
30 ตุลาคม 2551 21:31 น.
นายธนา
พิรุณลาละร้าง โรยลา
ฝนท้ายเทลงซา ค่ำเช้า
ละอองไออิ่มเวหา เอิบออบ เมฆนา
เย็นเนื้อเหลือเหน็บร้าว หนาวแล้วหรือไร
คืนคลุมคราค่ำคล้อย คือคราว
เดือนเด่นดาษดวงดาว ดื่นฟ้า
พรมพรูพร่างแพรวพราว หยาดน้ำ ค้างเฮย
ลมเชยฉิวเชื่องช้า ย่ำแล้วเหมันต์
งามงอนงอกเงยงิ้ว งดงาม
เติมแต่งต้นเต็มตาม ทุ่งท้อง
คือฤกษ์บ่งเบิกยาม หนาวย่ำ เยือนแฮ
ถึงคราวหนาวครองห้อง อาบฟ้าแลดิน
ลมหนาวคงหนาวเนื้อ ฉ่ำเย็น
แต่หนาวย่อมต้องเป็น เช่นนี้
ผิงไฟห่มผ้าเร้น อิงอุ่น ไอนา
หนาวคลายหายหลีกลี้ เมื่อรู้วิธีแปลง
ใครมิอาจทราบแจ้ง ประการใด
หนาวนี้หนาวเพียงไหน ไป่รู้
รู้เพียงว่าหนาวใจ อยู่ทุก ฤดูเฮย
หนาวกว่าหนาวเหลือสู้ สุดช้ำหนาวใจ
20 ตุลาคม 2551 09:44 น.
นายธนา
กับคำถามคำเดิมที่สงสัย
ว่าตัวเรามาทำอะไร ณ ที่นี่
จนเวลาผ่านเลยเกือบสี่ปี
หาคำตอบได้สักทีที่ถามนั้น
โอ้มวลเหล่าชาวนิสิตนักศึกษา
เรามุ่งหมายมั่นมาหาความฝัน
ตามเส้นทางร่างชีวิตที่คิดกัน
เพื่อสู่วันสมจินต์ปริญญา
เราอาศัยมหาวิทยาลัย
เป็นที่พึ่งพิงให้การศึกษา
เป็นที่สอนมิใช่เพียงแต่ตำรา
แต่สอนให้รู้ค่าชีวิตตน
สอนให้ทำสอนให้รู้สอนให้คิด
เรียนถูกผิดแก้ไขไม่สับสน
เพื่อพร้อมเป็นผู้ใหญ่รับใช้ชน
สอนให้คนเป็นคนพ้นจากตรม
จากปีหนึ่งปีสองสู่ปีสาม
เรียนรู้ความจำเพราะอย่างเหมาะสม
หลากแวดล้อมรอบข้างวางอบรม
ขัดเกลาปรับลับคมบ่มมิคลาย
จนปีสี่เทอมสุดท้ายใกล้มาถึง
จึงได้รู้แน่ซึ่งถึงความหมาย
มหาวิทยาลัยให้อะไรเรามากมาย
และพาเราสู่สายปัญญาชน
13 ตุลาคม 2551 22:29 น.
นายธนา
หอฉันอยู่ซอย ปากซอยมีเซเว่น
ฉันชอบไปซื้อ ซื้อของเซเว่น
อยากซื้ออะไร ซื้อได้เซเว่น
ขนมนมน้ำ น้ำหวานเซเว่น
ขนมจีบซาลาเปา ข้าวกล่องเซเว่น
รสชาติอร่อยดี ซื้อที่เซเว่น
เช้าเย็นเห็นคน คนเข้าเซเว่น
ผู้คนขวักไขว่ อยู่ในเซเว่น
วันหนึ่งหิวข้าว จึงเข้าเซเว่น
อยู่อยู่มีโจร โจรปล้นเซเว่น
โจรปล้นของไป ไปจากเซเว่น
ฉันยืนตกใจ ข้างในเซเว่น
แล้วฉันสงสัย ใครปล้นเซเว่น
เดือนร้อนอย่างไร ไยปล้นเซเว่น
ถึงหอเปิดทีวี ช่องที่เซเว่น
ดูข่าวเข้าใจ ทำไมปล้นเซเว่น
ก็ของแพงล้น เลยปล้นเซเว่น
โจรจึงชุกชม ซุ่มปล้นเซเว่น
**ผลงาน"เซเว่น"นี้ผมได้แรงบันดาลใจมากจากบทกวี
"บทกล้วยหาย" ของ วัฒน์ วรรลยางกูร